รวมข้อควรรู้ฉีดเมโสหน้าใส1000x860

ฉีดเมโสหน้าใส

ฉีดเมโสหน้าใส คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ? มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สิว ผดผื่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ อยากหน้าใสเร่งด่วน ฉีดเมโสหน้าใส ดีไหม ? กี่วันเห็นผล ? กี่ครั้งเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ? ก่อนตัดสินใจ ฉีด Meso หน้าใส มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร ? ควรศึกษาข้อมูลก่อนครับ

ปัจจุบันการฉีดเมโสหน้าใส เป็นวิธีทำให้หน้าใสที่ได้รับความนิยม ด้วยขั้นตอนที่สะดวก และเห็นผลเร็ว มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายสูตรครับ เพื่อความปลอดภัย ฉีดเมโสอันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงไหม ? เจ็บไหม ? ใช้กี่ CC ? ราคาเท่าไร ? หมอรวบรวมข้อควรรู้ก่อนฉีดเมโสไว้ในบทความนี้

สารบัญ ฉีดเมโสหน้าใส


ฉีดเมโสหน้าใส คืออะไร ?

เมโสหน้าใส (Mesotherapy) คือ การทำทรีตเมนต์บำรุงผิวขาวใส ในรูปแบบของการฉีดตัวยา ซึ่งเป็นสารบำรุงผิวต่าง ๆ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อผิว โดยจะฉีดเข้าสู่ผิวชั้นกลาง (Dermis) ซึ่งเป็นผิวชั้นสำคัญที่ประกอบไปด้วยคอลลาเจน และอีลาสติน ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เร่งด่วน เห็นผลไวกว่าการทาครีมที่เป็นการบำรุงอยู่เพียงผิวชั้นนอก เนื่องจากส่วนผสมบางตัวยังดูดซึมได้ยาก จึงทำให้เห็นผลช้า


ฉีดเมโสหน้าใส ช่วยอะไรบ้าง ?

การฉีดเมโสหน้าใส เป็นทางลัดในการบำรุงและฟื้นฟูผิวเร่งด่วน สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ดังนี้

  • ปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ ฟื้นฟูผิวคล้ำเสียจากแสงแดด
  • เติมความชุ่มชื้น บำรุงผิวล้ำลึก กระชับรูขุมขน ปรับใบหน้าให้ดูเรียบเนียน
  • กระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนัง ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
  • ขับสารพิษที่ตกค้าง ลดการอักเสบของผิว ลดสิว ผดผื่น บำรุงผิวให้แข็งแรง ดูสุขภาพดี
  • ฟื้นฟูเซลล์ผิวและชะลอการเสื่อมของคอลลาเจนในผิว
ฉีดเมโสหน้าใส ช่วยอะไรบ้าง

ปัญหาหน้าหมองคล้ำ หน้าไม่ใส เกิดจากอะไร ?

การใช้ชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้หลายคนละเลยการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องผิวพรรณ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ ดังนี้

สาเหตุของปัญหาหน้าหมองคล้ำ

  • อายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ กระบวนการผลัดเซลล์ผิวช้าลง ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ มีริ้วรอย และผิวหย่อนคล้อยร่วมด้วย
  • โดนแดดเป็นประจำ แสงแดด มีรังสี UV ที่ทำให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ดื่มน้ำไม่เพียงพอ ทำให้ผิวขาดน้ำ ไม่ชุ่มชื้น ดูแห้งกร้าน เหี่ยวย่น ไม่สดใส
  • นอนดึก ทำให้ผิวไม่ได้รับการซ่อมแซม ดูหมองคล้ำ ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ใบหน้าไม่สดใส ควรนอนหลับให้สนิทในช่วงเวลา 22.00-02.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) มาซ่อมแซมผิว
  • เครียด เวลาเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) เร่งให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ผลิตไขมันออกมามากขึ้น ทำให้เกิดสิว จุดด่างดำ หน้าหมองคล้ำ
  • อยู่ในห้องแอร์นาน ๆ หรือในที่ที่มีสภาพอากาศเย็น ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้ง แตก เป็นขุย ดูหมองคล้ำง่ายกว่าปกติ เนื่องจากผิวสูญเสียน้ำ
  • ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ดึงเอาวิตามินเอที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อผิวออกไป ส่วนบุหรี่มีทั้งสารพิษ และยังทำให้เลือดหมุนเวียนได้ไม่ดี ส่งผลให้ผิวดูสุขภาพไม่ดี แห้งกร้าน หมองคล้ำ

ปัญหาผิวหมองคล้ำ


วิธีการบำรุงให้หน้าขาวใส มีวิธีไหนบ้าง ?

วิธีการบำรุงให้หน้าขาวใส มีทั้งวิธีธรรมชาติและวิธีทางการแพทย์ ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละคนครับว่าอยากเห็นผลเร็วแค่ไหน หากต้องการให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น หมอแนะนำให้ใช้วิธีทางการแพทย์

วิธีช่วยให้หน้าใส

  • หลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่ควรให้ผิวสัมผัสกับรังสี UV โดยตรง หากต้องออกไปเจอแดดแรง ควรใส่หมวกหรือกางร่ม เพื่อป้องกันแสงแดด
  • ทาครีมกันแดด รังสี UV ไม่ได้มีเฉพาะในแสงแดดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงโทรทัศน์ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หลอดไฟ จึงควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอครับ ทั้งเวลาที่ออกแดดและอยู่ในร่ม
  • ทาครีมบำรุงผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูสุภาพดี เลือกครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง เพื่อให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
  • พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้เซลล์ได้ซ่อมแซมตัวเอง ผิวได้รับการฟื้นฟู ดูเปล่งปลั่งขึ้นครับ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ปลาทะเล ผัก ผลไม้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี โยเกิร์ต ชาเขียว เต้าหู้ สาหร่าย เพื่อเป็นการบำรุงผิวจากภายใน
  • ดื่มน้ำ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย 8-10 แก้ว/วัน (1.5-ลิตร) ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
  • หมั่นออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยให้ออกซิเจนในร่างกายหมุนเวียนดี ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ดูสดใส
  • รับประทานวิตามิน บำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันและชะลอปัญหาผิว โดยวิตามินที่นิยมจะมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี วิตามินอี ไลโคปีน คอลลาเจน และกลูตาไธโอน
  • ขัดผิวด้วยสมุนไพร ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออก เพื่อให้ผิวได้รับสารบำรุงต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
  • ทรีตเมนต์ผิว เช่น ใช้เครื่องพ่นละอองน้ำ นวดหน้ากระตุ้นการไหลเวียนโลหิต หรือมาสก์หน้า ช่วยให้ผิวสุขภาพดีขึ้น หน้าเนียนใสขึ้น
ปรึกษาหมอ อยากหน้าใส

ปรึกษาหมอ อยากหน้าใส

  • ฉีดเมโสหน้าใส ถ้าคนไข้ต้องการหน้าใสเร่งด่วน แนะนำการฉีดเมโสหน้าใส ช่วยบำรุงผิวกระจ่างใสขึ้นใน 1 สัปดาห์ มีหลายสูตรให้เลือกที่เหมาะกับปัญหาผิวครับ
  • ฉีดรีจูรัน จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับเมโสหน้าใส ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูสดใสแบบเร่งด่วน ลดรอยแดง ลดรอยดำ รอยคล้ำ กระชับรูขุมขนกว้าง หน้าเรียบเนียนขึ้น
  • ฉีดวิตามินซี หรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) ช่วยลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน แก้ปัญหาจุดด่างดำ เมื่อได้รับวิตามินซีอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยให้ผิวขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ฉีดฟิลเลอร์ Skin Booster ช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้เรียบเนียนใส ฟื้นบำรุงผิวให้ดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว หน้าใสเด้ง กระชับรูขุมขน หน้าเรียบเนียนขึ้น
  • Pico Laser เป็นการทำเลเซอร์หน้าใส พลังงานมีหลายระดับ การทำงานหลัก ๆ จะช่วยทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ ปรับสภาพผิวให้หน้าใส ลดรูขุมขนกว้าง แก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียนจากหลุมสิว
  • เลเซอร์หน้าใส IPL เป็นการยิงพลังงานลึกลงไปทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ลดการอักเสบของสิว และสิวเกิดขึ้นน้อยลง เหมาะกับคนที่อยากทำหน้าใส ไร้สิว
  • ทำโฟโน หรือโฟโนโฟเรซิส (Phonophoresis) เป็นการผลักตัวยาหรือวิตามิน เช่น วิตามินเอ วิตามินซี สารให้ความชุ่มชื้น และสารต้านอนุมูลอิสระเข้าผิวหนังอย่างรวดเร็ว ผ่านคลื่นเสียง (Ultrasonic Wave) เชื่อว่าเห็นผลมากกว่าการทาครีม แต่ในปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยยืนยัน
  • ทำไอออนโต หรือไอออนโตฟอเรสิส (Iontophoresis) เป็นการผลักวิตามินเข้าสู่ผิวเช่นเดียวกัน ต่างกันที่จะใช้กระแสไฟฟ้าพลังงานต่ำในการช่วยให้ตัวยาซึมเข้าสู่ผิว ช่วยลดสิว ฝ้า ผิวหมองคล้ำ
Vsquare_tips

ข้อควรรู้ : วิธีช่วยให้หน้าใสที่หมอกล่าวมาข้างต้น สามารถช่วยทำให้หน้าใส หรือผิวขาวขึ้นได้ แต่ถ้าอยากได้ผลลัพธ์เร่งด่วน เห็นผลไว หมอแนะนำการฉีดเมโสหน้าใสครับ เพราะเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นผิวโดยตรง จึงเห็นผลชัดเจนและรวดเร็วกว่า


ฉีดเมโส มีอะไรบ้าง ?

การฉีดเมโส หรือฉีดเมโสหน้าใส มีหลายประเภท บางครั้งนิยมเรียกชื่อตามการแก้ปัญหา เช่น เมโสฝ้า เมโสสิว หรือ Mesowhite ซึ่งจริง ๆ แล้วทั้งหมดก็คือการทำเมโสหน้าใสเหมือนกันครับ

ประเภทเมโส

  • เมโสสิว ช่วยขับสารพิษที่สะสมอยู่ในผิว ลดสิว ผิวอักเสบ ลดผื่นแพ้ ทำให้หน้าใสขึ้น
  • เมโสฝ้า คือ ช่วยชะลอการกระจายของฝ้า ฝ้าจางลงได้ 20-50 % ในบางเคส โดยผลการรักษาแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาและชนิดของฝ้า
  • เมโสกระชับรูขุมขน ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ต่อมไขมันทำงานน้อยลง หน้ามันน้อย รูขุมขนกระชับขึ้นได้
  • Mesowhite คือ การทำ Meso หน้าใสเหมือนกัน โดยแต่ละคลินิกจะมีสูตรตัวยาเฉพาะที่ต่างกัน จึงเรียกชื่อให้แตกต่างครับ

เมโสหน้าใสมีกี่แบบ ?

ในการแก้ปัญหาด้วยเมโสหน้าใส หมอแบ่งออกเป็น 3 แบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาของคนไข้ครับว่าต้องการเน้นทางด้านไหน

  • เน้นหน้าขาวใส มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้น เช่น vitamin A B C E, Transamin, Glutathione
  • เน้นหน้าใส มีส่วนผสมของคอลลาเจน และโคเอนไซม์ เป็นหลักครับ ทั้งสองตัวจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวฟูขึ้น และช่วยกระชับรูขุมขน
  • เน้นลดสิว-แก้ผื่น เมโสยี่ห้อที่มีจุดเด่นด้านนี้ คือ มาเด้ คอลลาเจน จะช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสมอยู่ในผิว และคอลลาเจนยังช่วยให้ต่อมไขมันทำงานลดลง ลดการเกิดสิว

รูปแบบการใช้เมโสหน้าใส

  • แบบฉีด ตัวยาบำรุงเข้าสู่ผิวชั้นกลางโดยตรง ทำให้ออกฤทธิ์ไวกว่าการบำรุงแบบทั่วไป ช่วยบำรุง ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและแก้ปัญหาต่าง ๆ ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น
  • แบบทา ส่วนใหญ่มีขายในอินเทอร์เน็ตเป็นครีมหรือเซรั่มที่ใช้บำรุงผิวครับ การเห็นผลก็เหมือนกับครีมทั่วๆ ไป ต้องรอให้ผิวซับตัวยาเข้าไป ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล ประสิทธิภาพจะต่างจากเมโสหน้าใสแบบฉีดมากครับ

ฉีดเมโสหน้าใส เหมาะกับใครบ้าง ?e

  • คนที่ต้องการปรับผิวใส ผิวขาวขึ้น สุขภาพดีขึ้น
  • คนที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ มีรูขุมขนกว้าง
  • คนที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวอักเสบ เป็นสิวมีผดผื่น
  • คนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง พักผ่อนน้อย ขี้เกียจทาครีม ต้องการฉีดหน้าขาวใสแบบเร่งด่วน
ฉีดเมโสเหมาะกับใคร หมอเอก

ฉีดเมโสหน้าใส มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

ข้อดี ฉีดเมโสหน้าใส

  • เห็นผลไวกว่าการทาครีม / เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • เมโสหน้าใสมีหลายสูตร แก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย
  • บำรุงผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดีอย่างปลอดภัย
  • หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
  • หากทำอย่างต่อเนื่องจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น
  • แต่งหน้าง่ายขึ้น เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น

ข้อเสีย ฉีดเมโสหน้าใส

การฉีดเมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่ไม่สามารถอยู่ได้ถาวรครับ และควรทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ถ้าใช้เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง เช่น แพทย์แทงเข็มเข้าไปในชั้นผิวที่ลึกเกินไป จะเกิดแผลเป็นขึ้นบนใบหน้า หรือหากแทงเข็มตื้นเกิน จะทำให้ตัวยาลงไปในชั้นผิวได้น้อย จึงเห็นผลน้อย และตัวยาลดประสิทธิภาพลง


ฉีดเมโสหน้าใส อันตรายไหม ?

การฉีดเมโสหน้าใสมีความปลอดภัย ส่วนผสมในตัวยาเมโสประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ เป็นวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุง และเสริมให้ผิวแข็งแรง


ฉีดเมโสหน้าใสเจ็บไหม ?

คนที่ยังไม่เคยฉีดเมโสหน้าใสมาก่อน หรือฉีดเมโสหน้าใสครั้งแรก อาจมีความกังวลเพราะกลัวการจิ้มเข็มลงบนใบหน้า หมออธิบายอย่างนี้ครับว่า ปกติการทำเมโสจะจิ้มเข็มลงในชั้นผิว ลึกเพียง 5-10 มิลลิเมตรเท่านั้น เนื่องจากฉีดผิวชั้นกลาง ปริมาณตัวยาไม่มากและใช้เวลาไม่นาน จึงไม่เจ็บมาก อาจรู้สึกถึงความร้อนที่ผิวบ้างเพียงเล็กน้อย และไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา ประคบน้ำแข็งก่อนฉีดก็เพียงพอครับ


ข้อควรรู้และการปฏิบัติตัวก่อนฉีดเมโสหน้าใส

ปรึกษาแพทย์ แจ้งความกังวล และให้หมอประเมินสภาพผิวหน้าว่าควรฉีดสูตรใด ถึงจะแก้ปัญหาได้ตรงจุด ในระหว่างนี้หากคนไข้มีโรคประจำตัว มีการรับประทานยา หรือมีประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งข้อมูลเหล่านี้ก่อนฉีดทุกครั้งครับ


ขั้นตอนการฉีดเมโสหน้าใส

การฉีดเมโสหน้าใส ใช้เวลาไม่นาน ขั้นตอนการฉีดไม่ยุ่งยาก โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • ก่อนทำการฉีดจะมีการทำความสะอาดผิวหน้า หากคนที่กลัวเจ็บมาก ๆ สามารถขอแปะยาชาได้ครับ โดยจะแปะยาชาประมาณ 30-45 นาที แต่โดยทั่วไปการฉีดเมโสหน้าใสจะไม่เจ็บมาก ใช้แค่การประคบเย็นแทนได้ เพราะฉีดลงไปในชั้นผิวที่ไม่ลึก
  • หลังฉีดเสร็จอาจจะเห็นรอยแดงจากรอยเข็ม หายได้เองภายใน 2-3 ชั่วโมง คนไข้สามารถใช้หน้า ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเลยครับ

วิธีการฉีดเมโสหน้าใส

วิธีฉีดเมโสหน้าใสมีอยู่ 2 แบบ คือ เมโสหน้าใสแบบสะกิด และเมโสหน้าใส 16 จุด

  • เมโสสะกิดหน้าใส เป็นวิธีการฉีดเมโสแบบเก่า ทำโดยการสะกิดเข็มทั่วใบหน้า ปัจจุบันไม่นิยมทำแล้วครับ แต่หลายคลินิกยังใช้อยู่ เพราะมีผลข้างเคียง เช่น ถ้าระหว่างฉีดรักษาความสะอาดไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อตามมา มีผื่นแดงจากรอยเข็ม หรือมีรอยช้ำ
  • เมโสหน้าใส 16 จุด ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากกว่า เป็นเทคนิคการฉีดตามจุดฝังเข็ม 16 จุดทั่วใบหน้า เทคนิคนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนังทำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายที่มีผลต่อสุขภาพผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรง แลดูสุขภาพดี มีความปลอดภัย เป็นแผลน้อยกว่า เจ็บน้อยกว่า ตัวยาออกฤทธิ์ได้ดีและยาวนานกว่าครับ

เมโสหน้าใสรีวิว

ก่อนฉีดเมโสหน้าใส รีวิว

แพทย์ตรวจประเมินสภาพผิว ก่อนเลือกยี่ห้อเมโสหน้าใส

ขณะแพทย์ฉีดเมโสหน้าใส มีการประคบเย็นลดความเจ็บ

หลังฉีดเมโสหน้าใส รีวิว

หลังฉีดเมโสหน้าใสทันที ผิวชุ่มชื้น ใบหน้าสดใส ดูสุขภาพดี


ฉีดเมโสหน้าใส หน้าบวมกี่วัน ?

อาการบวมหลังฉีด ไม่กี่ชั่วโมงก็ยุบครับ อาจมีรอยบวมจากเข็มที่ฉีดในบางเคส หายได้เองใน 1-3 วัน


ฉีดเมโสหน้าใส กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดเมโสหน้าใส จะเริ่มเห็นผลใน 3 วัน เห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน


ฉีดเมโสหน้าใสบ่อยแค่ไหน ? กี่ครั้งเห็นผล ?

เมโสหน้าใส ฉีดได้บ่อยครับ ในคนที่ไม่ได้มีปัญหาผิวมาก ฉีดครั้งแรกก็เห็นการเปลี่ยนแปลง หมอแนะนำให้ฉีดอาทิตย์ละ 1 ครั้งในเดือนแรก จะรู้สึกได้ว่าผิวหน้าจะชุ่มชื้น ดูสุขภาพดีขึ้นครับ หลังจากนั้นฉีดทุก ๆ 2-3 อาทิตย์ เพื่อคงสภาพผิว


เมโสหน้าใส อยู่ได้นานไหม ? อยู่ได้กี่เดือน ?

การฉีดเมโสหน้าใส ผลลัพธ์จะไม่ได้อยู่ถาวร หลังฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน หากฉีดต่อเนื่อง ร่วมกับการดูแลตัวเองก็จะช่วยคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น


ข้อห้าม และการดูแลตัวเองหลังรักษาด้วย Meso Therapy

หลังฉีดเมโสหน้าใส สามารถใช้หน้า ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ การดูแลตัวเองไม่ยุ่งยาก แต่ก็จะมีข้อห้าม ป้องกันการอักเสบ ระคายเคือง และควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว ดังนี้

  • ห้ามสัมผัส กด นวดผิวบริเวณที่ฉีดในช่วง 1-2 คืนแรก
  • หลีกเลี่ยงการกด นวดผิว บริเวณที่ทำทันที ในช่วง 1-2 คืนแรกหลังฉีด
  • งดทาครีมบริเวณที่ฉีดเมโส 1 คืน ป้องกันการอักเสบ
  • ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอย่างเบามือ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว
  • ดื่มน้ำเยอะ ๆ 8-10 แก้ว (1.5-2 ลิตร) เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 PA+++
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ อาหารหมักดอง ของทอด ของหวาน น้ำอัดลม
  • รับประทานยาแก้ปวดและประคบเย็นได้ หากมีอาการปวด บวม หรือช้ำจากรอยเข็มที่ฉีด

ผลข้างเคียงของการฉีดเมโสหน้าใส

ผลข้างเคียงที่พบส่วนใหญ่จะเป็นเมโสที่ซื้อมาฉีดเอง ซื้อทางอินเทอร์เน็ต หรือฉีดกับหมอกระเป๋า ใช้ตัวยาไม่ได้มาตรฐาน มีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือฮอร์โมนซึ่งอันตรายครับ จะเห็นผลดีแค่ในช่วงแรก ผิวจะดูขาว เนียนนุ่มขึ้น แต่อาจเกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น มีผื่นแดง บวมแดง เป็นก้อน จากการอักเสบติดเชื้อ หรือร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนัง เพราะผิวบางลง ไวต่อแดด

ดังนั้น ไม่ควรซื้อเมโสมาฉีดเองเด็ดขาด ควรไปฉีดเมโสหน้าใสที่คลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ตัวยาแท้เท่านั้น


เมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี ?

เมโสหน้าใส มีหลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นต่างกัน เพื่อให้แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาของคนไข้ เช่น ต้องการเน้นผิวขาว ผิวขาวใส หรือลดผดผื่น

ยี่ห้อเมโสหน้าใส

ยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ได้รับความนิยม เช่น

ยี่ห้อเมโสหน้าใส จุดเด่น เหมาะกับใคร
Filorga / Revs บำรุงผิวกระจ่างใส ลดฝ้า เติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ ช่วยบำรุงผิวแบบ premium คนที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดการบำรุง
Tensonez ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ คนที่มีผิวแห้งเสียจากแสงแดด ดูหมองคล้ำ
Alpha arbutin ลดฝ้าโดยตรง คนที่มีปัญหาฝ้า
Neo Glutanex Glow บำรุงผิวชุ่มชื้น ปรับสีผิวขาวอมชมพู ลดริ้วรอยฝ้า กระ รอยสิว กระชับรูขุมขน คนที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ ต้องการกระชับรูขุมขน มีรอยแดงสิว
Made Collagen ลดสิว ลดผื่น ฝ้า กระ ริ้วรอย จุดด่างดำ ขับสารพิษ คนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดี ผิวยืดหยุ่นและแข็งแรง

ฉีดเมโสหน้าใส ใช้กี่ CC ?

ในการฉีดเมโสหน้าใสจะนับเป็นครั้ง ฉีดแบบเหมาขวดครับ แต่ละยี่ห้อจะมีจำนวน CC ต่อขวดไม่เท่ากัน เช่น 4 CC, 5 CC, 10 CC บางยี่ห้อต้องมีการผสมตัวยา เช่น มาเด้คอลลาเจน ประกอบด้วย Made 2 CC และ Collagen 2 CC รวม 4 CC


เมโสหน้าใส กับมาเด้คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร ?

เมโสหน้าใส-กับมาเด้คอลลาเจน
  • เมโสหน้าใส คือ การฉีดวิตามินและสารบำรุงเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง โดยเฉพาะตัวที่ดูดซึมได้ยากจากการทา เช่น Vitamin A, B, C, E Transamin, Glutatione, คอลลาเจน, โคเอนไซม์ ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ช่วยบำรุงผิวขาว ใส ดูสุขภาพดีแบบเร่งด่วน
  • มาเด้คอลลาเจน คือ ยี่ห้อเมโสหน้าใส มีจุดเด่นช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิว ลดผิวอักเสบ ลดผื่นแพ้ ลดสิว หน้าขาวใสขึ้น

มาเด้คอลลาเจน

มาเด้คอลลาเจน เป็นหนึ่งในยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ได้รับความนิยมครับ ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็น ผื่น สิว ฝ้า กระ ริ้วรอย จุดด่างดำ ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากมลภาวะหรือสารพิษที่ตกค้างในผิว พร้อมปรับสมดุลผิวให้แข็งแรง ช่วยชะลอการเสื่อมของคอลลาเจน ไฮยาลูโรนิก แอซิด และ fibroblast ในชั้นผิว


การฉีดเมโสหน้าใส ต่างจากเลเซอร์หน้าใสอย่างไร ?

การฉีดเมโสหน้าใส กับ เลเซอร์หน้าใส แม้จะหวังผลลัพธ์เหมือนกัน แต่วิธีการต่างกัน เมโสหน้าใส เป็นการบำรุงผิวขาวใสเร่งด่วน ด้วยการฉีดวิตามินและสารบำรุงผิวต่าง ๆ ถึงผิวชั้นใน เพื่อฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน จึงเห็นผลไว

ส่วนเลเซอร์หน้าใส เป็นการใช้เครื่องมือยิงพลังงานเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดการทำงานของเม็ดสี ทำให้ผิวขาวใสขึ้น แต่เนื่องจากเม็ดสีของผิวชั้นบนมีส่วนช่วยในการป้องกันแสงแดด คนที่มีผิวจะบอบบางเป็นพิเศษ อาจทำให้ผิวไวต่อแดดได้มากขึ้น


ฉีดเมโสหน้าใสดีไหม ?

สำหรับคนที่อยากหน้าขาวใส แต่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองหรืออยากได้ผลลัพธ์ที่เร่งด่วน การฉีดเมโสหน้าใส ถือเป็นทางลัดในการบำรุงผิว จากปกติทาครีมบำรุงใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะเห็นผลชัดเจน แต่เมโสหน้าใสประมาณวันที่ 3 ก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงว่าผิวดีขึ้นแล้วครับ ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้


ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี ?

ก่อนเลือกคลินิกฉีดเมโสหน้าใส สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือเรื่องของความปลอดภัย เช่นเดียวกับฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อก หรือในทุก ๆ ทุกหัตถการความงาม โดยหลัก ๆ มีข้อควรพิจารณาตาม ดังนี้

  • มาตรฐานของคลินิก : ต้องเป็นคลินิกที่เปิดให้บริการถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ภายในคลินิกสะอาด ปลอดเชื้อ อุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
  • ประสบการณ์ของแพทย์ : ต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช่หมอกระเป๋าที่รับฉีดตามบ้าน/คอนโด ไม่รู้เทคนิคการฉีด ใช้ตัวยาเมโสปลอม เสี่ยงเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ครับ
  • ตัวยาเมโสหน้าใส : ปัจจุบันเมโสปลอมมีขายกันตามอินเทอร์เน็ต ทำเลียนแบบออกมาเหมือนของแท้ 100% แต่เหมือนแค่แพ็กเกจเท่านั้น ตัวยาเป็นของปลอม แหล่งที่มาไม่ชัดเจน ดังนั้นต้องมั่นใจว่าตัวยาที่จะฉีด เป็นเมโสแท้ที่แพทย์สั่งจากบริษัทนำเข้าที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. ถึงจะมั่นใจได้ในความปลอดภัย

ฉีดเมโสหน้าใสที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ฉีดเมโสหน้าใส ที่ V Square Clinic เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทีมแพทย์มีประสบการณ์ ก่อนฉีดจะมีการตรวจประเมินเพื่อปรับสูตรเมโสให้เหมาะกับสภาพผิว และใช้ตัวยาเมโสแท้ โดยที่คลินิกมีให้เลือกหลายยี่ห้อครับ สามารถแก้ปัญหาผิวที่คนไข้เป็นกังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความหมองคล้ำ จุดด่างดำ สิว ฝ้า กระ ได้อย่างตรงจุด


เมโสหน้าใสราคา

ฉีดเมโสหน้าใส ราคาไม่แพงครับ เริ่มต้นที่ 2,500 บาท/ครั้ง แต่ละคลินิกแตกต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อเมโส ถ้าต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน หรือหมอแนะนำให้ฉีดบ่อยในช่วงแรก ก็สามารถซื้อแบบเป็นคอร์ส ฉีดต่อเนื่อง 5 ครั้ง จะคุ้มกว่าครับ

โปรโมชั่นฉีดเมโสหน้าใส ที่ V Square Clinic

โปรโมชั่นฉีดเมโส

Q&A ฉีดเมโสหน้าใส

เมโสหน้าใสแบบทา ได้ผลจริงไหม ?

เมโสหน้าใสแบบทา จัดอยู่ในหมวดครีมหรือเซรั่มบำรุงผิว ให้ผลลัพธ์เหมือนกับการครีมโดยทั่วไป ที่กว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะการทาต้องรอให้ตัวยาดูดซึมเข้าสู่ผิว จะไม่เหมือนการฉีดที่เป็นการฉีดตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ประสิทธิภาพและระยะเวลาเห็นผลจึงแตกต่างกัน

ฉีดเมโสหน้าใสแต่งหน้าได้ไหม ?

หลังฉีดเมโสสามารถแต่งหน้าได้ปกติ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ คนไข้บางเคสแวะมาฉีดเมโสหน้าใสในช่วงพักกลางวันแล้วกลับไปทำงานต่อก็มีครับ ไม่ถึงกับต้องพักหน้า แต่ถ้าหากกลัวว่าจะเกิดการระคายเคืองจากเครื่องสำอาง หมอแนะนำให้เลี่ยงก่อนครับ

ฉีดเมโสหน้าใส ดื่มแอลกอฮอล์ได้ไหม ?

ถ้าอยากคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน ๆ ข้อนี้สำคัญครับ หลังฉีดเมโสหน้าใสควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้มีสารพิษตกค้างในร่างกาย ก่อให้เกิดสิว และการดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้ร่างกายขับน้ำออกมามากกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน เหี่ยวย่น และดูแก่กว่าวัยอีกด้วยครับ


สรุป

การฉีดเมโสหน้าใส ช่วยให้หน้าใสขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว เช่น คนที่ทาครีมบำรุงแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลช้า คนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการผิวหน้าขาวใส ผิวเรียบเนียน ดูสุขภาพดี แบบเร่งด่วน ที่ V Square Clinic มีบริการ Meso Therapy หลายยี่ห้อให้แพทย์เลือกใช้เพื่อแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คนไข้ต้องการครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ34คน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า