Coolsculpting
Coolsculpting เป็นวิธีที่ช่วยสลายไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยเป็นวิธีที่ช่วยลดไขมันส่วนเกินได้อย่างเห็นผล เราสามารถหาข้อมูลได้มากมายตามอินเทอร์เน็ต มีทั้งการลดไขมันด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น การออกกำลังกายและการเลือกรับประทานอาหาร รวมถึงวิธีการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์มาช่วยลดไขมันให้เห็นผลรวดเร็ว และช่วยลดไขมันส่วนเกินที่ลดยาก
การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นวิธีที่ช่วยสลายไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่กำลังได้รับความนิยม แต่หลายคนยังไม่ทราบว่า Coolsculpting คืออะไร ช่วยสลายไขมันได้อย่างไร เห็นผลจริงไหม ? เจ็บไหม ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง กี่วันเห็นผล ต่างจากการดูดไขมันอย่างไร ? Coolsculpting มีผลข้างเคียงไหม ก่อน-หลังทำ Coolsculpting ควรรู้อะไรบ้าง ? หมอจะมาอธิบายในบทความนี้ครับ
สารบัญ Coolsculpting
- Coolsculpting คือ
- สาเหตุไขมันสะสม
- วิธีกำจัดไขมันส่วนเกินวิธีต่าง ๆ
- Coolsculpting ช่วยสลายไขมันสะสมได้อย่างไร
- Cryolipolysis คืออะไร เกี่ยวข้องกับ Coolsculpting อย่างไร
- Coolwave, Coolsculpting, EmSculpt ต่างกันอย่างไร
- ทำ Coolsculpting ช่วยสลายไขมันได้ผลจริงไหม
- Coolsculpting ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง
- หัว Coolsculpting มีกี่แบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนใช้กับส่วนไหน
- ใครเหมาะกับการทำ Coolsculpting สลายไขมัน
- ข้อดี – ข้อเสีย ของการทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
- การเตรียมตัวก่อนทำ Coolsculpting
- ทำ Coolsculpting เจ็บไหม
- Coolsculpting รีวิว
- อาการหลังทำ Coolsculpting
- ทำ Coolsculpting กี่วันเห็นผล
- สลายไขมันด้วย Coolsculpting ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล
- ข้อห้าม และการดูแลตัวเองหลังทำ Coolsculpting
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
- ทำ Coolsculpting แล้วไม่ได้ผล เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
- เปรียบเทียบ Coolsculpting กับการดูดไขมัน
- Coolsculpting กับ Hifu/Ulthera/Thermage/Meso Fat แตกต่างกันอย่างไร
- ทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ดีไหม
- ทำ Coolsculpting แต่ละตำแหน่งใช้กี่หนีบ
- Coolsculpting ราคา
- Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ที่ไหนดี
- ทำ Coolsculpting ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร
- โปรโมชั่น Coolsculpting ที่ V Square Clinic
- Q&A Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
Coolsculpting คือ
Coolsculpting คือ เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis, Fat-freezing) แบบไม่ต้องผ่าตัด ตามหลักการที่ว่าเซลล์ไขมัน (Adipose cell) จะไวต่อความเย็นมากกว่าน้ำและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ทำให้เมื่อใช้ความเย็นจัดส่งลงไปใต้ชั้นผิว จะมีเฉพาะเซลล์ไขมันเท่านั้นที่ถูกแช่แข็ง ทำให้เซลล์ไขมันตาย (Apoptosis) และถูกกำจัดออกจากร่างกายในที่สุดครับ
เครื่อง Coolsculpting จะมีส่วนของหัวดูด (Applicator) มักเรียกการดูด 1 ครั้งว่า 1 หนีบ หรือ 1 cycles ผิวหนังขึ้นมาและปล่อยความเย็นที่ -11°C เป็นเวลานาน 35 นาทีในแต่ละจุด หลังจากที่เซลล์ไขมันถูกแช่แข็งครบเวลา เซลล์ไขมันตายจะถูกร่างกายกำจัดออกได้เองตามธรรมชาติ โดยเป็นวิธีที่กำจัดไขมันได้ถาวรครับ
สาเหตุไขมันสะสม
- กรรมพันธุ์ โรคอ้วนหรือปัญหาไขมันส่วนเกิน สามารถส่งต่อทางพันธุกรรมได้ครับ พ่อแม่ที่มีรูปร่างอ้วนอาจจะทำให้ลูกอ้วนได้เช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยหลัก 100% มีผลแค่ 40-70% เท่านั้น ความอ้วนที่เกิดจากกรรมพันธุ์จะลดได้ค่อนข้างยากครับ
- เพศและอายุ ผู้ชายมีแนวโน้มเผาผลาญได้เร็วกว่าผู้หญิง และเมื่อคนเราอายุมากขึ้น อัตราการเผาผลาญจะลดลง แต่ตามสถิติแล้วผู้ชายจะมีไขมันสะสมในช่องท้องมากกว่าผู้หญิง ส่วนผู้หญิงจะเป็นไขมันส่วนเกินบริเวณสะโพก ต้นขา ต้นแขนมากกว่าครับ ซึ่งเป็นผลมาจากระบบเผาผลาญพลังงานที่แตกต่างกันครับ
- การรับประทานอาหารประเภทไขมัน แป้ง หรือโซเดียมมากเกินไป หากทานอาหารประเภทนี้เกินปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน ทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมด ไขมันเกิดการสะสมและแทรกซึมอยู่บริเวณอวัยวะต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น และการทานอาหารที่มีโซเดียมสูง ส่งผลให้ดูตัวบวมขึ้นได้ครับ
การรับประทานอาหารไขมันสูงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกิน
- ไม่ค่อยขยับหรือออกกำลังกายน้อย หากเป็นคนที่นั่งทำงานอยู่กับที่ เคลื่อนไหวร่างกายน้อย ไม่ออกกำลังกาย ร่างกายจึงใช้พลังงานน้อย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ก็อาจเกิดไขมันสะสมได้ เนื่องจากร่างกายไม่ได้เกิดการเผาผลาญสารอาหารเท่าที่ควร จึงสะสมไว้ในร่างกาย
วิธีกำจัดไขมันส่วนเกินวิธีต่าง ๆ
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดไขมันสะสม ควรรับประทานที่มีสารอาหารอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอาหารประเภทโปรตีน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ ถ้ามวลกล้ามเนื้อมากขึ้น ร่างกายก็จะเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ใช้น้ำมัน มีไขมันสูง เช่น อาหารประเภททอด ผัด อาหาร junk food
และเมื่อเปลี่ยนการรับประทานอาหารร่วมกับการออกกำลังกาย จะยิ่งเห็นผลดียิ่งขึ้น ดีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม ประหยัด ทำได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา และต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรครับ
- การดูดไขมัน
การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นการใช้เครื่องมือที่ทำให้ไขมันบริเวณที่ทำเกิดการแตกตัว เช่น เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ เครื่องดูดไขมันกลุ่มความร้อน เครื่องดูดไขมันพลังงานกลการสั่นสะเทือน เมื่อไขมันแตกตัวแล้วทำการดูดไขมันออกโดยใช้ท่อหรือไซริงค์ครับ
การดูดไขมันเป็นวิธีที่วิธีที่ค่อนข้างเจ็บ บวมช้ำนาน ต้องพักฟื้นนาน บางเคสพบปัญหาผิวไม่เรียบในบริเวณที่ดูดไขมัน และทิ้งรอยแผลเป็นตามแนวที่สอดเครื่องมือได้ วิธีการดูดไขมันเหมาะกับคนที่อ้วนมาก ๆ ครับและไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ไขมันเยอะจากกรรมพันธุ์ ออกกำลังกายแล้วไม่ลง ต้องการเห็นผลชัดเจน รวดเร็ว เห็นว่ายุบทันทีครับ
- การสลายไขมันด้วยความเย็น
การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นนวัตกรรมการสลายไขมัน ที่ใช้หลักการแช่แข็งเซลล์ไขมันให้แตกตัวและถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ถาวร โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องลงมีด ไม่ต้องใช้เข็ม
เครื่องที่นิยมใช้ในการสลายไขมันด้วยความเย็นและเป็นเครื่องที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล คือ เครื่อง Coolscolpting ครับ สามารถลดไขมันส่วนเกินลงได้ 25% ต่อการทำ 1 ครั้ง เหมาะกับคนที่ไม่อยากมีแผลผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น และมีไขมันสะสมไม่เยอะมาก BMI<35 ครับ
- การฉีดเมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟตเป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์สลายไขมันเข้าไปในผิวชั้นไขมัน กระตุ้นให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัว หรือกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย ช่วยในการดึงไขมันออกจากเซลล์ จากนั้นจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านการหายใจและระบบขับถ่าย ในการฉีด 1 ครั้งตามปริมาณที่เหมาะสม ไขมันจะลดลงได้ 10-15% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 อาทิตย์
แต่การฉีดเมโสแฟตมีข้อเสียคือหวังผลได้ไม่แน่นอน และอาจจะเห็นผลไม่ชัดเจน เนื่องจากการออกฤทธิ์ของตัวยานั้นขึ้นกับปัจจัยของร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนฉีดเมโสแฟตแล้วเห็นผลดีมาก บางคนไม่เห็นผลก็มีครับ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัดอาจจะทดลองใช้วิธีนี้ก่อน หากเห็นผลดีก็จะช่วยประหยัดเงินได้ครับ
Coolsculpting ช่วยสลายไขมันสะสมได้อย่างไร มีกระบวนการทำงานในการสลายไขมันอย่างไร
เซลล์ไขมัน (Adipose cell) เป็นเซลล์ที่ไวต่อความเย็นมากกว่าน้ำและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ เช่น ถ้าเรานำอาหารที่มีไขมันไปแช่ตู้เย็น ส่วนที่เป็นไขมันจะแข็งตัวและแยกชั้นลอยขึ้นมาได้ไวกว่าส่วนที่เป็นน้ำหรือเนื้อสัตว์ จึงนำหลักการนี้มาใช้ในการพัฒนาเครื่องมือสลายไขมัน เมื่อใช้เครื่อง Coolsculpting ทาบลงบนผิวบริเวณที่ต้องการสลายไขมันเป็นในระยะเวลาหนึ่งประมาณ 35 นาที เซลล์ไขมันในชั้นผิวเท่านั้นที่จะถูกแช่แข็ง จึงเกิดภาวะ Apoptosis หรือเซลล์ไขมันตาย เซลล์ไขมันที่ตายจะค่อย ๆ ถูกกำจัดออกจากในลำดับต่อไปครับ
Cryolipolysis คืออะไร เกี่ยวข้องกับ Coolsculpting อย่างไร
Cryolipolysis มาจากคำว่า Cryo- แปลว่า ความหนาวเย็น, ความเย็นจนเป็นน้ำแข็ง Lipo- แปลว่า ไขมัน ส่วน -lysis การทำให้สลายตัวหรือแตกตัว ดังนั้น Cryolipolysis จึงหมายความว่า การสลายไขมันด้วยความเย็นนั่นเองครับ
Coolsculpting เป็นเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นที่ใช้หลักการ Cryolipolysis มีส่วนหัวดูดที่ดูดผิวขึ้นมา จากนั้นจะปล่อยความเย็นที่ -11°C ลงสู่ชั้นผิวเป็นเวลานาน 35 นาทีในแต่ละจุด หลังจากที่เซลล์ไขมันถูกแช่แข็งครบเวลา เซลล์ไขมันสลายตัวและจะถูกกำจัดออกจากร่างกายตามธรรมชาติ ซึ่งการสลายไขมันด้วยวิธี Cryolipolysis เป็นการกำจัดไขมันถาวร เซลล์ไขมันในบริเวณนั้นจะไม่กลับมาอีกครับ
Coolwave, Coolsculpting, EmSculpt ต่างกันอย่างไร
Emsculpt เป็นวิธีการลดไขมันโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ส่งไปกระตุ้นชั้นกล้ามเนื้อให้เกิดการหดเกร็ง เสมือนการเล่นบอดี้เวท ทำให้ร่างกายเกิดการสร้างกล้ามเนื้อบริเวณนั้นเพิ่มขึ้นครับ เหมาะกับคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ สร้างซิกแพคครับ
ส่วน CoolWave เป็นเทคนิคที่ใช้ในการทำ Cryolysis เช่นเดียวกับการทำ Coolsculpting แต่เป็นเครื่องคนละยี่ห้อกันครับ บางคลินิกจะเรียกว่าการทำ Z lipo & Z wave หลักการคือใช้ความเย็นสลายไขมันในจุดที่ต้องการโดยเครื่อง Z lipo ก่อน จากนั้นใช้เครื่อง Z wave ส่งคลื่นความถี่เข้าไปช่วยให้เซลล์ไขมันที่ตายลำเลียงออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้นครับ
แต่ Coolsculpting เป็นเครื่อง original ที่ใช้ความเย็นสลายเซลล์ไขมัน จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีงานวิจัยรองรับ มีใช้กว่า 74 ประเทศทั่วโลก และผ่านการรับรองจาก FDA ครับ เป็นวิธีการสลายไขมันที่เห็นผลแบบถาวร คือลดจำนวนเซลล์ไขมันในจุดที่ทำให้ลดลง เน้นลดสัดส่วน มีหัวดูดหลายแบบสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งได้ ทำได้หลายส่วนที่มีไขมันสะสมครับ หลังทำ Coolsculpting จะมีขั้นตอนการนวดเพื่อให้ไขมันแตกตัว โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องนวดหรือเครื่องมืออื่น ๆ ครับ
หัว Coolsculpting มีกี่แบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนใช้กับส่วนไหน
เครื่อง Coolsculpting ได้มีการพัฒนาหัวดูด หรือ Applicators ให้เหมาะสมกับแต่ละบริเวณที่ต้องการทำ ทำให้สามารถสลายไขมันในบริเวณที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และยังพัฒนาในเรื่องของระบบดูสุญญากาศ การส่งความเย็น ทำให้ผู้รับบริการเจ็บน้อยลง ใช้เวลาในการทำน้อยลงด้วยครับ
โดยปัจจุบันมีหัวดูดทั้งหมด 10 แบบ ดังต่อไปนี้
- CoolCore ขนาดพื้นที่ 117 ตร.ซม. หัวดูดขนาดกลางสำหรับการลดไขมันประเภท Subcutaneous fat ใช้ทาบไปกับผิวที่เป็นบริเวณไม่กว้างมากและมีความโค้ง เหมาะกับทำบริเวณหน้าท้องส่วนบนและล่าง หรือสะโพก
- CoolCurve+ ขนาดพื้นที่ 130 ตร.ซม. เป็นหัวดูดที่มีลักษณะโค้งไปตามสรีระได้มาก เหมาะสำหรับใช้กับพื้นที่ที่มีความเว้า เช่น เอว สีข้าง ไขมันบริเวณหลัง ปีกหลัง
- CoolMax ขนาดพื้นที่ 343 ตร.ซม. หัวดูดขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับทำส่วนที่มีความกว้างมาก เช่น หน้าท้องส่วนล่าง
- CoolFit ขนาดพื้นที่ 170 ตร.ซม. เป็นหัวดูดแบบราบ เหมาะกับพื้นที่ที่มีความนูนของไขมันเล็กน้อย เช่น ต้นขาด้านใน
- CoolSmooth ขนาดพื้นที่ 213 ตร.ซม. เป็นหัวดูดแบบราบขนาดใหญ่ เหมาะกับการทำบนผิวที่มีบริเวณกว้างและแบนราบ เช่น ต้นขาด้านนอก หน้าท้องส่วนบน
- CoolSmooth Pro ขนาดพื้นที่ 213 ตร.ซม. เป็นหัวดูดแบบราบขนาดใหญ่ที่พัฒนามาจากหัว CoolSmooth เหมาะกับการทำบนผิวที่มีบริเวณกว้างและแบนราบ เช่น ต้นขาด้านนอก หน้าท้องส่วนบน และบริเวณใต้สะโพกลงมา (บางคลินิกใช้ทำ sixpack)
- CoolMini ขนาดพื้นที่ 35 ตร.ซม. เป็นหัวดูดแบบโค้งขนาดเล็ก เหมาะกับบริเวณไขมันบริเวณเหนียง นมน้อย (เนื้อใต้รักแร้) เหนือหน้าอก ผู้หญิง เนื้อย้วยเหนือเข่า
- CoolAdventage ขนาดพื้นที่ 115 ตร.ซม. เป็นหัวดูดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถใช้ได้กับหลายบริเวณ เหมาะกับผู้ที่มีไขมันปานกลาง ใช้ทำได้ 7 จุด ได้แก่ ท้อง เอว แขน หน้าอกผู้ชาย ปีกหลัง ขาด้านใน ใต้ก้น
- CoolAdvantage Petite ขนาดพื้นที่ 77 ตร.ซม. เป็นหัวดูดขนาดเล็กกว่าหัว CoolAdventage แต่มีขนาดเล็กกว่า เหมาะกับคนที่มีไขมันไม่หนามากหรือผู้ที่กลับมาทำซ้ำที่จุดเดิม ใช้สำหรับลดไขมันได้ 7 จุด เท่ากับหัว CoolAdvantage คือ ท้อง เอว แขน หน้าอกผู้ชาย ปีกหลัง ขาด้านใน ใต้ก้น
- Cool Advantage Plus ขนาดพื้นที่ 190 ตร.ซม. เป็นหัวขนาดใหญ่ เหมาะกับคนที่มีไขมันเยอะ ใช้สำหรับลดไขมันบริเวณกว้าง ได้แก่ เอว ท้อง
Coolsculpting มีหัวที่ใช้กำจัดไขมันหลายรูปทรงและหลายขนาด สามารถออกแบบรูปทรงในการลดของไขมันได้คล้าย ๆ การปั้น (Sculpting) โดยผู้เชี่ยวชาญจะเป็นคนแนะนำและให้คำปรึกษาในการออกแบบสัดส่วนตามที่คนไข้ต้องการ
ข้อดี – ข้อเสีย ของการทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
ข้อดี Coolsculpting
- เป็นวิธีสลายไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผล มีความปลอดภัยและได้รับได้ US FDA approved ไม่ต้องการเสี่ยงกับผลข้างเคียงของการดูดไขมัน
- กำจัดเซลล์ไขมันได้ถาวร โดยไขมันจะลดลงครั้งละ 25% ในจุดที่ทำ หรือ 60-70 CC/1หนีบ ต่างจาก Slimming treatment แบบอื่น ๆ ที่เน้นการลดขนาดของเซลล์หรือเร่งระบบการเผาผลาญของร่างกาย
- มีระบบเซนเซอร์ตรวจจับกรณีที่พบว่าผิวหนังเย็นเกินไป และจะปิดการทำงานโดยอัตโนมัติ ลดความเสี่ยงในการเกิดผิว burn จากความเย็นจัด
- หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องใช้ยาชาหรือยาสลบ
- สามารถทยอยทำในแต่ละจุดที่ต้องการเน้นได้
ข้อเสีย Coolsculpting
- ไม่เหมาะกับผู้ที่อ้วนมากๆ BMI มากกว่า 35 เนื่องจากต้องกำจัดไขมันออกในปริมาณมาก ต้องทำซ้ำหลายครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน จึงแนะนำให้ดูดไขมันมากกว่าครับ
- ผู้ที่มีผิวช้ำง่าย อาจจะเกิดรอยเขียวช้ำได้จากการที่หัวดูดผิวเพื่อแยกชั้นไขมันขึ้นมา ซึ่งรอยช้ำจะหายไปได้เองภายในระยะเวลา 2- 3 สัปดาห์
- ใช้เวลาเห็นผลในแต่ละจุดเต็มที่ใช้เวลา 2-3 เดือนหลังทำ อาจมีอาการบวมหลังทำประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นช่วงที่รอให้ร่างกายเรากำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไป
- ราคาค่อนข้างสูง ราคา 8,000-12,000 ต่อ 1 หนีบ (พื้นที่ 1 ฝ่ามือ)
สลายไขมันด้วย Coolsculpting ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล
จากงานวิจัยและพัฒนากว่า 50 งานวิจัย ได้ยืนยันผลว่า การทำ Coolsculpting สามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังบริเวณที่ทำได้ โดยไขมันลดลงได้ 25% ต่อการทำ 1 ครั้ง และสามารถกลับมาทำซ้ำในจุดเดิมได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์มากขึ้น
หลังทำการสลายไขมันด้วยความเย็นด้วยเครื่อง Coolsculpting ในช่วง 3-4 สัปดาห์จะเริ่มเห็นผลว่าสัดส่วนเล็กลง เห็นผลเต็มที่ใช้เวลา 3 เดือน ซึ่งในช่วง 1-2 อาทิตย์แรกหลังทำ จะบวมในจุดที่เซลล์ไขมันตายและค้างอยู่ เพราะร่างกายต้องใช้เวลา เพื่อค่อย ๆ ลำเลียงเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามระบบเลือดและระบบน้ำเหลือง ระยะเวลาในการพักฟื้นเนื่องจากอาการปวดระบมคือ 7-10 วัน
ข้อห้าม และการดูแลตัวเองหลังทำ Coolsculpting
หลังทำ Coolsculpting ไม่มีข้อห้ามหรือข้อปฏิบัติใดที่เคร่งครัดครับ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังทำอาจมีอาการบวม คัน ชา หรือแสบบริเวณที่ทำได้เป็นปกติ จะค่อย ๆ หายได้เองใน 2 สัปดาห์ครับ
และแนะนำว่า ถ้าหากทำ Coolsculpting ร่วมกับการออกกำลังกายและคุมอาหาร จะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นได้ครับ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
การทำ Coolsculpting ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือเป็นอันตรายครับ เพราะระบบของเครื่องมีความเสถียรและได้มาตรฐานระดับสากล และมีระบบที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Coolsculpting ป้องกันไม่ให้ผิวหนังชั้นบนเย็นจนไหม้ (Freeze detect) ขณะทำครับ
นอกจากนี้ ผลข้างเคียงอื่นที่สามารถเกิดได้แต่มีโอกาสเกิดน้อยมาก (อัตรา 1:20,000 เคส) ได้แก่
- การเกิด paradoxical adipose hyperplasia คือก้อนไขมันใหญ่ขึ้นหลังทำ ไม่ยุบลง ซึ่งหากเกิดกรณีนี้ทางบริษัท Allergan บริษัทผู้ผลิต Coolsculpting มีระบบรับประกัน จะรับผิดชอบแก้ไขให้ฟรีครับ
- เกิดรอยดำที่ผิวชั่วคราว ซึ่งจะหายไปได้เองใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือนครับ
ทำ Coolsculpting แล้วไม่ได้ผล เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
หากทำ Coolsculpting มาแล้วรู้สึกว่าไม่เห็นผล แนะนำให้พิจารณาดังต่อไปนี้
- สัดส่วนหรือรูปร่างของผู้ใช้บริการ มีปริมาณไขมันมากเกินไป พอทำมาแล้วเห็นผลไม่ชัดเจน ไขมันไม่หายไปตามที่คาดหวัง (ซึ่งคลินิกที่ดีแพทย์จะต้องประเมินและแนะนำว่าคนไข้เหมาะกับ Coolsculpting หรือไม่อย่างตรงไปตรงมา)
- เครื่อง Coolsculpting ที่ใช้ เป็นของปลอม ของเลียนแบบ ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ยังอาจเกิดอันตรายกับผิวได้ด้วยครับ เช่น ผิวไหม้
การดูดไขมันเป็นวิธีการลดไขมันสะสมที่ทำกันมายาวนาน เป็นวิธีที่ต้องใช้การผ่าตัดและใช้เวลาการพักฟื้นนาน คนจึงหันมาหาทางเลือกในการลดไขมันวิธีอื่น ๆ กันมากขึ้น ข้อดี ข้อเสียแต่ละวิธีแบ่งออกได้เป็นข้อ ๆ ดังนี้
การดูดไขมัน | การทำ Coolsculpting |
---|---|
เหมาะสำหรับผู้ที่มี BMI มากกว่า 35 เพราะต้องกำจัดเซลล์ไขมันในปริมาณมาก | เหมาะสำหรับผู้ที่มี BMI น้อยกว่า 35 ผู้ที่มีไขมันสะสมเยอะอาจทำ Coolsculpting ไม่ได้ผล เห็นการเปลี่ยนแปลงน้อย หรือต้องทำหลายครั้ง |
เป็นการใช้ท่อเหล็กขนาด 3 mm สอดและขูดเข้า-ออกในชั้นไขมันในทุกแนว ร่วมกับส่งพลังงานต่าง ๆ ตามหลักการของเครื่องที่ใช้ เช่น Ultrasound, RF(Radio frequency), แรงดันน้ำ(แตกต่างกันในเครื่องแต่ละยี่ห้อ) เข้าไปเพื่อทำให้ก้อนไขมันให้เหลวเป็นน้ำ และสามารถดูดออกมาได้ | ใช้หัวดูดหนีบชั้นไขมัน แล้วใช้ความเย็น -11°C นาน 35 นาที ทำให้เซลล์ไขมันกลายเป็นน้ำแข็ง และแตกตัว จากนั้นไขมันจะถูกกำจัดออกจากร่างกายตามธรรมชาติ |
มีแผล 3-5 mm (ถือเป็นการผ่าตัดเล็ก) ระงับความรู้สึกด้วยการฉีดยาชาปริมาณมากในทุกจุดที่ดูดไขมัน บางเคสอาจใช้การวางยาสลบ | ไม่มีรอยแผลหลังทำ ไม่ใช่การผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยาชา ไม่ต้องวางยาสลบ |
มีความเสี่ยงที่จะเกิดก้อนไขมันพลัดเข้าไปในเส้นเลือดและไปอุดตัน (Fat embolism) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต การดูดไขมันควรทำในสถานพยาบาล-โรงพยาบาลที่มีความพร้อมในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินเท่านั้น | ไม่มีความเสี่ยงที่รุนแรง มีระบบป้องกันไม่ให้ผิวหนังชั้นบนเย็นจนไหม้(Freeze detect) เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Coolsculpting
– มีโอกาสเกิด paradoxical adipose hyperplasia คือแทนที่ก้อนไขมันจะยุบลง กลับใหญ่ขึ้น ซึ่งหากเกิดกรณีนี้ทางบริษัท Allergan มีระบบรับประกัน จะรับผิดชอบแก้ไขให้ฟรีครับ (โอกาสเกิดน้อยมาก 1:20,000) – มีโอกาสเกิดรอยดำที่ผิวชั่วคราว ซึ่งจะหายไปได้เองใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือน (โอกาสเกิดน้อยมาก 1:20,000) |
ในผู้ที่มีไขมันสะสมมาก BMI>35 สัดส่วนจะยุบลงทันทีหลังทำ เนื่องจากดูดเซลล์ไขมันจำนวนมากออกไป ในปริมาณที่มากกว่าอาการบวม ปวดระบม 2-3สัปดาห์
แต่ในกรณี BMI<35 หลังทำอาการบวมอาจจะมากกว่าปริมาณไขมันที่ถูกดูดออกไป ทำให้ไม่เห็นผลว่ายุบลงทันที จึงต้องรอผลหลังการพักฟื้น 1-2 เดือน และเข้าที่เต็มที่ 3-4 เดือน |
หลังทำในช่วง 2 อาทิตย์แรก อาจมีอาการบวมได้ ทำให้เห็นว่าสัดส่วนบวมมากกว่าเดิม เนื่องจากมีก้อนเซลล์ไขมันที่ตายยังตกค้างอยู่ในผิวหนัง ประมาณ 1 เดือนจึงจะเริ่มเห็นว่าสัดส่วนยุบลง ยุบเต็มที่ใช้เวลา 3 เดือน |
หลังทำมักจะมีอาการเขียวช้ำมาก มีโอกาสเกิดชั้นผิวที่ไม่เรียบ ไม่สม่ำเสมอจากการสอดท่อดูด และมีรอยแผลหลังทำ | โอกาสเขียวช้ำน้อยมาก ไม่มีรอยแผล ผิวจะเรียบเนียนสม่ำเสมอกัน |
ราคา 40,000-100,000 บาท ขึ้นกับยี่ห้อเครื่องที่ใช้ในการดูดไขมัน และปริมาณไขมันที่หมอประเมิน | ราคา 50,000-120,000 บาท ขึ้นกับรูปทรงสัดส่วนที่คนไข้ต้องการ 1 หนีบ (ประมาณ 1 ฝ่ามือ) ราคาประมาณ 12,000 จะลดไขมันลงได้ 70-80 CC/ครั้ง |
หากเป็นผู้ที่มีไขมันไม่มาก BMI น้อยกว่า 35 และผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน ๆ หมอแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมัน และเลือกใช้วิธีที่ปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียในระยะยาวดีกว่าครับ
Coolsculpting กับ Hifu/Ulthera/Thermage/Meso Fat แตกต่างกันอย่างไร
เมโสแฟต เป็นการใช้ตัวยาที่มีฤทธิ์ช่วยเร่งให้ไขมันแตกตัวเข้าไปในชั้นผิวเพื่อฉีดสลายไขมัน ไขมันจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานและนำไปใช้ในกระบวนการต่าง ๆ จากนั้นจึงถูกขับออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติครับ ผลลัพธ์ของการฉีดเมโสแฟตจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และระบบเผาผลาญของแต่ละคนร่วมด้วยครับ โดยส่วนใหญ่จะลดไขมันได้ประมาณ 10% ต่อการฉีด 1 ครั้ง และกลับมาอ้วนอีกได้หากไม่ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
เครื่อง HIFU, Ulthera และ Thermage เป็นเครื่องมือที่เน้นในเรื่องของการยกกระชับมากกว่าการลดไขมัน โดยใช้การส่งคลื่นพลังงานลงไปในชั้นผิว ทำให้เกิดความร้อนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่น กระชับ และสามารถยิงพลังงานเข้าชั้นไขมันได้ครับ แต่จะไม่สามารถลดไขมันได้เท่ากับการทำ Coolsculpting จึงเหมาะกับการทำบริเวณแก้ม เหนียง หรือช่วยยกกระชับบริเวณที่หย่อนคล้อย หลังทำเห็นผลไม่ถาวร จะอยู่ได้ 6 เดือน ถึง 2 ปี แล้วแต่เครื่องที่ใช้
ส่วนการทำ Coolsculpting เป็นการทำให้เซลล์ไขมันตายด้วยความเย็นที่ทำลายเซลล์ไขมันโดยตรงและเข้าสู่กระบวนการกำจัดไขมันออกจากร่างกายทันที เซลล์ไขมันถูกทำลายอย่างถาวร ไม่มีการเพิ่มจำนวนอีก จึงสามารถหวังผลลัพธ์ของ Coolsculpting ได้มากกว่าการฉีดเมโสแฟต โดยการทำ 1 ครั้ง จะลดเซลล์ไขมันได้ประมาณ 25% ในเวลา 3 เดือน แต่ถ้าหากไม่ควบคุมน้ำหนัก เซลล์ไขมันส่วนที่เหลือก็สามารถเพิ่มขนาด (ไม่เพิ่มจำนวน) และทำให้สัดส่วนในจุดนั้นอ้วนคืนมาได้ แต่ก็ไม่มากกว่าเดิมครับ
ทำ Coolsculpting แต่ละตำแหน่งใช้กี่หนีบ
ในแต่ละจุดที่ต้องการลดสัดส่วน จะมีพื้นที่ ปริมาณไขมันสะสม และลักษณะของชั้นผิวที่แตกต่างกัน จำนวนที่ใช้หัว Applicator ในการทำ 1 ครั้ง นับเป็น 1 หนีบ ครับ จำนวนหนีบที่ใช้โดยทั่วไปในแต่ละตำแหน่ง มีดังนี้
- ต้นแขน โดยทั่วไปใช้ข้างละ 1 หนีบ
- ต้นขา โดยทั่วไปใช้ข้างละ 1หนีบ
- หน้าท้อง โดยทั่วไปใช้ 2 – 4 หนีบ
- เอวด้านข้าง โดยทั่วไปใช้ข้างละ 1หนีบ
- สะโพก โดยทั่วไปใช้ข้างละ 1หนีบ
Coolsculpting ราคา
แต่ละคลินิกที่มี Coolsculpting ให้บริการ ราคาจะไม่แตกต่างกันมากครับ และราคาจะขึ้นกับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก โดยทั่วไป Coolsculpting ราคา 8,000 – 12,000 บาทครับ ซึ่งที่ช่วงราคานี้จะค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเป็นเครื่อง Coolsculpting ของแท้ มีการบำรุงรักษาเครื่องตามมาตรฐานครับ
แต่ถ้าเจอโฆษณาการทำ Coolsculpting ที่ราคาถูกมาก ๆ ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่า ใช่เครื่อง Coolsculpting ของแท้หรือไม่ อาจจะเป็นเครื่องเลียนแบบหรือเครื่องปลอมได้ครับ ซึ่งค่อนข้างอันตรายหากตัดสินใจผิดเข้าใช้บริการ เพราะระบบการทำงานของเครื่องปลอมมักจะไม่เสถียร ไม่ได้มาตรฐาน ถ้าเครื่องส่งความเย็นในระดับที่ติดลบมากเกินไป หรือนานเกินไปโดยไม่มีระบบเซนเซอร์ตรวจจับความเย็น จะเสี่ยงต่อการเกิด freeze burn (ผิวไหม้จากความเย็น) เกิดแผลเป็นที่รักษาได้ยากครับ
Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ที่ไหนดี
เลือกทำ Coolsculpting ที่ไหนดี ถึงน่าเชื่อถือและปลอดภัย? หมอแนะนำการเลือกคลินิกทำ Coolsculpting ดังนี้ครับ
- ดูจากความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของคลินิก ตรวจสอบได้ว่าต้องมีใบรับรองที่ถูกต้อง
- สถานที่สะอาด มีพื้นที่ไม่คับแคบ ใช้เครื่อง Coolsculpting ของแท้ที่สามารถตรวจสอบได้
- ต้องมีแพทย์และ Specialist สำหรับทำ Coolsculpting โดยเฉพาะ มีขั้นตอนการประเมินให้คำปรึกษาก่อนทำ
- มี Review จากผู้ใช้บริการจริง จากแหล่งที่เชื่อถือได้
- ราคาสมเหตุสมผล หากถูกเกินไปอาจเป็นเครื่องปลอม หรือเลียนแบบได้ครับ
ทำ Coolsculpting ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร
- ใช้เครื่อง Coolsculpting ของแท้จากสหรัฐอเมริกา สามารถตรวจสอบได้ และมีการบำรุงรักษาเครื่องตามมาตรฐาน
- ดูแลและให้คำแนะนำโดย แพทย์และ Specialist ที่มีประสบการณ์ในการทำ Coolsculpting มานานมากกว่า 3 ปี
- ห้องที่ทำ Coolsculpting มีขนาดอย่างน้อย 20 ตร.ม. กว้างขวาง ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด
- ใช้เก้าอี้ Lazboy รุ่นท็อปรุ่นกว้างพิเศษ เพื่อความสบายสูงสุดของลูกค้าในช่วงเวลาที่ทำหลายชั่วโมง
- มีเทคนิคพิเศษที่ช่วยให้อาการบวมหลังทำหายไวกว่าปกติ
- ราคาโปรโมชั่นพิเศษ ราคาสมเหตุสมผล
โปรโมชั่น Coolsculpting ที่ V Square Clinic
ราคาโปรโมชั่น Coolsculpting ที่ V square clinic
โปรโมชั่น สำหรับผู้ติดตาม Line@ และมีสติกเกอร์ “น้อง ดักกี้ V Square” รับของแถมเพิ่มฟรี
1 หนีบ 8,500.- (ปกติ 9,900.-)
2 หนีบ 17,000.- รับของแถม 1 รายการ
4 หนีบ 34,000.- รับของแถม 3 รายการ
6 หนีบ 51,000.- รับของแถม 5 รายการ
10 หนีบ 85,000.- รับของแถม 10 รายการ
ของแถมมูลค่า 2,000 บาท เลือกได้ตามรายการดังนี้
- วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน 1 ครั้ง
- มาเด้คอลลาเจน 1 ครั้ง
- เมโสแฟต Phytobella 6 CC
- โบท็อกซ์ 15 Unit (Nabota)
- Hifu Ultraformer lll 50 Line
Q&A Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
หลังทำ Coolsculpting ร่วมกับการออกกำลังกายและคุมอาหาร จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ชัดเจนขึ้น เห็นผลไวขึ้นได้ครับ
การสลายไขมันด้วย Coolsculpting ไม่ใช่การลดน้ำหนักครับ ไม่มีผลต่อน้ำหนักตัว แต่เป็นการลดไขมันเฉพาะส่วน ลดไขมันส่วนเกินในจุดที่ลดได้ยาก ช่วยกระชับสัดส่วนครับ
- Coolsculpting จะไม่เห็นผลทันทีเหมือนการดูดไขมัน ต้องรอเวลา ให้ร่างกายกำจัดเซลล์ไขมันออกไปก่อน
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลหลังทำทันที เพราะ Coolsculpting ต้องรอให้ไขมันค่อยๆถูกกำจัดออก ใช้เวลา 1-3 เดือน
- หญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ความเย็น เช่น ลมพิษจากความเย็น โรคกลัวความเย็น
สรุป Coolsculpting
วิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นด้วยเครื่อง Coolsculpting เป็นวิธีที่ช่วยลดไขมันได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผลหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองจาก US-FDA สามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้ถาวร เห็นผลภายใน 3 เดือนหลังทำ แต่การทำ Coolsculpting ให้เห็นผลและปลอดภัย จะต้องใช้เครื่องของแท้ และต้องเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ทำกับแพทย์มีประสบการณ์ จึงจะได้ผลคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายและไม่เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ