ฉีดเมโสหน้าใส
ฉีดเมโสหน้าใส คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ? มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สิว ผดผื่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ อยากหน้าใสเร่งด่วน ฉีดเมโสหน้าใส ดีไหม ? กี่วันเห็นผล ? กี่ครั้งเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ? ก่อนตัดสินใจ ฉีด Meso หน้าใส มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร ? ควรศึกษาข้อมูลก่อนครับ
ปัจจุบันการฉีดเมโสหน้าใส เป็นวิธีทำให้หน้าใสที่ได้รับความนิยม ด้วยขั้นตอนที่สะดวก และเห็นผลเร็ว มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายสูตรครับ เพื่อความปลอดภัย ฉีดเมโสอันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงไหม ? เจ็บไหม ? ใช้กี่ CC ? ราคาเท่าไร ? หมอรวบรวมข้อควรรู้ก่อนฉีดเมโสไว้ในบทความนี้
สารบัญ ฉีดเมโสหน้าใส
- ฉีดเมโสหน้าใส คืออะไร ?
- ฉีดเมโสหน้าใส ช่วยอะไรบ้าง ?
- ปัญหาหน้าหมองคล้ำ หน้าไม่ใส เกิดจากอะไร ?
- วิธีการบำรุงให้หน้าขาวใส มีวิธีไหนบ้าง ?
- ฉีดเมโส มีอะไรบ้าง ?
- เมโสหน้าใสมีกี่แบบ ?
- ฉีดเมโสหน้าใส เหมาะกับใครบ้าง ?
- ฉีดเมโสหน้าใส มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
- ฉีดเมโสหน้าใส อันตรายไหม ?
- ฉีดเมโสหน้าใสเจ็บไหม ?
- ข้อควรรู้และการปฏิบัติตัวก่อนฉีดเมโสหน้าใส
- ขั้นตอนการฉีดเมโสหน้าใส
- วิธีการฉีดเมโสหน้าใส
- เมโสหน้าใสรีวิว
- ฉีดเมโสหน้าใส หน้าบวมกี่วัน ?
- ฉีดเมโสหน้าใส กี่วันเห็นผล ?
- ฉีดเมโสหน้าใสบ่อยแค่ไหน ? กี่ครั้งเห็นผล ?
- เมโสหน้าใส อยู่ได้นานไหม ? อยู่ได้กี่เดือน ?
- ข้อห้าม และการดูแลตัวเองหลังรักษาด้วย Meso Therapy
- ผลข้างเคียงของการฉีดเมโสหน้าใส
- เมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี ?
- ฉีดเมโสหน้าใส ใช้กี่ CC ?
- เมโสหน้าใส กับมาเด้คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร ?
- มาเด้คอลลาเจน
- การฉีดเมโสหน้าใส ต่างจากเลเซอร์หน้าใสอย่างไร ?
- ฉีดเมโสหน้าใสดีไหม ?
- ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี ?
- ฉีดเมโสหน้าใสที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
- เมโสหน้าใสราคา
- โปรโมชั่นฉีดเมโสหน้าใส ที่ V Square Clinic
- Q&A ฉีดเมโสหน้าใส
ฉีดเมโสหน้าใส คืออะไร ?
เมโสหน้าใส (Mesotherapy) คือ การทำทรีตเมนต์บำรุงผิวขาวใส ในรูปแบบของการฉีดตัวยา ซึ่งเป็นสารบำรุงผิวต่าง ๆ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อผิว โดยจะฉีดเข้าสู่ผิวชั้นกลาง (Dermis) ซึ่งเป็นผิวชั้นสำคัญที่ประกอบไปด้วยคอลลาเจน และอีลาสติน ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เร่งด่วน เห็นผลไวกว่าการทาครีมที่เป็นการบำรุงอยู่เพียงผิวชั้นนอก เนื่องจากส่วนผสมบางตัวยังดูดซึมได้ยาก จึงทำให้เห็นผลช้า
ฉีดเมโสหน้าใส ช่วยอะไรบ้าง ?
การฉีดเมโสหน้าใส เป็นทางลัดในการบำรุงและฟื้นฟูผิวเร่งด่วน สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ดังนี้
- ปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ ฟื้นฟูผิวคล้ำเสียจากแสงแดด
- เติมความชุ่มชื้น บำรุงผิวล้ำลึก กระชับรูขุมขน ปรับใบหน้าให้ดูเรียบเนียน
- กระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนัง ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
- ขับสารพิษที่ตกค้าง ลดการอักเสบของผิว ลดสิว ผดผื่น บำรุงผิวให้แข็งแรง ดูสุขภาพดี
- ฟื้นฟูเซลล์ผิวและชะลอการเสื่อมของคอลลาเจนในผิว
สาเหตุของปัญหาหน้าหมองคล้ำ
- อายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ กระบวนการผลัดเซลล์ผิวช้าลง ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ มีริ้วรอย และผิวหย่อนคล้อยร่วมด้วย
- โดนแดดเป็นประจำ แสงแดด มีรังสี UV ที่ทำให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- ดื่มน้ำไม่เพียงพอ ทำให้ผิวขาดน้ำ ไม่ชุ่มชื้น ดูแห้งกร้าน เหี่ยวย่น ไม่สดใส
- นอนดึก ทำให้ผิวไม่ได้รับการซ่อมแซม ดูหมองคล้ำ ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ใบหน้าไม่สดใส ควรนอนหลับให้สนิทในช่วงเวลา 22.00-02.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) มาซ่อมแซมผิว
- เครียด เวลาเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) เร่งให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ผลิตไขมันออกมามากขึ้น ทำให้เกิดสิว จุดด่างดำ หน้าหมองคล้ำ
- อยู่ในห้องแอร์นาน ๆ หรือในที่ที่มีสภาพอากาศเย็น ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้ง แตก เป็นขุย ดูหมองคล้ำง่ายกว่าปกติ เนื่องจากผิวสูญเสียน้ำ
- ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ดึงเอาวิตามินเอที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อผิวออกไป ส่วนบุหรี่มีทั้งสารพิษ และยังทำให้เลือดหมุนเวียนได้ไม่ดี ส่งผลให้ผิวดูสุขภาพไม่ดี แห้งกร้าน หมองคล้ำ
วิธีช่วยให้หน้าใส
- หลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่ควรให้ผิวสัมผัสกับรังสี UV โดยตรง หากต้องออกไปเจอแดดแรง ควรใส่หมวกหรือกางร่ม เพื่อป้องกันแสงแดด
- ทาครีมกันแดด รังสี UV ไม่ได้มีเฉพาะในแสงแดดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงโทรทัศน์ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หลอดไฟ จึงควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอครับ ทั้งเวลาที่ออกแดดและอยู่ในร่ม
- ทาครีมบำรุงผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูสุภาพดี เลือกครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง เพื่อให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้เซลล์ได้ซ่อมแซมตัวเอง ผิวได้รับการฟื้นฟู ดูเปล่งปลั่งขึ้นครับ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ปลาทะเล ผัก ผลไม้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี โยเกิร์ต ชาเขียว เต้าหู้ สาหร่าย เพื่อเป็นการบำรุงผิวจากภายใน
- ดื่มน้ำ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย 8-10 แก้ว/วัน (1.5-ลิตร) ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
- หมั่นออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยให้ออกซิเจนในร่างกายหมุนเวียนดี ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ดูสดใส
- รับประทานวิตามิน บำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันและชะลอปัญหาผิว โดยวิตามินที่นิยมจะมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี วิตามินอี ไลโคปีน คอลลาเจน และกลูตาไธโอน
- ขัดผิวด้วยสมุนไพร ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออก เพื่อให้ผิวได้รับสารบำรุงต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
- ทรีตเมนต์ผิว เช่น ใช้เครื่องพ่นละอองน้ำ นวดหน้ากระตุ้นการไหลเวียนโลหิต หรือมาสก์หน้า ช่วยให้ผิวสุขภาพดีขึ้น หน้าเนียนใสขึ้น
- ฉีดเมโสหน้าใส ถ้าคนไข้ต้องการหน้าใสเร่งด่วน แนะนำการฉีดเมโสหน้าใส ช่วยบำรุงผิวกระจ่างใสขึ้นใน 1 สัปดาห์ มีหลายสูตรให้เลือกที่เหมาะกับปัญหาผิวครับ
- ฉีดรีจูรัน จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับเมโสหน้าใส ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูสดใสแบบเร่งด่วน ลดรอยแดง ลดรอยดำ รอยคล้ำ กระชับรูขุมขนกว้าง หน้าเรียบเนียนขึ้น
- ฉีดวิตามินซี หรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) ช่วยลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน แก้ปัญหาจุดด่างดำ เมื่อได้รับวิตามินซีอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยให้ผิวขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ฉีดฟิลเลอร์ Skin Booster ช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้เรียบเนียนใส ฟื้นบำรุงผิวให้ดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว หน้าใสเด้ง กระชับรูขุมขน หน้าเรียบเนียนขึ้น
- Pico Laser เป็นการทำเลเซอร์หน้าใส พลังงานมีหลายระดับ การทำงานหลัก ๆ จะช่วยทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ ปรับสภาพผิวให้หน้าใส ลดรูขุมขนกว้าง แก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียนจากหลุมสิว
- เลเซอร์หน้าใส IPL เป็นการยิงพลังงานลึกลงไปทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ลดการอักเสบของสิว และสิวเกิดขึ้นน้อยลง เหมาะกับคนที่อยากทำหน้าใส ไร้สิว
- ทำโฟโน หรือโฟโนโฟเรซิส (Phonophoresis) เป็นการผลักตัวยาหรือวิตามิน เช่น วิตามินเอ วิตามินซี สารให้ความชุ่มชื้น และสารต้านอนุมูลอิสระเข้าผิวหนังอย่างรวดเร็ว ผ่านคลื่นเสียง (Ultrasonic Wave) เชื่อว่าเห็นผลมากกว่าการทาครีม แต่ในปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยยืนยัน
- ทำไอออนโต หรือไอออนโตฟอเรสิส (Iontophoresis) เป็นการผลักวิตามินเข้าสู่ผิวเช่นเดียวกัน ต่างกันที่จะใช้กระแสไฟฟ้าพลังงานต่ำในการช่วยให้ตัวยาซึมเข้าสู่ผิว ช่วยลดสิว ฝ้า ผิวหมองคล้ำ
“ ข้อควรรู้ : วิธีช่วยให้หน้าใสที่หมอกล่าวมาข้างต้น สามารถช่วยทำให้หน้าใส หรือผิวขาวขึ้นได้ แต่ถ้าอยากได้ผลลัพธ์เร่งด่วน เห็นผลไว หมอแนะนำการฉีดเมโสหน้าใสครับ เพราะเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นผิวโดยตรง จึงเห็นผลชัดเจนและรวดเร็วกว่า”
ประเภทเมโส
- เมโสสิว ช่วยขับสารพิษที่สะสมอยู่ในผิว ลดสิว ผิวอักเสบ ลดผื่นแพ้ ทำให้หน้าใสขึ้น
- เมโสฝ้า คือ ช่วยชะลอการกระจายของฝ้า ฝ้าจางลงได้ 20-50 % ในบางเคส โดยผลการรักษาแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาและชนิดของฝ้า
- เมโสกระชับรูขุมขน ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ต่อมไขมันทำงานน้อยลง หน้ามันน้อย รูขุมขนกระชับขึ้นได้
- Mesowhite คือ การทำ Meso หน้าใสเหมือนกัน โดยแต่ละคลินิกจะมีสูตรตัวยาเฉพาะที่ต่างกัน จึงเรียกชื่อให้แตกต่างครับ
เมโสหน้าใสมีกี่แบบ ?
ในการแก้ปัญหาด้วยเมโสหน้าใส หมอแบ่งออกเป็น 3 แบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาของคนไข้ครับว่าต้องการเน้นทางด้านไหน
- เน้นหน้าขาวใส มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้น เช่น vitamin A B C E, Transamin, Glutathione
- เน้นหน้าใส มีส่วนผสมของคอลลาเจน และโคเอนไซม์ เป็นหลักครับ ทั้งสองตัวจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวฟูขึ้น และช่วยกระชับรูขุมขน
- เน้นลดสิว-แก้ผื่น เมโสยี่ห้อที่มีจุดเด่นด้านนี้ คือ มาเด้ คอลลาเจน จะช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสมอยู่ในผิว และคอลลาเจนยังช่วยให้ต่อมไขมันทำงานลดลง ลดการเกิดสิว
รูปแบบการใช้เมโสหน้าใส
- แบบฉีด ตัวยาบำรุงเข้าสู่ผิวชั้นกลางโดยตรง ทำให้ออกฤทธิ์ไวกว่าการบำรุงแบบทั่วไป ช่วยบำรุง ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและแก้ปัญหาต่าง ๆ ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น
- แบบทา ส่วนใหญ่มีขายในอินเทอร์เน็ตเป็นครีมหรือเซรั่มที่ใช้บำรุงผิวครับ การเห็นผลก็เหมือนกับครีมทั่วๆ ไป ต้องรอให้ผิวซับตัวยาเข้าไป ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล ประสิทธิภาพจะต่างจากเมโสหน้าใสแบบฉีดมากครับ
ฉีดเมโสหน้าใส มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ข้อดี ฉีดเมโสหน้าใส
- เห็นผลไวกว่าการทาครีม / เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- เมโสหน้าใสมีหลายสูตร แก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย
- บำรุงผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดีอย่างปลอดภัย
- หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
- หากทำอย่างต่อเนื่องจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น
- แต่งหน้าง่ายขึ้น เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น
ข้อเสีย ฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่ไม่สามารถอยู่ได้ถาวรครับ และควรทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ถ้าใช้เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง เช่น แพทย์แทงเข็มเข้าไปในชั้นผิวที่ลึกเกินไป จะเกิดแผลเป็นขึ้นบนใบหน้า หรือหากแทงเข็มตื้นเกิน จะทำให้ตัวยาลงไปในชั้นผิวได้น้อย จึงเห็นผลน้อย และตัวยาลดประสิทธิภาพลง
ฉีดเมโสหน้าใสเจ็บไหม ?
คนที่ยังไม่เคยฉีดเมโสหน้าใสมาก่อน หรือฉีดเมโสหน้าใสครั้งแรก อาจมีความกังวลเพราะกลัวการจิ้มเข็มลงบนใบหน้า หมออธิบายอย่างนี้ครับว่า ปกติการทำเมโสจะจิ้มเข็มลงในชั้นผิว ลึกเพียง 5-10 มิลลิเมตรเท่านั้น เนื่องจากฉีดผิวชั้นกลาง ปริมาณตัวยาไม่มากและใช้เวลาไม่นาน จึงไม่เจ็บมาก อาจรู้สึกถึงความร้อนที่ผิวบ้างเพียงเล็กน้อย และไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา ประคบน้ำแข็งก่อนฉีดก็เพียงพอครับ
ขั้นตอนการฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใส ใช้เวลาไม่นาน ขั้นตอนการฉีดไม่ยุ่งยาก โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ก่อนทำการฉีดจะมีการทำความสะอาดผิวหน้า หากคนที่กลัวเจ็บมาก ๆ สามารถขอแปะยาชาได้ครับ โดยจะแปะยาชาประมาณ 30-45 นาที แต่โดยทั่วไปการฉีดเมโสหน้าใสจะไม่เจ็บมาก ใช้แค่การประคบเย็นแทนได้ เพราะฉีดลงไปในชั้นผิวที่ไม่ลึก
- หลังฉีดเสร็จอาจจะเห็นรอยแดงจากรอยเข็ม หายได้เองภายใน 2-3 ชั่วโมง คนไข้สามารถใช้หน้า ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเลยครับ
- เมโสสะกิดหน้าใส เป็นวิธีการฉีดเมโสแบบเก่า ทำโดยการสะกิดเข็มทั่วใบหน้า ปัจจุบันไม่นิยมทำแล้วครับ แต่หลายคลินิกยังใช้อยู่ เพราะมีผลข้างเคียง เช่น ถ้าระหว่างฉีดรักษาความสะอาดไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อตามมา มีผื่นแดงจากรอยเข็ม หรือมีรอยช้ำ
- เมโสหน้าใส 16 จุด ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากกว่า เป็นเทคนิคการฉีดตามจุดฝังเข็ม 16 จุดทั่วใบหน้า เทคนิคนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนังทำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายที่มีผลต่อสุขภาพผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรง แลดูสุขภาพดี มีความปลอดภัย เป็นแผลน้อยกว่า เจ็บน้อยกว่า ตัวยาออกฤทธิ์ได้ดีและยาวนานกว่าครับ
ข้อห้าม และการดูแลตัวเองหลังรักษาด้วย Meso Therapy
หลังฉีดเมโสหน้าใส สามารถใช้หน้า ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ การดูแลตัวเองไม่ยุ่งยาก แต่ก็จะมีข้อห้าม ป้องกันการอักเสบ ระคายเคือง และควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว ดังนี้
- ห้ามสัมผัส กด นวดผิวบริเวณที่ฉีดในช่วง 1-2 คืนแรก
- หลีกเลี่ยงการกด นวดผิว บริเวณที่ทำทันที ในช่วง 1-2 คืนแรกหลังฉีด
- งดทาครีมบริเวณที่ฉีดเมโส 1 คืน ป้องกันการอักเสบ
- ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอย่างเบามือ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ 8-10 แก้ว (1.5-2 ลิตร) เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- หลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 PA+++
- งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ อาหารหมักดอง ของทอด ของหวาน น้ำอัดลม
- รับประทานยาแก้ปวดและประคบเย็นได้ หากมีอาการปวด บวม หรือช้ำจากรอยเข็มที่ฉีด
ผลข้างเคียงของการฉีดเมโสหน้าใส
ผลข้างเคียงที่พบส่วนใหญ่จะเป็นเมโสที่ซื้อมาฉีดเอง ซื้อทางอินเทอร์เน็ต หรือฉีดกับหมอกระเป๋า ใช้ตัวยาไม่ได้มาตรฐาน มีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือฮอร์โมนซึ่งอันตรายครับ จะเห็นผลดีแค่ในช่วงแรก ผิวจะดูขาว เนียนนุ่มขึ้น แต่อาจเกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น มีผื่นแดง บวมแดง เป็นก้อน จากการอักเสบติดเชื้อ หรือร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนัง เพราะผิวบางลง ไวต่อแดด
ดังนั้น ไม่ควรซื้อเมโสมาฉีดเองเด็ดขาด ควรไปฉีดเมโสหน้าใสที่คลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ตัวยาแท้เท่านั้น
ยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ได้รับความนิยม เช่น
ยี่ห้อเมโสหน้าใส | จุดเด่น | เหมาะกับใคร |
---|---|---|
Filorga / Revs | บำรุงผิวกระจ่างใส ลดฝ้า เติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ ช่วยบำรุงผิวแบบ premium | คนที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดการบำรุง |
Tensonez | ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ | คนที่มีผิวแห้งเสียจากแสงแดด ดูหมองคล้ำ |
Alpha arbutin | ลดฝ้าโดยตรง | คนที่มีปัญหาฝ้า |
Neo Glutanex Glow | บำรุงผิวชุ่มชื้น ปรับสีผิวขาวอมชมพู ลดริ้วรอยฝ้า กระ รอยสิว กระชับรูขุมขน | คนที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ ต้องการกระชับรูขุมขน มีรอยแดงสิว |
Made Collagen | ลดสิว ลดผื่น ฝ้า กระ ริ้วรอย จุดด่างดำ ขับสารพิษ | คนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดี ผิวยืดหยุ่นและแข็งแรง |
- เมโสหน้าใส คือ การฉีดวิตามินและสารบำรุงเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง โดยเฉพาะตัวที่ดูดซึมได้ยากจากการทา เช่น Vitamin A, B, C, E Transamin, Glutatione, คอลลาเจน, โคเอนไซม์ ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ช่วยบำรุงผิวขาว ใส ดูสุขภาพดีแบบเร่งด่วน
- มาเด้คอลลาเจน คือ ยี่ห้อเมโสหน้าใส มีจุดเด่นช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิว ลดผิวอักเสบ ลดผื่นแพ้ ลดสิว หน้าขาวใสขึ้น
มาเด้คอลลาเจน
มาเด้คอลลาเจน เป็นหนึ่งในยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ได้รับความนิยมครับ ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็น ผื่น สิว ฝ้า กระ ริ้วรอย จุดด่างดำ ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากมลภาวะหรือสารพิษที่ตกค้างในผิว พร้อมปรับสมดุลผิวให้แข็งแรง ช่วยชะลอการเสื่อมของคอลลาเจน ไฮยาลูโรนิก แอซิด และ fibroblast ในชั้นผิว
การฉีดเมโสหน้าใส ต่างจากเลเซอร์หน้าใสอย่างไร ?
การฉีดเมโสหน้าใส กับ เลเซอร์หน้าใส แม้จะหวังผลลัพธ์เหมือนกัน แต่วิธีการต่างกัน เมโสหน้าใส เป็นการบำรุงผิวขาวใสเร่งด่วน ด้วยการฉีดวิตามินและสารบำรุงผิวต่าง ๆ ถึงผิวชั้นใน เพื่อฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน จึงเห็นผลไว
ส่วนเลเซอร์หน้าใส เป็นการใช้เครื่องมือยิงพลังงานเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดการทำงานของเม็ดสี ทำให้ผิวขาวใสขึ้น แต่เนื่องจากเม็ดสีของผิวชั้นบนมีส่วนช่วยในการป้องกันแสงแดด คนที่มีผิวจะบอบบางเป็นพิเศษ อาจทำให้ผิวไวต่อแดดได้มากขึ้น
ฉีดเมโสหน้าใสดีไหม ?
สำหรับคนที่อยากหน้าขาวใส แต่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองหรืออยากได้ผลลัพธ์ที่เร่งด่วน การฉีดเมโสหน้าใส ถือเป็นทางลัดในการบำรุงผิว จากปกติทาครีมบำรุงใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะเห็นผลชัดเจน แต่เมโสหน้าใสประมาณวันที่ 3 ก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงว่าผิวดีขึ้นแล้วครับ ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้
ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี ?
ก่อนเลือกคลินิกฉีดเมโสหน้าใส สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือเรื่องของความปลอดภัย เช่นเดียวกับฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อก หรือในทุก ๆ ทุกหัตถการความงาม โดยหลัก ๆ มีข้อควรพิจารณาตาม ดังนี้
- มาตรฐานของคลินิก : ต้องเป็นคลินิกที่เปิดให้บริการถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ภายในคลินิกสะอาด ปลอดเชื้อ อุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- ประสบการณ์ของแพทย์ : ต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช่หมอกระเป๋าที่รับฉีดตามบ้าน/คอนโด ไม่รู้เทคนิคการฉีด ใช้ตัวยาเมโสปลอม เสี่ยงเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ครับ
- ตัวยาเมโสหน้าใส : ปัจจุบันเมโสปลอมมีขายกันตามอินเทอร์เน็ต ทำเลียนแบบออกมาเหมือนของแท้ 100% แต่เหมือนแค่แพ็กเกจเท่านั้น ตัวยาเป็นของปลอม แหล่งที่มาไม่ชัดเจน ดังนั้นต้องมั่นใจว่าตัวยาที่จะฉีด เป็นเมโสแท้ที่แพทย์สั่งจากบริษัทนำเข้าที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. ถึงจะมั่นใจได้ในความปลอดภัย
ฉีดเมโสหน้าใสที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
ฉีดเมโสหน้าใส ที่ V Square Clinic เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทีมแพทย์มีประสบการณ์ ก่อนฉีดจะมีการตรวจประเมินเพื่อปรับสูตรเมโสให้เหมาะกับสภาพผิว และใช้ตัวยาเมโสแท้ โดยที่คลินิกมีให้เลือกหลายยี่ห้อครับ สามารถแก้ปัญหาผิวที่คนไข้เป็นกังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความหมองคล้ำ จุดด่างดำ สิว ฝ้า กระ ได้อย่างตรงจุด
Q&A ฉีดเมโสหน้าใส
เมโสหน้าใสแบบทา จัดอยู่ในหมวดครีมหรือเซรั่มบำรุงผิว ให้ผลลัพธ์เหมือนกับการครีมโดยทั่วไป ที่กว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะการทาต้องรอให้ตัวยาดูดซึมเข้าสู่ผิว จะไม่เหมือนการฉีดที่เป็นการฉีดตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ประสิทธิภาพและระยะเวลาเห็นผลจึงแตกต่างกัน
หลังฉีดเมโสสามารถแต่งหน้าได้ปกติ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ คนไข้บางเคสแวะมาฉีดเมโสหน้าใสในช่วงพักกลางวันแล้วกลับไปทำงานต่อก็มีครับ ไม่ถึงกับต้องพักหน้า แต่ถ้าหากกลัวว่าจะเกิดการระคายเคืองจากเครื่องสำอาง หมอแนะนำให้เลี่ยงก่อนครับ
ถ้าอยากคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน ๆ ข้อนี้สำคัญครับ หลังฉีดเมโสหน้าใสควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้มีสารพิษตกค้างในร่างกาย ก่อให้เกิดสิว และการดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้ร่างกายขับน้ำออกมามากกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน เหี่ยวย่น และดูแก่กว่าวัยอีกด้วยครับ
สรุป
การฉีดเมโสหน้าใส ช่วยให้หน้าใสขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว เช่น คนที่ทาครีมบำรุงแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลช้า คนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการผิวหน้าขาวใส ผิวเรียบเนียน ดูสุขภาพดี แบบเร่งด่วน ที่ V Square Clinic มีบริการ Meso Therapy หลายยี่ห้อให้แพทย์เลือกใช้เพื่อแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คนไข้ต้องการครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ