ฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีรักษาริ้วรอยใต้ตาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ช่วยเติมเต็มร่องใต้ตา ฉีดใต้ตาคล้ำให้กลับมาสดใส ลดถุงใต้ตา แก้ตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ ทำให้ผิวใต้ตาเรียบเนียน กระชับ ดูอ่อนวัยและสดชื่นขึ้นกว่าเดิม

รีวิว

รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC + ร่องแก้ม 2 CC
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นการเปลี่ยนแปลงทันที ไม่ต้องพักฟื้น สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างชัดเจน หากใครที่ยังไม่เคยฉีดหรือมีข้อสงสัย หมอได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาในทุกแง่มุมและตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ไว้ในบทความนี้ครับ

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา


ปัญหาใต้ตา เกิดจากสาเหตุใด ?

  1. อายุที่มากขึ้น – เป็นสาเหตุที่พบบ่อย เนื่องจากเมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้ลดลง ทำให้ผิวบางลง และขาดความยืดหยุ่น จึงเห็นเส้นเลือดที่อยู่บริเวณใต้ตาเด่นชัดขึ้น และมีผิวหย่อนลง เกิดเป็นรอยคล้ำใต้ตา และถุงใต้ตาครับ

อีกกรณีหนึ่งคือเมื่ออายุมากขึ้น การยุบตัวของกระดูกโหนกแก้มส่วนบน ทำให้เห็นเป็นร่องใต้ตา ร่องน้ำตา ดูโทรม ไม่สดใสได้ครับ

ใต้ตาคนวัยหนุ่มสาวกับผู้สูงอายุ

เมื่ออายุมากขึ้น จะเกิดรอยคล้ำใต้ตา ถุงใต้ตา และร่องใต้ตาตามธรรมชาติ ทำให้หน้าดูโทรม ไม่สดใส

  1. พฤติกรรมการนอน – การนอนดึกหรือนอนน้อย ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงาน การอดนอนเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ผิวใต้ตาซีดลงและมีสารน้ำคั่งบริเวณใต้ตาได้ จึงเห็นเส้นเลือดใต้ตาเป็นรอยคล้ำได้ชัดเจน และตาบวมสะสมเป็นถุงใต้ตาได้ครับ
  2. ภูมิแพ้ – คนที่เป็นภูมิแพ้ ร่างกายจะผลิตสารที่ชื่อว่า Histamine ขึ้นมาจำนวนมากเพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดการระคายเคือง เส้นเลือดใต้ตาเกิดการขยายตัว จนเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา นอกจากนี้การขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้เกิดการอักเสบ เส้นเลือดแตก ยิ่งเกิดเป็นรอยคล้ำใต้ตาที่ชัดเจนขึ้นได้ครับ
  3. การใช้มือถือ การอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน ๆ – ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่ทำให้เราจ้องมือถือหรือใช้คอมพิวเตอร์ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดตาล้า เส้นเลือดใต้ตาจึงขยายตัวจนสังเกตได้เป็นรอยคล้ำใต้ตาได้
  4. ดื่มน้ำน้อย – การดื่มน้ำน้อยทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้เช่นเดียวกันครับ หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ผิวบริเวณใต้ตาจะเหี่ยว ขาดความชุ่มชื้นและตอบลง เกิดเป็นเงาใต้ตา
  5. โดนแดดบ่อย ๆ – การอยู่กลางแจ้งหรือโดนแดดเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ผิวหนังเกิดการผลิตเม็ดสีผิว (Melanin) มาจำนวนมาก ผิวใต้ตาจึงมีสีคล้ำขึ้นได้ครับ
  6. พันธุกรรม – ในบางกรณีพบว่าคนไข้มีใต้ตาคล้ำจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น เม็ดสีบริเวณใต้ตาผลิตออกมามากเกิน โครงสร้างกระดูกใต้ตายุบตัว รวมถึงโรคทางพันธุกรรม เช่น ไทรอยด์

ปัญหาใต้ตา แก้ไขอย่างไร มีวิธีใดบ้าง ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ? แก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างไร ?
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารประเภท Hyaluronic acid (HA) เพื่อช่วยเติมเต็มผิวใต้ตาหรือเสริมกระดูกใต้ตาที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก ทำให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น ริ้วรอยลดลง ลดความหมองคล้ำใต้ตา ช่วยให้ผิวดูยกกระชับ และอ่อนวัยขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลหลังทำทันที ไม่มีแผลผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
  • ฉีดไขมันใต้ตา เป็นการใช้ไขมันส่วนเกินของคนไข้ที่ดูดจากต้นแขนหรือหน้าท้อง ฉีดเข้าไปใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยและร่องลึก ข้อดีคือโอกาสแพ้น้อย แต่ผลลัพธ์ในการทำครั้งแรกมักไม่เห็นผลชัดเจน เพราะโดยธรรมชาติ ไขมันเป็นสารที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ดังนั้นหลังฉีดผิวอาจไม่เรียบ เพราะไขมันที่ฉีดเข้าไปถูกร่างกายนำไปใช้
  • ดูดไขมันใต้ตา เหมาะกับคนไข้ที่มีถุงใต้ตานูนออกมามาก การดูดไขมันจะทิ้งรอยแผลขนาด 3-5 mm และไม่เหมาะกับผู้ที่มีใต้ตาหย่อนคล้อยมาก ๆ
  • ทาครีมบำรุงใต้ตา เป็นวิธีที่ง่ายและไม่ต้องเจ็บตัว แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เห็นผลไม่ชัดเจนและใช้เวลานานครับ
  • Cytocare, Filorga คือการฉีดเมโสหน้าใส สามารถใช้แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ผิวแห้ง ให้กลับมาชุ่มชื้น อิ่มฟูขึ้น มีส่วนผสมของ HA และวิตามินต่าง ๆ มีจุดเด่นในการบำรุงผิว แต่อยู่ได้ประมาณ 3-4 สัปดาห์ และต้องฉีดบ่อย ๆ ครับ
  • ไหมน้ำใต้ตา ไหมน้ำเป็นไหมที่ใช้ฉีด จริง ๆ แล้วเป็นวัสดุ Polydioxanone เหมือนกับไหมเส้นที่ใช้ร้อยเพื่อดึง แต่เป็นการเอาไหมเส้นมาตัดเป็นอนุภาคเล็ก ๆ ผงเล็ก ๆ แล้วมาละลายในน้ำ ใช้เติมแทนฟิลเลอร์ เหมือนเป็นการเพิ่มคอลลาเจนบนใบหน้า และเพิ่มความกระจ่างใสของผิว
  • เลเซอร์ใต้ตา มีทั้งแบบเลเซอร์ตัดถุงใต้ตาและแบบทำลายเม็ดสีใต้ตาเพื่อลดรอยคล้ำ วิธีนี้จะไม่มีแผลที่ด้านนอก เหมาะกับคนที่อายุน้อย ไม่มีผิวใต้ตาหย่อนคล้อย แต่ไม่สามารถเติมเต็มร่องใต้ตาได้และต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง

วิธีรักษาใต้ตาแต่ละแบบ เหมาะกับเคสที่แตกต่างกันไปครับ ถ้าบางคนไม่อยากผ่าตัด หรือฉีดไขมัน เพราะต้องเจ็บตัวเยอะ หมอจะแนะนำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีที่แก้ไขปัญหาใต้ตาได้ครอบคลุม เห็นผลเร็วและมีความเป็นธรรมชาติสูงครับ

ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา แก้ไขได้ด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใบหน้าหน้าดูอ่อนเยาว์

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดีอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่ตรงจุดที่สุด และเป็นบริเวณที่หมอแนะนำให้ทำเป็นจุดแรก ๆ เมื่อต้องการความอ่อนเยาว์บนใบหน้า เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที ไม่มีแผล ช่วยลดริ้วรอย ความหมองคล้ำ เติมร่องใต้ตาอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวจะชุ่มชื้นขึ้น ใบหน้าดูสดใสและอ่อนวัยขึ้น

Restylane Perlane Lyft
ฟิลเลอร์แท้ เป็นสาร Hyaluronic Acid ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติในภาพ คือ ตัวอย่างเนื้อเจลของฟิลเลอร์รุ่น Restylane Perlane Lyft

ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • คนที่มีร่องใต้ตา ถุงใต้ตา มีรอยคล้ำใต้ตา
  • ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่อยากลางาน
  • ต้องการเห็นผลรวดเร็ว และอยู่ได้นาน
  • ต้องการยกกระชับหน้า อยากดูเด็กลง แต่ยังมีความเป็นธรรมชาติ

เติมฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง ?

เติมฟิลเลอร์แก้ปัญหาใต้ตา
  • ช่วยลดริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยหางตา รอยตีนกา รอยย่นรอบดวงตา
  • แก้ปัญหาเบ้าตาลึก ตาโบ๋ ร่องใต้ตาลึก
  • แก้ปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย
  • แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำ ขอบตาคล้ำ ขอบตาดำ
  • ช่วยปรับโหงวเฮ้ง ช่วยให้ใต้ตาเต็มอิ่ม
  • ช่วยให้ผิวใต้ตาสว่างขึ้น สดใส ไม่ดำคล้ำ เรียบเนียน

โหงวเฮ้งดวงตา ร่องใต้ตา (หน่ำหนึงเก็ง)

ตามศาสตร์ความเชื่อเรื่องโหงวเฮ้งกล่าวว่า ผู้ที่มีดวงตาเต็มอิ่ม สีสดใส ไม่ดำคล้ำ เรียบ เปล่งปลั่ง จะมียศศักดิ์ ร่ำรวยไปตลอดชีวิต ลูกหลานเจริญรุ่งเรืองครับ


ถ้าตาที่มีลักษณะเป็นแอ่งโบ๋ ร่องลึก มีถุงใต้ตาเยอะเกินไป จะอาภัพโชค หาคู่ครองยาก หรือลูกหลานดื้อ เลี้ยงยาก หากใต้ตาสีดำคล้ำ ก็จะพบปัญหาคู่ครองและบุตร อาภัพลูก


ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครั้งแรก ควรรู้อะไรบ้าง ?


ข้อห้ามในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • มีภาวะอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
  • เคยมีประวัติแพ้ส่วนประกอบของฟิลเลอร์ที่วินิจฉัยว่าแพ้โดยแพทย์
  • มีประวัติแพ้ยาชา (ถ้าคนไข้ไม่เคยฉีดยาชาทำฟันมาก่อนควรแจ้งแพทย์เพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ยาชา)
  • อยู่ในภาวะเลือดไหลไม่หยุด (Bleeding Disorder) แพทย์จะพิจารณาตามดุลยพินิจ
  • ห้ามทำในผู้ที่ตั้งครรภ์
  • ในกรณีให้นมบุตรควรปรึกษาสูติแพทย์ที่ดูแลก่อนทำ
ข้อห้ามในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?

ก่อนตัดสินใจที่จะเลือกว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ควรศึกษาข้อมูลของแต่ละคลินิกอย่างละเอียด เพื่อความมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยครับ โดยสิ่งที่ควรตรวจสอบ มีดังนี้

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเจอหมอเถื่อน ฟิลเลอร์ปลอม รวมถึงความเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อ
  • มีการแสดงภาพถ่าย ชื่อ และเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการ ไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน
  • มีป้ายรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิกติดไว้ในที่เปิดเผยและผู้ทำการรักษาต้องเป็นคนเดียวกับป้ายที่ติดไว้
  • มีแพทย์ Full Time ประจำคลินิก
  • บรรยากาศโดยรวมของคลินิกสะอาด ถูกหลักอนามัย
  • สถานที่ตั้งอยู่ในแหล่งที่ปลอดภัย เดินทางสะดวก มองเห็นได้ง่าย ไม่แออัดหลบมุม ควรอยู่ในย่านธุรกิจและอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หรือบริเวณที่มีคนผ่านเยอะในแต่ละวัน
  • หมอและเจ้าหน้าที่สามารถให้ข้อมูลรายละเอียดอย่างชัดเจน สามารถเข้าตรวจประเมินก่อนตัดสินใจทำได้
  • ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป
ฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์_เฟิร์น
ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อความมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ?

การเลือกใช้ฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อมาตรฐาน ที่ผ่านการรับรองในประเทศไทย และเป็นฟิลเลอร์ที่นำเข้ามาอย่างถูกต้องเท่านั้นครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Juvederm/Restylane/Belotero


ฟิลเลอร์ใต้ตา รุ่นไหนดี แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?

สาเหตุการเกิดใต้ตาหมองคล้ำไม่สดใส มีริ้วรอยใต้ตา มักเกิดจากปัญหาชั้นผิวใต้ตาที่บางลง ไม่ชุ่มชื้นหรือในรายที่กระดูกใต้ตามีการยุบตัว จะเกิดร่องใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย มีถุงใต้ตาดังนั้น ฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสำหรับการนำมาใช้จะแตกต่างกันตามปัญหาครับ ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับใต้ตา แบ่งได้เป็น 5 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ มีอนุภาคละเอียดที่สุด กระจายในชั้นผิวได้ดี ทำให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน

  • Juvederm Volite (อเมริกา) ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ใช้เติมใต้ตาชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป อยู่ได้ 8-12 เดือน
  • Restylane Vital Light (สวีเดน) ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ละเอียดมากที่สุด เหมาะฉีดร่องใต้ตาชั้นบน เก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตาชั้นตื้น ให้ดูเรียบเนียน อยู่ได้ 6-12 เดือน
  • Belotero Revive (สวิตเซอร์แลนด์) ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ มีส่วนประกอบของกลีเซอรอล ช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้น ลดริ้วรอยเล็กๆ รอบดวงตา อยู่ได้ 6-9 เดือน

กลุ่มที่ 2 ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ลักษณะเนื้อเจล มีความบางเบาเหมือนน้ำ

  • Restylane Vital (สวีเดน) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับเก็บรายละเอียดใต้ตาชั้นตื้น ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ อยู่ได้ 12 เดือน
  • Belotero Soft (สวิตเซอร์แลนด์) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาชั้นตื้น เรียบเนียนไปกับผิว อยู่ได้ 8-12 เดือน
  • Flore Aqua-S (เกาหลี) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีโมเลกุลเล็ก ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา อยู่ได้ 6 เดือน
  • Teoxane RHA 2 (สวิตเซอร์แลนด์) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด กลืนกับผิวได้ดี เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาชั้นตื้น อยู่ได้ 18 เดือน

กลุ่มที่ 3 ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ลักษณะเนื้อเจล คล้ายเจลลี่ ไม่เป็นน้ำ เนื้อนุ่ม ไม่เป็นก้อน

  • Definisse Touch (อิตาลี) ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนียนละเอียด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาชั้นตื้น อยู่ได้ 8-12 เดือน

กลุ่มที่ 4 ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เนื้อเจลลี่คล้ายก้อนอิฐ มีความแข็งแรง ใช้ชดเชยกระดูกที่ยุบตัวตามอายุในผิวชั้นลึก

  • Restylane Perlane Lyft (สวีเดน) ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด อยู่ได้ 12 เดือน
  • Restylane Classic (สวีเดน) ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาชั้นลึกในคนที่มีผิวบาง อยู่ได้ 12 เดือน
  • Belotero Volume (สวิตเซอร์แลนด์) ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง เหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้ 18 เดือน
  • Neuramis Volume (เกาหลี) ฟิลเลอร์เนื้อแน่น แต่กลืนกับผิวได้ดี มีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้ 6-9 เดือน

กลุ่มที่ 5 ฟิลเลอร์เนื้อทน คล้ายกับเนื้อแน่น แต่มีความคงทนมากกว่า ขึ้นเป็นทรง ใช้ชดเชยในผิวชั้นลึกชิดกระดูก

  • Juvederm Voluma (อเมริกา) ฟิลเลอร์เนื้อทน ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะฉีดใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้ 18 เดือน
  • Juvederm Volux (อเมริกา) ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความยืดหยุ่นและคงรูปได้ดี เหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้ 18-24 เดือน
  • Restylane Defyne (สวีเดน) ฟิลเลอร์เนื้อทน แน่นปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี อยู่ได้ 18 เดือน

ทั้งนี้ ในการเลือกใช้หมอจะประเมินลักษณะใต้ตาในแต่ละเคสและแนะนำฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมที่สุดให้ครับ คนไข้ที่มีใต้ตาไม่ลึกมากสามารถใช้ฟิลเลอร์เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก็ได้ หรือในคนที่ใต้ตาลึกมากสามารถใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่ต่างกัน ในการเติมร่องใต้ตาและเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างริ้วรอยใต้ตา ทำให้ผลลัพธ์ออกมาเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติครับ


ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้ กี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่ CC จะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลครับ แต่ละคนจะใช้ปริมาณ CC ไม่เท่ากัน โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ 2-4 CC จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนครับ

ในผู้ที่มีร่องใต้ตาไม่ลึกมาก ฉีดข้างละ 1 CC ก็พอครับ ส่วนในรายที่กระดูกใต้ตายุบตัวมาก ๆ และหย่อนคล้อย โดยเฉพาะในผู้ที่อายุเยอะ จะใช้ฟิลเลอร์มากขึ้น หมอจะพิจารณาเป็นรายเคสครับ


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ?

ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา แต่ละยี่ห้อที่ V Square Clinic

ที่ V Square Clinic ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา จะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่นที่เลือกใช้ หมอจะประเมินปัญหาและแนะนำให้ตามความเหมาะสมครับ

โปรโมชั่น ฟิลเลอร์ใต้ตา
ยี่ห้อฟิลเลอร์ระยะเวลาราคา / CC
Restylane Perlane Lyft (สวีเดน)อยู่ได้ 12 เดือน12,000.-/1 CC
Restylane Defyne (สวีเดน)อยู่ได้ 18 เดือน12,900.-/1 CC
Restylane Vital Light (สวีเดน)อยู่ได้ 6-12 เดือน12,000.-/1 CC
Restylane Classic (สวีเดน)อยู่ได้ 12 เดือน9,900.-/1 CC
Restylane Vital (สวีเดน)อยู่ได้นาน 12 เดือน16,900.-/1 CC
Juvederm Volite (อเมริกา)อยู่ได้ 8-12 เดือน12,900.-/1 CC
Juvederm Voluma (อเมริกา)อยู่ได้ 18 เดือน12,500.-/1 CC
Juvederm Volux (อเมริกา)อยู่ได้ 18-24 เดือน18,000.-/1 CC
Belotero Volume (สวิตเซอร์แลนด์)อยู่ได้ 18 เดือน9,900.-/1 CC
Belotero Soft (สวิตเซอร์แลนด์)อยู่ได้ 8-12 เดือน9,900.-/1 CC
Belotero Revive (สวิตเซอร์แลนด์)อยู่ได้ 6-9 เดือน14,000.-/1 CC
Flore Aqua-s (เกาหลี)อยู่ได้ 6 เดือน9,900.-/1 CC
Definisse Touch (อิตาลี)อยู่ได้ 8-12 เดือน12,000.-/1 CC
Teoxane RHA2 (สวิตเซอร์แลนด์)อยู่ได้ 18 เดือน16,000.-/1 CC
Neuramis Volume (เกาหลี)อยู่ได้ 6-9 เดือน7,500.-/1 CC

รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว ก่อน-หลังทำ จะเห็นว่าผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อย หรือมีร่องใต้ตาลึก หลังทำทันทีพบว่าใต้ตาดูยกกระชับ รอยคล้ำลดลง ดูสดใสขึ้นกว่าเดิมครับ

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา_คุณกุ๊กกิ๊ก
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา_คุณหมวย(1)
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา_คุณหมวย
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา_คุณทราย
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา_คุณกบ_แบบเบสๆ
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาดำ
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้

การปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา


ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  1. ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด ทำความเข้าใจถึง ข้อดี-ข้อเสีย ก่อนตัดสินใจทำ
  2. เลือกคลินิกที่จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รายชื่อและข้อมูลแพทย์ เปรียบเทียบราคาที่เหมาะสม และดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงจากคลินิกนั้น ๆ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
  3. เมื่อตัดสินใจฉีด ควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ และควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาอยู่ก่อนที่จะหยุดยานั้น ๆ
  4. ควรงดการแวกซ์ผิว ผลัดเซลล์ผิว การดึงขนหรือโกนขนในบริเวณนั้น ๆ เป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ
  5. หากมีคอร์สทำหน้านวดหน้าหรือเลเซอร์ต่าง ๆ ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วันก่อนทำฟิลเลอร์หรือร้อยไหม เพราะหลังทำต้องเว้นไปอีก 2 อาทิตย์
  6. หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่กินเป็นประจำอื่น ๆ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ
  7. ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายชนิด Cardio การดื่มแอลกอฮอล์
  8. สามารถแต่งหน้ามาได้ เมื่อถึงคลินิกจะมีการทำความสะอาดบริเวณจุดที่จะฉีดให้ก่อนครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  1. อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน แต่หากหลังจาก 3 วัน มีการบวมมากขึ้น ผิวหนังเปลี่ยนสีหรือมีตุ่มหนอง ให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อประเมินอาการและรับยากินเพิ่ม
  2. ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ควรหยุดยาเอง
  3. อยู่ในที่มีอากาศเย็น ไม่ร้อนจนเกินไป หากจำเป็น ควรสวมหมวก กางร่ม หรืออุปกรณ์ป้องกันความร้อนสัมผัสใบหน้า
  4. ใน 2-3 คืนแรก ควรนอนโดยใช้หมอนหนุนศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ เพื่อให้ศีรษะอยู่สูงกว่าระดับหน้าอก งดการนอนตะแคง แนะนำให้ใช้หมอนมากันใบหน้าทั้งด้านซ้ายและขวาเพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีด
  5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจน

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อห้ามบางประการที่ควรปฏิบัติตาม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด อยู่ได้นานที่สุด ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดที่ฉีด และห้ามปรับรูปทรงฟิลเลอร์ด้วยตนเอง
  2. ไม่ควรประคบเย็น หากมีอาการปวดมาก ควรปรึกษาแพทย์หรือประคบเย็นตามแพทย์สั่งเท่านั้น
  3. งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน แต่สามารถล้างหน้า แต่งหน้าได้ตามปกติ
  4. งดการดื่มแอลกอฮอล์ เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ต้องอยู่หน้าเตาเป็นเวลานาน ๆ เป็นเวลา 3 วันหลังทำ
  5. งดการนวดหน้า เลเซอร์ หรือหัตถการอื่น ๆ บริเวณใบหน้า เป็นเวลา 14 วัน
  6. หากเป็นเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึก RF หรือ Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือน

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
  • หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
  • อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
  • อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
  • งดอาหารที่หวานจัด ๆ นมวัว เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
  • หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบจากร้านอาหารที่ไม่สะอาด เนื่องจากอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนในจุดที่ฉีดแล้วเกิดการอักเสบได้
  • นอกจากนี้ ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง

ทั้งนี้ ควรงดอาหารดังที่กล่าวข้างต้นเป็นเวลา 14 วัน หากทำไม่ได้จริง ๆ หมอแนะนำให้ควรงดอย่างน้อย 3 วันครับ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีอะไรบ้าง ? ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำอย่างไรให้อยู่ได้นาน

อาหารที่ควรเลี่ยงหลังฉีดใต้ตา

Q&A ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

รวมคำถามยอดฮิต ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ต้องดูว่าเป็นอาการบวมในช่วงแรกหรือฟิลเลอร์เป็นก้อนจริง ๆ ครับ โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ อาการบวมสามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ คลำแล้วอาจพบว่าเป็นไตหรือเป็นก้อนได้ อาการบวมเข็มจะค่อย ๆ ดีขึ้นและฟิลเลอร์เข้าที่เต็มที่ ใช้เวลา 7-14 วันครับ

ถ้าหลัง 14 วันยังพบว่าฟิลเลอร์เป็นก้อนอยู่ ต้องดูอีกครั้งว่าใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน เป็นฟิลเลอร์ของแท้ที่มีมาตรฐานหรือไม่ ฝีมือ เทคนิคการฉีดของแพทย์ รวมถึงการปฏิบัติตัวของคนไข้หลังฉีด แต่ถ้าหากใช้ฟิลเลอร์แท้ก็สามารถแก้ไขได้ครับ


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที และอาจเกิดการบวมเล็กน้อย เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่ใน 14 วัน ผลที่ได้จะเหมือนกับผลหลังทำทันทีครับ


ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน ?

ฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ หากหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วได้ ก็จะช่วยคงผลลัพธ์ได้นานขึ้นครับ


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเข้าที่ ?

โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะเริ่มยุบเข้าที่ 70-80% ภายใน 4-5 วัน เข้าที่เต็มที่ 100% ภายใน 14 วันครับ


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ?

หลายคนกังวลว่าจะตาบอด หมอเรียนตามตรงว่า มีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงครับ แต่มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฉีดกับหมอเถื่อนที่ไม่มีความรู้ หรือการผิดพลาดจากการที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือด ทำให้เกิดการอุดตัน เป็นผลทำให้ตาบอดครับ

แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ของแท้ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง โอกาสเกิดอันตรายหรือผลที่ไม่พึงประสงค์ก็มีน้อยมากครับ


ฉีดสลายฟิลเลอร์ ใต้ตาได้ผลจริงไหม ?

การฉีดสลายฟิลเลอร์จะเป็นการใช้สาร Hyaluronidase ซึ่งมีคุณสมบัติย่อยสลาย HA โดยถ้าเป็นฟิลเลอร์ของแท้ สามารถใช้สารนี้ฉีดสลายได้ 100% ครับ

Hyaluronidase
Hyaluronidase เป็นเอนไซม์ที่ใช้ย่อยสลายฟิลเลอร์ให้เป็น Hyaluronan Fragment และขับออกจากร่างกาย

สรุป ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาตรงจุด

ฟิลเลอร์ใต้ตา คือวิธีแก้ไขปัญหาใต้ตา ร่องใต้ตา ลดรอยคล้ำใต้ตา ลดถุงใต้ตา ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น สิ่งสำคัญคือต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น

ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อมาตรฐาน ของแท้ทุกรุ่น แกะกล่อง แกะหลอดใหม่ให้ดูต่อหน้า นำกล่องและหลอดกลับบ้านได้ ทุกเคสฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์และปรับรูปหน้า มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า