การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย ก่อนทำควรศึกษาข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รวมถึงข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้ฟิลเลอร์ที่ไปฉีดมาเข้าที่เร็วขึ้น ยุบบวมเร็วขึ้น คงผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นาน
ซึ่งข้อปฏิบัติต่าง ๆ สามารถทำตามได้ไม่ยาก หมอได้รวบรวมไว้ในบทความนี้แล้วครับ
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หากต้องการให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ออกมาดีและอยู่ได้นาน ลดโอกาสเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ มีสิ่งที่ควรระวัง ดังต่อไปนี้ครับ
- ห้ามแตะ แกะเกา การกดนวดในจุดที่ฉีด และห้ามปรับรูปทรงฟิลเลอร์ด้วยตนเองโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูป ยากต่อการแก้ไขครับ
- ไม่ควรประคบเย็น หากมีอาการปวดมาก ควรปรึกษาแพทย์หรือประคบเย็นตามแพทย์สั่งเท่านั้น
- สามารถล้างหน้า แต่งหน้าได้ตามปกติ แต่งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ต้องอยู่หน้าเตาเป็นเวลานาน ๆ เป็นเวลา 3 วันหลังทำ
- งดการนวดหน้า เลเซอร์ หรือหัตถการอื่น ๆ บริเวณใบหน้า เป็นเวลา 14 วัน
- หากเป็นเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึก RF หรือ Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือน
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อปฏิบัติง่าย ๆ ที่หมอแนะนำให้ปฏิบัติตาม ดังต่อไปนี้ครับ
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในวันแรก ๆ อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำได้ เป็นอาการปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน แต่หากหลังจาก 3 วัน มีการบวมมากขึ้น ผิวหนังเปลี่ยนสีหรือมีตุ่มหนอง ให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อประเมินอาการและรับยากินเพิ่มครับ
- ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ควรหยุดยาเอง หากมีความผิดปกติหลังทานยา เช่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ให้รีบติดต่อกลับมาที่คลินิกครับ
- อยู่ในที่มีอากาศเย็น ไม่ร้อนจนเกินไป หรือตากแดดเป็นเวลานาน ๆ หากจำเป็น ควรสวมหมวก กางร่ม หรืออุปกรณ์ป้องกันไม่ให้ความร้อนสัมผัสบริเวณที่ฉีด
- ใน 2-3 คืนแรก ควรนอนโดยใช้หมอนหนุนศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ เพื่อให้ศีรษะอยู่สูงกว่าระดับหน้าอก งดการนอนตะแคง แนะนำให้ใช้หมอนมากันใบหน้าทั้งด้านซ้ายและขวาเพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีด
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู ได้รูป และช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ 6 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ ถ้าฟิลเลอร์สลายหมดหรืออยากเติมเพิ่มก็สามารถฉีดเพิ่มเติมได้ โดยไม่ต้องสลายฟิลเลอร์เดิมออก ฟิลเลอร์แท้ สามารถเติมเพิ่มได้เรื่อย ๆ ครับ
นอกจากนี้ การปฏิบัติตัวหลังฉีด ก็มีผลทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้นได้ เช่น การอยู่ในที่ร้อน ๆ บ่อย ๆ การเข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ การทำเลเซอร์ โดยฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก ในกรณีหลัง 2 สัปดาห์ไปแล้ว กิจกรรมเหล่านี้ส่งผลต่ออายุของฟิลเลอร์ได้บ้าง แต่ไม่มากครับ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ?
หมอได้รับคำถามจากคนไข้หลายครั้งครับ ว่าหลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง ดื่มแอลกอฮอล์ได้ไหม ทานส้มตำปูปลาร้าได้หรือเปล่า
หมอแนะนำว่า เพื่อให้ผลดีที่สุดและลดโอกาสบวมช้ำ ควรงดอาหารบางประเภทเป็นเวลา 14 วันครับ หากทำไม่ได้จริง ๆ ก็ควรงดอย่างน้อย 3 วัน ซึ่งอาหารที่ควรงด มีดังต่อไปนี้ครับ
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
- อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
- อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
- งดอาหารที่หวานจัด ๆ นมวัว เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบจากร้านอาหารที่ไม่สะอาด เนื่องจากอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนในจุดที่ฉีดแล้วเกิดการอักเสบได้
นอกจากนี้ ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงครับ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ราคาโปรโมชั่นฟิลเลอร์ใต้ตา และอายุของฟิลเลอร์แต่ละรุ่น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ไขปัญหาใต้ตาลึก ร่องแก้มลึก โดย V Square Clinic
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น ดูสดชื่น ตาไม่ดำ ไม่โหลไม่ดูโรยรา ช่วยหน้าดูเด็กลงโดย V Square Clinic
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ถ้าเราปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็จะสามารถรักษาผลลัพธ์ให้ใต้ตาเต็มสวย กระชับ สดใส ยาวนานยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ประจำที่มีประสบการณ์ และต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบได้เท่านั้น เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียง เป็นก้อน บวมย้อย ยากที่จะแก้ไขครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
