การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีรักษาริ้วรอยใต้ตาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ช่วยเติมเต็มร่องใต้ตา ฉีดใต้ตาคล้ำให้กลับมาสดใส ลดถุงใต้ตา แก้ตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ ทำให้ผิวใต้ตาเรียบเนียน กระชับ ดูอ่อนวัยและสดชื่นขึ้นกว่าเดิม
รีวิว
รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC + ร่องแก้ม 2 CC
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นการเปลี่ยนแปลงทันที ไม่ต้องพักฟื้น สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างชัดเจน หากใครที่ยังไม่เคยฉีดหรือมีข้อสงสัย หมอได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาในทุกแง่มุมและตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ไว้ในบทความนี้ครับ
ปัญหาใต้ตา เกิดจากสาเหตุใด ?
- อายุที่มากขึ้น – เป็นสาเหตุที่พบบ่อย เนื่องจากเมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้ลดลง ทำให้ผิวบางลง และขาดความยืดหยุ่น จึงเห็นเส้นเลือดที่อยู่บริเวณใต้ตาเด่นชัดขึ้น และมีผิวหย่อนลง เกิดเป็นรอยคล้ำใต้ตา และถุงใต้ตาครับ
อีกกรณีหนึ่งคือเมื่ออายุมากขึ้น การยุบตัวของกระดูกโหนกแก้มส่วนบน ทำให้เห็นเป็นร่องใต้ตา ร่องน้ำตา ดูโทรม ไม่สดใสได้ครับ
เมื่ออายุมากขึ้น จะเกิดรอยคล้ำใต้ตา ถุงใต้ตา และร่องใต้ตาตามธรรมชาติ ทำให้หน้าดูโทรม ไม่สดใส
- พฤติกรรมการนอน – การนอนดึกหรือนอนน้อย ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงาน การอดนอนเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ผิวใต้ตาซีดลงและมีสารน้ำคั่งบริเวณใต้ตาได้ จึงเห็นเส้นเลือดใต้ตาเป็นรอยคล้ำได้ชัดเจน และตาบวมสะสมเป็นถุงใต้ตาได้ครับ
- ภูมิแพ้ – คนที่เป็นภูมิแพ้ ร่างกายจะผลิตสารที่ชื่อว่า histamine ขึ้นมาจำนวนมากเพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดการระคายเคือง เส้นเลือดใต้ตาเกิดการขยายตัว จนเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา นอกจากนี้การขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้เกิดการอักเสบ เส้นเลือดแตก ยิ่งเกิดเป็นรอยคล้ำใต้ตาที่ชัดเจนขึ้นได้ครับ
- การใช้มือถือ การอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน ๆ – ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่ทำให้เราจ้องมือถือหรือใช้คอมพิวเตอร์ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดตาล้า เส้นเลือดใต้ตาจึงขยายตัวจนสังเกตได้เป็นรอยคล้ำใต้ตาได้
- ดื่มน้ำน้อย – การดื่มน้ำน้อยทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้เช่นเดียวกันครับ หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ผิวบริเวณใต้ตาจะเหี่ยว ขาดความชุ่มชื้นและตอบลง เกิดเป็นเงาใต้ตา
- โดนแดดบ่อย ๆ – การอยู่กลางแจ้งหรือโดนแดดเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ผิวหนังเกิดการผลิตเม็ดสีผิว (Melanin) มาจำนวนมาก ผิวใต้ตาจึงมีสีคล้ำขึ้นได้ครับ
- พันธุกรรม – ในบางกรณีพบว่าคนไข้มีใต้ตาคล้ำจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น เม็ดสีบริเวณใต้ตาผลิตออกมามากเกิน โครงสร้างกระดูกใต้ตายุบตัว รวมถึงโรคทางพันธุกรรม เช่น ไทรอยด์
ปัญหาใต้ตา แก้ไขอย่างไร มีวิธีใดบ้าง ?
- ฟิลเลอร์ใต้ตา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารประเภท Hyaluronic acid (HA) เพื่อช่วยเติมเต็มผิวใต้ตาหรือเสริมกระดูกใต้ตาที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก ทำให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น ริ้วรอยลดลง ลดความหมองคล้ำใต้ตา ช่วยให้ผิวดูยกกระชับ และอ่อนวัยขึ้น
ฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลหลังทำทันที ไม่มีแผลผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
- ฉีดไขมันใต้ตา เป็นการใช้ไขมันส่วนเกินของคนไข้ที่ดูดจากต้นแขนหรือหน้าท้อง ฉีดเข้าไปใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยและร่องลึก ข้อดีคือโอกาสแพ้น้อย แต่ผลลัพธ์ในการทำครั้งแรกมักไม่เห็นผลชัดเจน เพราะโดยธรรมชาติ ไขมันเป็นสารที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ดังนั้นหลังฉีดผิวอาจไม่เรียบ เพราะไขมันที่ฉีดเข้าไปถูกร่างกายนำไปใช้
- ดูดไขมันใต้ตา เหมาะกับคนไข้ที่มีถุงใต้ตานูนออกมามาก การดูดไขมันจะทิ้งรอยแผลขนาด 3 – 5 mm และไม่เหมาะกับผู้ที่มีใต้ตาหย่อนคล้อยมาก ๆ
- ทาครีมบำรุงใต้ตา เป็นวิธีที่ง่ายและไม่ต้องเจ็บตัว แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เห็นผลไม่ชัดเจนและใช้เวลานานครับ
- Cytocare, Filorga คือการฉีดเมโสหน้าใส สามารถใช้แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ผิวแห้ง ให้กลับมาชุ่มชื้น อิ่มฟูขึ้น มีส่วนผสมของ HA และวิตามินต่าง ๆ มีจุดเด่นในการบำรุงผิว แต่อยู่ได้ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ และต้องฉีดบ่อย ๆ ครับ
- ไหมน้ำใต้ตา ไหมน้ำเป็นไหมที่ใช้ฉีด จริง ๆ แล้วเป็นวัสดุ polydioxanone เหมือนกับไหมเส้นที่ใช้ร้อยเพื่อดึง แต่เป็นการเอาไหมเส้นมาตัดเป็นอนุภาคเล็ก ๆ ผงเล็ก ๆ แล้วมาละลายในน้ำ ใช้เติมแทนฟิลเลอร์ แต่ไม่แนะนำให้ทำเนื่องจากจะเกิดพังผืดได้ครับ
- เลเซอร์ใต้ตา มีทั้งแบบเลเซอร์ตัดถุงใต้ตาและแบบทำลายเม็ดสีใต้ตาเพื่อลดรอยคล้ำ วิธีนี้จะไม่มีแผลที่ด้านนอก เหมาะกับคนที่อายุน้อย ไม่มีผิวใต้ตาหย่อนคล้อย แต่ไม่สามารถเติมเต็มร่องใต้ตาได้และต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง
วิธีรักษาใต้ตาแต่ละแบบ เหมาะกับเคสที่แตกต่างกันไปครับ ถ้าบางคนไม่อยากผ่าตัด หรือฉีดไขมัน เพราะต้องเจ็บตัวเยอะ หมอจะแนะนำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีที่แก้ไขปัญหาใต้ตาได้ครอบคลุม เห็นผลเร็วและมีความเป็นธรรมชาติสูงครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดีอย่างไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่ตรงจุดที่สุด และเป็นบริเวณที่หมอแนะนำให้ทำเป็นจุดแรก ๆ เมื่อต้องการความอ่อนเยาว์บนใบหน้า เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที ไม่มีแผล ช่วยลดริ้วรอย ความหมองคล้ำ เติมร่องใต้ตาอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวจะชุ่มชื้นขึ้น ใบหน้าดูสดใสและอ่อนวัยขึ้น
ฟิลเลอร์แท้ เป็นสาร Hyaluronic Acid ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติในภาพ คือ ตัวอย่างเนื้อเจลของฟิลเลอร์รุ่น Restylane Perlane Lyft
โหงวเฮ้งดวงตา ร่องใต้ตา (หน่ำหนึงเก็ง)
ตามศาสตร์ความเชื่อเรื่องโหงวเฮ้งกล่าวว่า ผู้ที่มีดวงตาเต็มอิ่ม สีสดใส ไม่ดำคล้ำ เรียบ เปล่งปลั่ง จะมียศศักดิ์ ร่ำรวยไปตลอดชีวิต ลูกหลานเจริญรุ่งเรืองครับ
ถ้าตาที่มีลักษณะเป็นแอ่งโบ๋ ร่องลึก มีถุงใต้ตาเยอะเกินไป จะอาภัพโชค หาคู่ครองยาก หรือลูกหลานดื้อ เลี้ยงยาก หากใต้ตาสีดำคล้ำ ก็จะพบปัญหาคู่ครองและบุตร อาภัพลูก
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครั้งแรก ควรรู้อะไรบ้าง ?
ข้อห้ามในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- มีภาวะอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
- เคยมีประวัติแพ้ส่วนประกอบของฟิลเลอร์ที่วินิจฉัยว่าแพ้โดยแพทย์, อาการข้างเคียง (side effect) อื่น ๆ ไม่ได้ถือว่าเป็นการแพ้ (allergy)
- มีประวัติแพ้ยาชา (ถ้าคนไข้ไม่เคยฉีดยาชาทำฟันมาก่อนควรแจ้งแพทย์เพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ยาชา)
- อยู่ในภาวะเลือดไหลไม่หยุด (bleeding disorder) แพทย์จะพิจารณาตามดุลยนินิจ
- ห้ามทำในผู้ที่ตั้งครรภ์
- ในกรณีให้นมบุตรควรปรึกษาสูติแพทย์ที่ดูแลก่อนทำ
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเจอหมอเถื่อน ฟิลเลอร์ปลอม รวมถึงความเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อ
- มีการแสดงภาพถ่าย ชื่อ และเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการ ไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน
- มีป้ายรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิกติดไว้ในที่เปิดเผยและผู้ทำการรักษาต้องเป็นคนเดียวกับป้ายที่ติดไว้
- มีแพทย์ FullTime ประจำคลินิก
- บรรยากาศโดยรวมของคลินิกสะอาด ถูกหลักอนามัย
- สถานที่ตั้งอยู่ในแหล่งที่ปลอดภัย เดินทางสะดวก มองเห็นได้ง่าย ไม่แออัดหลบมุม ควรอยู่ในย่านธุรกิจและอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หรือบริเวณที่มีคนผ่านเยอะในแต่ละวัน
- หมอและเจ้าหน้าสามารถให้ข้อมูลรายละเอียดอย่างชัดเจน สามารถเข้าตรวจประเมินก่อนตัดสินใจทำได้
- ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป
ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อความมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ?
การเลือกใช้ฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อมาตรฐาน ที่ผ่านการรับรองในประเทศไทย และเป็นฟิลเลอร์ที่นำเข้ามาอย่างถูกต้องเท่านั้นครับ โดยยี่ห้อหลัก ๆ ที่หมอแนะนำ ได้แก่ Restylane, Juvederm และ Belotero ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : วิธีดูฟิลเลอร์แท้แต่ยี่ห้อ Juvederm /Restylane /Belotero ดูอย่างไร?
ฟิลเลอร์ใต้ตา รุ่นไหนดี แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?
สาเหตุการเกิดใต้ตาหมองคล้ำไม่สดใส มีริ้วรอยใต้ตา มักเกิดจากปัญหาชั้นผิวใต้ตาที่บางลง ไม่ชุ่มชื้นหรือในรายที่กระดูกใต้ตามีการยุบตัว จะเกิดร่องใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย มีถุงใต้ตาดังนั้น ฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสำหรับการนำมาใช้จะแตกต่างกันตามปัญหาครับ ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับใต้ตา แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด
เป็นกลุ่มฟิลเลอร์ที่มีความเข้มข้นของ HA ต่ำ เนื้อเจลเบาบางเหมือนน้ำ เหมาะกับการฉีดผิวชั้นตื้น ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ ลดรอยคล้ำใต้ตา เน้นบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้น ฟิลเลอร์กลุ่มนี้ มักใช้ในผู้ที่หมอประเมินแล้วว่าชั้นผิวบาง หรือกรณีเก็บรายละเอียดเสริมเพิ่มหลังจากเติมฟิลเลอร์เนื้อแข็งไปแล้ว ทำให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้ ได้แก่
- Restylane Vital Light (สวีเดน อยู่ได้ 6 – 12 เดือน) เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีเนื้อละเอียดมากที่สุด เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางมาก ๆ
- Juvederm Volite (อเมริกา อยู่ได้ 8 – 12 เดือน) เนื้อเจลหนืดกว่า Restylane Vital Light เล็กน้อย เหมาะกับผู้มีผิวไม่บางมากเกินไป
กลุ่มที่ 2 ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง
เป็นกลุ่มฟิลเลอร์ที่มีความเข้มข้นของ HA สูง เนื้อเจลมีความคงตัว ใช้ฉีดเพื่อทดแทนการยุบตัวของกระดูกในผิวชั้นลึก สามารถยกผิวได้ใกล้เคียงกับกระดูก เหมาะกับผู้ที่มีร่องใต้ตาลึก กระดูกใต้ตามีการยุบตัว
ฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้ ได้แก่
- Restylane Perlane Lyft (สวีเดน อยู่ได้ 12 เดือน) เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวมากที่สุด ไม่ฟู สามารถยกผิวในชั้นกระดูกได้ใกล้เคียงกระดูกมากที่สุด
- Restylane Defyne (สวีเดน อยู่ได้ 18 เดือน) เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้มากกว่าและอยู่ได้นานกว่า Restylane Perlane Lyft
- Juvederm Voluma (อเมริกา อยู่ได้ 18 เดือน) เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่มีความยืดหยุ่นสูงแต่ยังมีความคงตัว อุ้มน้ำได้มาก เนื้อฟูปานกลาง
ฟิลเลอร์รุ่นต่าง ๆ ที่นิยมฉีดบริเวณใต้ตา โดยหมอจะประเมินและเลือกใช้รุ่นที่เหมาะสมกับแต่ละเคส
ฟิลเลอร์รุ่นต่าง ๆ ที่นิยมฉีดบริเวณใต้ตา โดยหมอจะประเมินและเลือกใช้รุ่นที่เหมาะสมกับแต่ละเคส
ฟิลเลอร์รุ่นต่าง ๆ ที่นิยมฉีดบริเวณใต้ตา โดยหมอจะประเมินและเลือกใช้รุ่นที่เหมาะสมกับแต่ละเคส
ทั้งนี้ ในการเลือกใช้หมอจะประเมินลักษณะใต้ตาในแต่ละเคสและแนะนำฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมที่สุดให้ครับ คนไข้ที่มีใต้ตาไม่ลึกมากสามารถใช้ฟิลเลอร์เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก็ได้ หรือในคนที่ใต้ตาลึกมากสามารถใช้ฟิลเลอร์ทั้ง 2 กลุ่มร่วมกันในการเติมร่องใต้ตา ผลจึงออกมาเรียบเนียน เป็นธรรมชาติมากที่สุดครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้ กี่ cc ?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่ CC จะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลครับ แต่ละคนจะใช้ปริมาณ CC ไม่เท่ากัน โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ 2 – 4 CC จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนครับ
ในผู้ที่มีร่องใต้ตาไม่ลึกมาก ฉีดข้างละ 1 CC ก็พอครับ ส่วนในรายที่กระดูกใต้ตายุบตัวมาก ๆ และหย่อนคล้อย โดยเฉพาะในผู้ที่อายุเยอะ จะใช้ฟิลเลอร์มากขึ้น หมอจะพิจารณาเป็นรายเคสครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา ?
ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา แต่ละยี่ห้อที่ V Square Clinic
ที่ V Square Clinic ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา จะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่นที่เลือกใช้ หมอจะประเมินปัญหาและแนะนำให้ตามความเหมาะสมครับ
โปรโมชั่น ฟิลเลอร์ใต้ตา | ||
---|---|---|
ยี่ห้อฟิลเลอร์ | ระยะเวลา | ราคา / CC |
Restylane Perlane Lyft (สวีเดน) | อยู่ได้ 12 เดือน | 12,500.-/1 CC |
Restylane Defyne (สวีเดน) | อยู่ได้ 18 เดือน | 12,900.-/1 CC |
Restylane Vital Light (สวีเดน) | อยู่ได้ 6 – 12 เดือน | 12,000.-/1 CC |
Restylane Classic (สวีเดน) | อยู่ได้ 12 เดือน | 9,900.-/1 CC |
Juvederm Volite (อเมริกา) | อยู่ได้ 8 – 12 เดือน | 14,000.-/1 CC |
Juvederm Voluma (อเมริกา) | อยู่ได้ 18 เดือน | 12,500.-/1 CC |
Juvederm Volux (อเมริกา) | อยู่ได้ 18 – 24 เดือน | 18,000.-/1 CC |
Belotero Volume (สวิตเซอร์แลนด์) | อยู่ได้ 18 เดือน | 9,900.-/1 CC |
Belotero Soft (สวิตเซอร์แลนด์) | อยู่ได้ 6 – 12 เดือน | 9,900.-/1 CC |
Belotero Revive (สวิตเซอร์แลนด์) | อยู่ได้ 6 – 9 เดือน | 14,000.-/1 CC |
Flore Aqua-s (เกาหลี) | อยู่ได้ 6 เดือน | 9,900.-/1 CC |
Definisse Touch (อิตาลี) | อยู่ได้ 6 – 12 เดือน | 12,000.-/1 CC |
Teoxane RHA2 (สวิตเซอร์แลนด์) | อยู่ได้ 18 เดือน | 12,900.-/1 CC |
การปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด ทำความเข้าใจถึง ข้อดี-ข้อเสีย ก่อนตัดสินใจทำ
- เลือกคลินิกที่จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รายชื่อและข้อมูลแพทย์ เปรียบเทียบราคาที่เหมาะสม และดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงจากคลินิกนั้น ๆ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
- เมื่อตัดสินใจฉีด ควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs เช่น ibuprofen diclofenac ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ และควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาอยู่ก่อนที่จะหยุดยานั้น ๆ
- ควรงดการแว็กผิว ผลัดเซลล์ผิว การดึงขนหรือโกนขนในบริเวณนั้น ๆ เป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ
- หากมีคอร์สทำหน้านวดหน้าหรือเลเซอร์ต่าง ๆ ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วันก่อนทำฟิลเลอร์หรือร้อยไหม เพราะหลังทำต้องเว้นไปอีก 2 อาทิตย์
- หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่กินเป็นประจำอื่น ๆ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ
- ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายชนิด cardio การดื่มแอลกอฮอล์
- สามารถแต่งหน้ามาได้ เมื่อถึงคลินิกจะมีการทำความสะอาดบริเวณจุดที่จะฉีดให้ก่อนครับ
- อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน แต่หากหลังจาก 3 วัน มีการบวมมากขึ้น ผิวหนังเปลี่ยนสีหรือมีตุ่มหนอง ให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อประเมินอาการและรับยากินเพิ่ม
- ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ควรหยุดยาเอง
- อยู่ในที่มีอากาศเย็น ไม่ร้อนจนเกินไป หากจำเป็น ควรสวมหมวก กางร่ม หรืออุปกรณ์ป้องกันความร้อนสัมผัสใบหน้า
- ใน 2-3 คืนแรก ควรนอนโดยใช้หมอนหนุนศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ เพื่อให้ศีรษะอยู่สูงกว่าระดับหน้าอก งดการนอนตะแคง แนะนำให้ใช้หมอนมากันใบหน้าทั้งด้านซ้ายและขวาเพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีด
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อห้ามบางประการที่ควรปฏิบัติตาม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด อยู่ได้นานที่สุด ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดที่ฉีด และห้ามปรับรูปทรงฟิลเลอร์ด้วยตนเอง
- ไม่ควรประคบเย็น หากมีอาการปวดมาก ควรปรึกษาแพทย์หรือประคบเย็นตามแพทย์สั่งเท่านั้น
- งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน แต่สามารถล้างหน้า แต่งหน้าได้ตามปกติ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ต้องอยู่หน้าเตาเป็นเวลานาน ๆ เป็นเวลา 3 วันหลังทำ
- งดการนวดหน้า เลเซอร์ หรือหัตถการอื่น ๆ บริเวณใบหน้า เป็นเวลา 14 วัน
- หากเป็นเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึก RF หรือ Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือน
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
- หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
- อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
- อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
- งดอาหารที่หวานจัด ๆ นมวัว เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบจากร้านอาหารที่ไม่สะอาด เนื่องจากอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนในจุดที่ฉีดแล้วเกิดการอักเสบได้
- นอกจากนี้ ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
ซึ่งควรงดอาหารดังที่กล่าวข้างต้นเป็นเวลา 14 วัน หากทำไม่ได้จริง ๆ หมอแนะนำให้ควรงดอย่างน้อย 3 วันครับ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีอะไรบ้าง? ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำอย่างไรให้อยู่ได้นาน
Q&A ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว เป็นก้อน ต้องดูว่าเป็นอาการบวมในช่วงแรกหรือฟิลเลอร์เป็นก้อนจริง ๆ ครับ โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ อาการบวมสามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ คลำแล้วอาจพบว่าเป็นไตหรือเป็นก้อนได้ อาการบวมเข็มจะค่อย ๆ ดีขึ้นและฟิลเลอร์เข้าที่เต็มที่ ใช้เวลา 7 – 14 วันครับ
ถ้าหลัง 14 วันยังพบว่าฟิลเลอร์เป็นก้อนอยู่ ต้องดูอีกครั้งว่าใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน เป็นฟิลเลอร์ของแท้ที่มีมาตรฐานหรือไม่ ฝีมือ เทคนิคการฉีดของแพทย์ รวมถึงการปฏิบัติตัวของคนไข้หลังฉีด แต่ถ้าหากใช้ฟิลเลอร์แท้ก็สามารถแก้ไขได้ครับ
หลายคนกังวลว่าจะตาบอด หมอเรียนตามตรงว่า มีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงครับ แต่มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฉีดกับหมอเถื่อนที่ไม่มีความรู้ หรือการผิดพลาดจากการที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือด ทำให้เกิดการอุดตัน เป็นผลทำให้ตาบอดครับ
แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ของแท้ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง โอกาสเกิดอันตรายหรือผลที่ไม่พึงประสงค์ก็มีน้อยมากครับ
บริเวณใต้ตาเป็นจุดที่มีเส้นเลือดที่สำคัญ หากฉีดกับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า
อาจเกิดการฉีดที่คลาดเคลื่อนหรือผิดตำแหน่ง ทำให้เส้นเลือดเกิดการอุดตัน
จะส่งผลต่อการมองเห็น หรือตาบอดได้
สรุป ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือวิธีแก้ไขปัญหาใต้ตา ร่องใต้ตา ลดรอยคล้ำใต้ตา ลดถุงใต้ตา ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น สิ่งสำคัญคือต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
ที่ V square clinic ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อมาตรฐาน ของแท้ทุกรุ่น แกะกล่อง แกะหลอดใหม่ให้ดูต่อหน้า นำกล่องและหลอดกลับบ้านได้ อีกทั้งแพทย์ทุกท่าน มีประสบการณ์ด้านปรับรูปหน้ากว่า 5-10 ปี รับประกันผลทุกเคส มั่นใจได้ว่าปลอดภัยครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ