Hifu
ในช่วงหลายปีหลังมานี้ เทคโนโลยีทางด้านความงามได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนวัตกรรมที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากตัวหนึ่งคือ เทคโนโลยี HIFU (ไฮฟู, ไฮฟู่) ครับ ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของการช่วยยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย เสริมสร้างคอลลาเจน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องลงเข็ม จึงมีคนที่สนใจทำ HIFU เป็นจำนวนมาก
แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำ HIFU หมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลก่อนว่า การทำ Hifu คืออะไร มีกี่แบบ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ต่างจากการทำหัตถการอื่นอย่างไร เหมาะกับใคร ทำ Hifu กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ใช้กี่ Line และข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรทราบ หมอรวบรวมให้ในบทความนี้แล้วครับ
สารบัญ HIFU
- Hifu (ไฮฟู)
- การทำ Hifu (ไฮฟู) คืออะไร ?
- ทำ Hifu ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
- ทำ Hifu ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
- Hifu ช่วยยกกระชับผิวได้อย่างไร ?
- Hifu มีกี่แบบ ?
- Hifu Ultraformer III คืออะไร ?
- ทำไฮฟู่ เหมาะกับใคร ?
- ทำ Hifu ยกกระชับกรอบหน้า และลดหน้าบวมได้อย่างไร ?
- ก่อนทำไฮฟู ควรรู้อะไรบ้าง ?
- ข้อดี – ข้อเสียของการทำ Hifu ?
- Hifu เจ็บไหม ?
- Hifu รีวิว
- ข้อควรปฏิบัติก่อนทำ Hifu
- ข้อห้ามและการดูแลตัวเองหลังทำ Hifu
- ทำ Hifu แล้วหน้าบวมกี่วัน ?
- ทำ Hifu กี่วันเห็นผล ?
- Hifu กี่ครั้งเห็นผล ?
- ไฮฟูอยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?
- ทำ Hifu มีผลข้างเคียงไหม ?
- ทำ Hifu แต่ละตำแหน่งต้องใช้กี่ Line ?
- Hifu 100 Lines เพียงพอไหม ?
- Mini Hifu คืออะไร ได้ผลจริงไหม ?
- Hifu – Filler – Ulthera – Thermage ต่างกันอย่างไร ?
- ไฮฟู – ร้อยไหม – เมโสแฟต ต่างกันอย่างไร ?
- โบท็อกกับไฮฟู
- ทำ Hifu ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ไหม ?
- ทำ Hifu ดีไหม ?
- ทำ Hifu ที่ไหนดี ต้องพิจารณาอะไรบ้าง อัปเดตปี 2024
- ทำ Hifu ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
- HIFU ราคาเท่าไหร่ ?
Hifu (ไฮฟู)
HIFU ย่อมาจาก คำว่า High-intensity Focus Ultrasound ความหมายตรงตัวคือ คลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเฉพาะเจาะจง พัฒนามาจากคลื่นอัลตราซาวด์ที่เราใช้ดูอวัยวะภายในช่องท้องหรือดูทารกในครรภ์ ไม่ใช่ laser และไม่ใช่คลื่นแสง ไม่ทำลายผิวชั้นนอก ไม่ส่งผลเสียในระยะยาว คลื่นอัลตราซาวด์นี้ได้ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยในการนำมาใช้ในมนุษย์และยังปลอดภัยต่อดวงตาด้วยครับ
High-intensity focus ultrasound หรือ HIFU เป็นการส่งคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงที่มีความเฉพาะเจาะจง ลงไปยังชั้นผิวแต่ละชั้น และเปลี่ยนพลังงานนั้นเป็นความร้อน ทำให้ผิวชั้นที่พลังงานส่งถึงถูกทำลายด้วยความร้อน ส่งผลให้เกิดการหดตัว เกิดการกระตุ้นให้ผิวสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เซลล์ผิวจัดเรียงตัวใหม่ ซึ่งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่หลังทำว่ายกกระชับขึ้นประมาณ 20% จากนั้นผิวจะค่อย ๆ สร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใหม่ได้มากที่สุดในช่วง 2-3 เดือน และสร้างคอลลาเจนต่อเนื่องจนสมบูรณ์เมื่อครบ 6 เดือนครับ
การทำ Hifu (ไฮฟู) คืออะไร ?
การทำ HIFU ในวงการเสริมความงาม คือการใช้คลื่น HIFU ยิงลงบนชั้นผิวเพื่อช่วยทำให้ผิวแน่นกระชับ ยกกระชับจุดที่หย่อนคล้อย ปรับหน้าเรียวโดยการยกกระชับแก้ม เหนียง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า รวมถึงสามารถใช้กับบริเวณลำตัว เช่น ใช้ยกกระชับต้นแขน ต้นขา หน้าท้องที่หย่อนคล้อยได้อีกด้วยครับ
เครื่อง HIFU มีมากมายหลากหลายยี่ห้อ และได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด คือ เทคโนโลยีที่ชื่อว่า Micro & Macro Focus Ultrasound (MMFU) มีความแตกต่างจาก HIFU แบบธรรมดาคือ MMFU จะส่งพลังงานเป็นจุดขนาด 1 mm ซึ่งใหญ่กว่าจุดพลังงานของ HIFU แบบธรรมดาที่มีขนาดเพียง 0.3 – 0.5 mm ส่งผลให้สามารถใช้พลังงานได้สูงขึ้นถึง 8 เท่า โดยที่คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยลง เห็นผลไวขึ้น และอยู่ได้นานขึ้นครับ
เครื่อง HIFU สามารถยิงได้ทุกบริเวณที่เราต้องการให้ผิวยกกระชับขึ้น ซึ่งเครื่อง hifu ที่ใช้ใน V Square Clinic คือเครื่องยี่ห้อ Hifu Ultraformer III เป็นยี่ห้อที่ดีที่สุดรองมาจาก Ulthera SPT โดยจะส่งพลังงานไปที่แต่ละชั้นผิวผ่านทางหัวยิง (Tip) ที่ระดับความลึกที่แตกต่างกัน ดังนี้
- หัวยิงความลึก 1.5-2.0 mm ส่งพลังงานบริเวณผิวหนังชั้นบน เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ร่องลึกในระดับที่ไม่ลึกมาก เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หว่างคิ้ว และหน้าผาก
- หัวยิงความลึก 3.0 mm ส่งพลังงานลงไปยังผิวหนังชั้นกลาง ช่วยลดไขมันและเซลลูไลท์ กระชับใบหน้า กระตุ้นคอลลาเจนบริเวณแก้ม ลดความหย่อนคล้อยของผิว
- หัวยิงความลึก 4.5 mm ส่งพลังงานได้ถึงผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นที่ใช้ผ่าตัดดึงหน้า ทำให้กระชับ ช่วยยกแก้ม เหนียง ลำคอ เก็บกรอบหน้า ช่วยปรับหน้าเรียวได้ครับ
นอกจากระดับความลึกของหัวยิงที่มีให้เลือกใช้แล้ว Ultraformer III ได้พัฒนาหัวยิงพิเศษขึ้นมา ชื่อว่า หัวยิง Cherry pink เข้าสู่ชั้นผิวได้ที่ระดับความลึก 2.0 mm ที่ปรับรูปทรงให้เรียว เล็ก บางมากยิ่งขึ้น (Narrow shape) ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดในจุดเล็ก ๆ ได้ดียิ่งขึ้น แก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้นยกคิ้ว ยกหนังตาตก แก้ปัญหาร่องแก้ม ด้วย Technology MF2 Macro Focus Ultrasound ที่ให้พลังงานสะสมได้สูงถึง 8 เท่า ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น เห็นผลเร็ว และเจ็บน้อยลงครับ
ทำ Hifu ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
- HIFU ช่วยลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า แก้ม เหนียง และลำคอ ช่วยให้ผิวเต่งตึงกระชับขึ้น แก้มเหนียงยกกระชับ หน้าเรียวขึ้น
- HIFU ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ลดริ้วรอยหน้าผาก หางตา ขมวดคิ้ว รอยย่นเล็ก ๆ ทั่วใบหน้า
- HIFU ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในรูขุมขน แก้ปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวแน่นเฟิร์มขึ้น เนียนนุ่มขึ้น
- HIFU ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ลดรอยคล้ำใต้ตา ร่องมุมปาก
การทำ HIFU บริเวณใบหน้าและลำคอ
- แก้มและเหนียง เป็นจุดที่นิยมทำเพื่อปรับหน้าเรียว เก็บกรอบหน้าให้คมชัด ลดเหนียง ลดปัญหาแก้มห้อย
- หน้าผาก หางตา ขมวดคิ้ว รอบปาก HIFU จะช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ ทำให้ผิวดูฟูขึ้น ฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้น ตึงกระชับ
- ริ้วรอยร่องลึก ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องมุมปาก HIFU จะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ร่องลึกดูตื้นขึ้น ใบหน้าไม่โทรม ดูสดใสขึ้น
- ลำคอ ช่วยลดรอยย่นของลำคอ ริ้วรอย เส้นเล็ก ๆ รอบคอ ร่องลึกดูลดลง
- รอบดวงตา ช่วยยกหางคิ้ว ยกหางตา เพิ่มคอลลาเจนใต้ตา ทำให้ตาโตขึ้นดูเด็ก ลดคล้ำลดลง ดูสดใสขึ้น
Hifu ช่วยยกกระชับผิวได้อย่างไร ?
หลักการทำงานของเครื่อง HIFU คือการส่งพลังงานเข้าไปยังชั้นผิวที่ระดับความลึกต่าง ๆ ความร้อนจะทำลายเซลล์ผิวเก่า เกิดการหดตัวของผิวและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใหม่ โดยจะเห็นว่าผิวกระชับขึ้นทันทีในระดับหนึ่ง และค่อย ๆ แน่นกระชับมากขึ้นเมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ โดยร่างกายจะสร้างคอลลาเจนได้มากที่สุดเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือน ในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เห็นผลลัพธ์หลังทำ HIFU เต็มที่ และการสร้างคอลลาเจนในผิวจะค่อย ๆ ลดลงจนหยุดสร้างเมื่อครบ 6 เดือนครับ
Hifu มีกี่แบบ ?
เครื่องยกกระชับที่ใช้เทคโนโลยี HIFU มีหลายยี่ห้อ แต่ละบริษัทจะพัฒนาเครื่องให้มีจุดเด่นตามต้นทุนที่แตกต่างกัน คุณภาพของเครื่องจึงแตกต่างกันไปด้วยครับ ก่อนทำ เราต้องศึกษาก่อนทุกครั้งว่าเป็นเครื่องยี่ห้ออะไร จากประเทศใด เทคโนโลยี HIFU เป็นแบบไหน ศึกษาวิธีตรวจสอบเครื่องแท้ เพื่อให้ผลออกมาคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายและลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ
จุดที่ทำให้เครื่อง HIFU แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกัน
- พลังงานที่ใช้ยิง เครื่อง HIFU เป็นการส่งพลังงานเข้าไปในชั้นผิวแบบจุดไข่ปลาขนาดตั้งแต่ 0.3 – 1 mm ซึ่งพลังงานนี้จะต้องมีความคงที่ เมื่อยิงลงไปจะทำให้เกิดการหดของเนื้อเยื่อตามแนวทิศทางที่หมอยิง พลังงานที่ใช้ยิงมี 2 แบบคือ
- Micro-Focused ultrasound เป็นจุดพลังงานขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.3-0.5 mm ยิงได้ที่ระดับความลึก 1.5 mm. / 3 mm. / 4.5 mm เน้นการยกกระชับผิวชั้นบนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- Macro-Focused ultrasound เป็นจุดพลังงานขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 mm ยิงได้ที่ระดับความลึก 2 mm. / 6 mm. / 9 mm. / 13 mm. ด้วยจุดพลังงานที่ใหญ่กว่า จึงให้พลังงานสูงกว่า Micro-focused ถึง 8 เท่า ช่วยในการสลายไขมัน ยกกระชับสัดส่วนตามลำตัวได้ดีครับ
เครื่อง HIFU แบบธรรมดา จะใช้พลังงานเพียงแบบเดียวคือแบบ Micro-Focused ultrasound ซึ่งเป็นจุดพลังงานขนาดเล็กเท่านั้น ประสิทธิภาพของเครื่องต่ำ เมื่อทำ focusใหญ่ การส่งค่าพลังงานจะไม่คงที่และมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผิวไหม้ได้ครับ
ส่วนเครื่อง HIFU ที่เกรดดี คุณภาพสูง เช่นเครื่อง Ultraformer III มีการใช้พลังงานทั้งแบบ Micro&Macro Focused ultrasound สามารถกระตุ้น Collagen ได้ในทุกชั้นของผิว และมีรอบพลังงานไวที่สุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ สามารถใช้พลังงานได้สูงเต็มที่ ระหว่างยิงพลังงานจะคงที่ มีความสม่ำเสมอและเสถียรครับ
- การปล่อยพลังงานในการยิงแต่ละ shot
ในการทำ HIFU หมอจะยิงพลังงานเข้าชั้นผิวโดยใช้หัวยิงแนบกับผิวบริเวณที่ทำ ในแต่ละครั้งที่กดยิงเครื่องจะเรียกว่า shot ในแต่ละ shot จะส่งพลังงานออกมาเป็นจุดพลังงาน (dot) โดยรูปแบบการส่งพลังงานมี 2 แบบคือ
- Single shot คือการกดยิงพลังงาน 1 ครั้ง ปล่อยพลังงานออกมา 1 dot
- Line shot คือการกดยิงพลังงาน 1 ครั้ง จะปล่อยพลังงานออกมาเป็นแถว แถวละ 15-25 dot คล้ายจุดไข่ปลา ประสิทธิภาพในการยิงแต่ละครั้งจึงมากกว่าแบบ Single shot
ก่อนตัดสินใจทำ HIFU หรือซื้อคอร์ส HIFU แนะนำให้ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนครับว่าเครื่องที่คลินิกนั้นใช้ปล่อยพลังงานแบบใด เพราะบางคลินิกใช้เครื่องแบบ Single shot เมื่อตั้งราคา 1,000-2,000 shot จึงมีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับเครื่องที่ใช้ Line shot อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและพบผลลัพธ์ไม่ดีตามที่คาดหวังไว้ได้ครับ
- ประเทศและยี่ห้อผู้ผลิต
เครื่อง HIFU ยี่ห้อที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือ เครื่อง Ulthera จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเครื่องที่นำเทคโนโลยี HIFU มาใช้ในการยกกระชับผิวเป็นแบรนด์แรก ถือว่าเป็นเครื่อง original ของเครื่องมือยกกระชับครับ
รองลงมาคือ Ultraformer III จากประเทศเกาหลี (Ultraformer เป็น Hifu ที่ดีที่สุดรองจาก ulthera เนื่องจากมีการใช้พลังงานแบบ Macro-Focused ultrasound และมีรอบพลังงานไวที่สุดจึงเจ็บน้อยลง ใช้พลังงานได้สูง และหัวยิงให้พลังงานคงที่), exilis, smazlift, … ไปจนถึง hifu เกรดต่ำลงไปอีกหลายยี่ห้อครับ
นอกจากนี้ สิ่งที่ควรระวังคือ เครื่องที่ผลิตจากประเทศจีน มักจะผลิตให้มีรูปแบบหน้าตาของเครื่องคล้ายกับเครื่อง Ulthera แต่มีราคาถูกมาก เทคโนโลยีการผลิตไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการรับรองจาก FDA ซึ่งหลังใช้มีโอกาสเสี่ยงหน้าเบิร์น หน้าไหม้ เป็นแผลในปากได้ เพราะพลังงานของเครื่องไม่เสถียร ไม่สม่ำเสมอครับ
วิธีสังเกตว่าคลินิกไหนใช้เครื่องจากประเทศอะไร ให้ดูว่ามีราคาที่ถูกกว่าปกติ หรือจะมีการจัดโปรโมชั่นที่ถูกมาก ๆ หรือไม่ ถ้าใช่ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยครับว่าเป็นเครื่องนำเข้าจากจีนหรือเป็นเครื่อง Hifu ปลอม
Hifu Ultraformer III คืออะไร ?
เครื่อง HIFU Ultraformer III เป็นเครื่อง HIFU จากประเทศเกาหลี ที่ใช้พลังงานแบบ Micro&Macro Focused ultrasound (MMFU) บางคลินิก เรียกว่า เครื่อง MMFU เครื่องอัลตร้าฟอร์เมอร์ เครื่อง HIFU gen3 ครับ
และด้วยพลังงานที่ใช้เป็นแบบ MMFU ทำให้เครื่อง HIFU Ultraformer III มีจุดเด่นคือ สามารถกระตุ้น Collagen ได้ในทุกชั้นของผิวและลึกลงได้ถึงชั้น SMAS การส่งพลังงานของเครื่องมีความเสถียร สามารถใช้ค่าพลังงานสูงได้ ระหว่างยิงพลังงานจะคงที่ มีความสม่ำเสมอ มีรอบพลังงานไวที่สุดจึงทำให้ระหว่างทำคนไข้จะรู้สึกเจ็บน้อยลงเมื่อเทียบกับเครื่อง HIFU แบบอื่น ๆ ครับ
Hifu Ultraformer III ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาของหลายประเทศทั่วโลก เช่น ยุโรป, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี และไทย ครับ
ทำไฮฟู่ เหมาะกับใคร ?
- เหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อย ปรับรูปหน้าเรียว ลดแก้ม ลดเหนียง
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอ ริ้วรอยรอบคอ เส้นรอบคอ
- เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยร่องลึก ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปากลึก
- เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น ริ้วรอยหน้าผาก หากตา ขมวดคิ้ว และไม่ต้องการฉีดโบท็อก
- เหมาะกับคนที่กลัวการผ่าตัด กลัวเข็ม เป็นรอยแผลเป็นง่าย แพ้ง่าย และไม่มีเวลาพักฟื้น เพราะ HIFU ไม่ใช่การผ่าตัด ไม่ลงเข็ม และไม่มีการฉีดตัวยาเข้าร่างกาย
- เหมาะกับคนที่ต้องการเก็บรายละเอียดหลังการเติมฟิลเลอร์บริเวณริ้วรอยร่องลึก
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณ หนังตาตก หางตาตก
- เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิว ลดรูขุมขน เรียบเนียน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึก
ทำ Hifu ยกกระชับกรอบหน้า และลดหน้าบวมได้อย่างไร ?
HIFU จะปล่อยพลังงานไปยังชั้นผิวแต่ละชั้น โดยเมื่อยิงเข้าชั้นผิวจะเปลี่ยนเป็นความร้อนที่สามารถทำลายเซลล์ผิวเก่า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใหม่ที่แน่นกระชับมากยิ่งขึ้น เมื่อยิงเข้าบริเวณกรอบหน้า แก้ม เหนียง จะทำให้ผิวบริเวณนั้นยกกระชับ แก้ม เหนียงดูลดลง ลดหน้าบวมได้ครับ
ข้อดี – ข้อเสียของการทำ Hifu
ข้อดีของการทำ HIFU
- เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผล เหมาะกับผู้ที่กลัวเข็มหรือผู้ที่มีประวัติเป็นคีลอยด์ง่าย
- ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย ไปทำงานได้ตามปกติ
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวบาง สามารถทำได้ เพราะ HIFU ไม่ทำลายผิวหนังชั้นนอก ไม่ทำให้ผิวบาง
- ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ปลอดภัยต่อดวงตา จึงสามารถช่วยเน้นที่บริเวณใต้ตาและรอบดวงตาได้โดยตรง
- สามารถทำควบคู่กับหัตถการอื่นได้ สามารถทำได้ทุก 3 เดือนโดยไม่เป็นอันตราย
ข้อเสียของการทำ HIFU
- หากใช้เครื่อง HIFU ที่ไม่ได้มาตรฐาน เครื่องเกรดต่ำ ที่พลังงานไม่คงที่ จะเสี่ยงต่อผิวไหม้ ผิว burn หรือถ้ายิงโดนเส้นประสาท ทำให้หน้าบวม ปากเบี้ยวได้ครับ
- จุดที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษในการยิง เช่น ร่องมุมปาก หางตา หนังตา ต้องอาศัยประสบการณ์ในการทำสูง หากใช้จำนวนไลน์ที่ไม่เหมาะสม ไม่รู้เทคนิคในการยิง อาจทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง
- กรณีที่ผิวมีความหย่อนคล้อยมาก ริ้วรอยลึกมาก HIFU จะช่วยยกกระชับได้ส่วนหนึ่ง ต้องทำหัตถการอื่น ๆ เพิ่มเติม
- ผลลัพธ์หลังทำ Hifu จะอยู่ไม่ถาวรครับ แต่สามารถกลับมาทำซ้ำ และดูแลตัวเองเพิ่มเติมเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
- มีข้อจำกัดในการทำกับคนไข้บางกลุ่มครับ เช่น ผู้ที่บาดแผลยังไม่หายดีหรือมีแผลเป็นคีลอยด์ ผู้ที่มีบาดแผลเปิด สิวซีสต์ ผู้ที่มีการฝังโลหะใต้ผิวหนังบริเวณที่ต้องการรักษา และสตรีมีครรภ์ หากต้องการทำ Hifu ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการทำ Hifu ก่อนครับ
Hifu เจ็บไหม ?
การทำ HIFU เป็นการยิงคลื่นเสียงเข้าชั้นผิวระดับต่าง ๆ จนถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) จึงทำให้รู้สึกเจ็บได้ครับ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ทนได้ ไม่ถึงขั้นปวดแสบปวดร้อน โดยจะรู้สึกปวด ๆ ตึง ๆ เท่านั้น ซึ่งการที่รู้สึกเจ็บ แสดงถึงพลังงานได้ถูกส่งไปยังชั้นผิวจริง ทำให้การทำ HIFU มีประสิทธิภาพ จึงมีคำกล่าวว่า การทำ HIFU ยิ่งเจ็บ ยิ่งสวย ครับ
บางคลินิกโฆษณาว่า HIFU ไม่เจ็บเลย ซึ่งไม่ถูกต้องครับ ถ้าทำแล้วไม่รู้สึกเจ็บ อาจเป็นเพราะเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการปรับใช้พลังงานที่ไม่สูง ผลที่ได้จะน้อยลง และระยะเวลาอยู่ได้สั้นลงได้ครับ
แต่ทั้งนี้ ความเจ็บก็เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล บางคนรู้สึกเจ็บมาก บางคนรู้สึกเจ็บน้อย หรือการทำหลายครั้งก็จะมีความชินกับความเจ็บได้ดีมากขึ้นครับ ความเจ็บไม่ได้เป็นการการันตีว่าจะได้ผลมากหรือน้อยเสมอไป หมอแนะนำให้รอดูผลการทำและเข้าพบแพทย์เพื่อเช็กผลตามนัดจะดีที่สุดครับ
ข้อห้ามและการดูแลตัวเองหลังทำ Hifu
ข้อควรปฏิบัติหลังทำ hifu หลังทำ hifu ห้ามทำอะไรบ้าง ?
- สามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ แต่แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เสริมจากเดิมเพื่อป้องกันแสงแดด
- หลีกเลี่ยงการออกแดดกลางแจ้งสัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูของคอลลาเจนใต้ผิว
- หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดตามอาการได้
- ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ
- งดการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง
ทำ Hifu มีผลข้างเคียงไหม ?
อาการบวม แดง รู้สึกระบมหลังจากทำ HIFU ถือว่าเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ครับ เนื่องจากเป็นการยิงคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงเข้าไปถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) แต่จะค่อย ๆ หายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์ ไม่ถือว่าเป็นผลข้างเคียงครับ
ส่วนผลข้างเคียงที่อันตรายคือ ผิวไหม้ ผิวเบิร์น ปากเบี้ยว ตาตก จากการใช้เครื่อง HIFU เกรดต่ำ ทำให้การยิงพลังงานไม่สม่ำเสมอ รวมถึงเทคนิคการทำที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ยิงพลังงานโดนเส้นประสาทได้ครับ
ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำ HIFU ควรเลือกใช้เครื่องที่ได้มาตรฐาน และทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายครับ
ทำ Hifu แต่ละตำแหน่งต้องใช้กี่ Line ?
เครื่อง HIFU ที่ใช้การยิงพลังงานแบบ Line shot จะส่งพลังงาน 15-25 จุดต่อการยิง 1 ครั้ง โดยทั่วไป แต่ละตำแหน่งจะใช้จำนวน line ดังนี้
- แก้ม หรือ เหนียง หรือ รอบดวงตา ประมาณ 100 line
- แก้ม และ เหนียง ประมาณ 300 line
- ใต้ตา และ ร่องแก้ม ประมาณ 300 line
- ทั่วหน้า หรือ ต้นแขน ประมาณ 600 line
- ทั่วหน้า + คอ หรือ ต้นขา ประมาณ 1,000 line
แต่ด้วยลักษณะโครงหน้า ชั้นผิว ชั้นไขมัน ความหย่อนคล้อยของแต่ละคนแตกต่างกัน การทำ HIFU ควรทำกี่ไลน์ กี่ไลน์ถึงจะได้ผลนั้น ควรจะให้แพทย์เป็นผู้ประเมินก่อนเป็นหลักครับ หากใช้จำนวนไลน์ที่เหมาะสม เทคนิคการยิงถูกต้อง และใช้เครื่อง HIFU ที่มีคุณภาพ ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีได้ครับ
Mini Hifu คืออะไร ได้ผลจริงไหม ?
มินิไฮฟู (Mini HIFU) หรือเครื่อง HIFU แบบใช้ที่บ้าน (Home use HIFU) เป็นเครื่องมือยกกระชับที่มีขนาดเล็ก พกพาได้ ผลิตเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องได้ด้วยตนเอง โดยเครื่องมินิไฮฟูเป็นการส่งคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงเข้าไปในแต่ละชั้นผิว แต่จุดพลังงานที่ใช้จะมีขนาดเล็กกว่าเครื่อง HIFU แบบที่ใช้ตามคลินิกครับ ทำให้ได้ค่าพลังงานที่อ่อนกว่าเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายหรือเจ็บเกินไป ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เท่ากับการใช้เครื่อง HIFU ที่คลินิก จะต้องทำซ้ำหลายครั้งและต่อเนื่องจึงจะเห็นผล นอกจากนี้ แนวที่ใช้ยิงพลังงานก็ส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ได้ หากไม่ทราบกายวิภาคของใบหน้า ยิงผิดแนว ก็อาจทำให้ไม่ได้ผลตามที่คาดหวังไว้ครับ
และเนื่องจากสภาพชั้นผิวและโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคนแตกต่างกัน จึงต้องมีความระมัดระวังในการใช้เครื่องมินิไฮฟูเป็นอย่างมาก หากใช้พลังงานไม่ถูกต้อง ยิงแนวผิด หรือเครื่อง Mini Hifu ไม่ได้มาตรฐานที่ยิงพลังงานได้ไม่คงที่ จะส่งผลให้ผิวไหม้ ผิวเบิร์น หรือโดนเส้นประสาทได้ครับ
Hifu – Filler – Ulthera – Thermage ต่างกันอย่างไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสาร Hyaluronic acid (HA) เพื่อช่วยเติมเต็มจุดที่ยุบ ตอบ เช่น บริเวณขมับ คาง หน้าผากเพื่อให้มีความสมบูรณ์เป็นทรงสวยตามต้องการยิ่งขึ้น หรือเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก เพื่อให้ร่องเหล่านั้นดูเต็ม ยกกระชับ ดูอ่อนวัยยิ่งขึ้นได้
โดยหลักการฉีดฟิลเลอร์จะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที อาจมีอาการบวมหลังทำประมาณ 1-2 สัปดาห์ และเข้าที่เต็มที่ใช้เวลา 1 เดือน เหมาะกับผู้ที่มีร่องลึกมาก และต้องการเห็นผลเร่งด่วนครับ
ส่วนการใช้เครื่อง HIFU, Ulthera หรือ Thermage เป็นเครื่องมือยกกระชับแบบ Non-surgical, Non-invasive treatment กล่าวคือ ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด แต่จะใช้การส่งพลังงานลงไปยังชั้นผิวเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อและซ่อมแซมชั้นผิวตามธรรมชาติ จะเห็นผลหลังทำทันทีประมาณ 20-30% และจะต้องใช้เวลาให้ผิวได้มีการซ่อมแซมและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ประมาณ 2-3 เดือนจึงจะเห็นผลเต็มที่ครับ
HIFU Ultraformer III และ Ulthera เป็นการส่งพลังงานแบบ dot ไปยังแต่ละชั้นผิวจนถึงผิวชั้น SMAS ทั้งสองเครื่องนี้แตกต่างกันที่จุดพลังงานของ Hifu UltraformerIII จะเป็นจุดขนาดเล็กกว่า Ulthera ส่งผลให้อยู่ได้นานน้อยกว่าคืออยู่ได้ 6 เดือน ส่วน Ulthera จะอยู่ได้นาน 1 ปี โดย ulthera จะเจ็บกว่าเล็กน้อยและราคาสูงกว่าครับ นอกจากนี้ Ulthera ยังมีหน้าจอแสดงระดับความลึกของผิวแต่ละชั้นได้ ทำให้หมอยิงพลังงานได้แม่นยำมากกว่าครับ โดยทั้ง 2 เครื่องนี้ จะเน้นการยกกระชับแก้ม เหนียง ลำคอ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้น ผิวแน่น ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลงได้ครับ
ส่วน Thermage เป็นการใช้คลื่นวิทยุส่งพลังงานเป็นก้อน ในการยิง 1 shot จะส่งพลังงานได้ครอบคลุมทุกชั้นผิว มีจุดเด่นเรื่องการลดไขมัน และเพิ่ม skin quality ให้ผิวดูสุขภาพดีอ่อนวัยขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีไขมันแก้ม เหนียง ต้องการปรับหน้าเรียวและยกกระชับผิวครับ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.vsquareclinic.com/blogs/ulthera-vs-hifu-vs-hifu-macrofocus-vs-thermage/
ไฮฟู – ร้อยไหม – เมโสแฟต ต่างกันอย่างไร ?
ร้อยไหมก้างปลา เป็นการใช้ไหมละลายที่มีเงี่ยง สอดเข้าไปในชั้นผิว ผิวก็จะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามเส้นไหมในทิศทางที่ร้อยไหมเข้าไป คล้ายๆ ตะขอเกี่ยว เห็นผลใกล้เคียงกับการดึงหน้า แต่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเปิดแผล มีแค่รอยรูเข็ม นิยมใช้ในการแก้ปัญหาแก้มที่หย่อนคล้อย ปรับรูปหน้าเรียว เหมาะกับคนที่มีแก้มหย่อนคล้อยมาก ดึงได้เยอะกว่า เห็นผลชัดเจนกว่าการทำ HIFU ครับ
เมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์สลายไขมันเข้าไปยังชั้นผิว ตัวยาจะไปกระตุ้นให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัว ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น และช่วยในการดึงไขมันออกจากเซลล์ ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดค่อย ๆ ยุบลง ชั้นไขมันดูลดลง สัดส่วนเล็กลงได้ครับ เหมาะกับคนที่มีแก้ม เหนียง หรือมีไขมันเยอะ เพราะมีราคาถูกกว่าการทำ HIFU เมื่อฉีดเมโสแฟตแล้วไม่กระชับ สามารถทำ HIFU เพิ่มเติมเพื่อช่วยยกกระชับได้ครับ
โบท็อกกับไฮฟู
โบท็อก คือ การฉีดสาร Botulinum toxin เพื่อยับยั้งการทำงานของระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้น้อยลงชั่วคราว โดยนิยมฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อกรามปรับหน้าเรียว และลดริ้วรอยโดยเฉพาะกล้าเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการแสดงสีหน้า เช่น หน้าผาก หางตา ขมวดคิ้ว
ส่วน HIFU เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงยิงเข้าชั้นผิว ซึ่งรวมถึงชั้นไขมันและกล้ามเนื้อ มีจุดเด่นเรื่องการยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่จะไม่สามารถลดขนาดกล้ามเนื้อได้เท่าการฉีดโบท็อกครับ ในรายที่มีกล้ามเนื้อกรามขนาดใหญ่ มีริ้วรอย มีรอยย่นจำนวนมาก แนะนำการฉีดโบท็อกจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและเห็นผลชัดเจนกว่าครับ
ส่วนผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามไม่มาก ผู้ที่ไม่ชอบความตึงจากการฉีดโบท็อก รวมถึงผู้ที่มีปัญหาดื้อโบท็อก สามารถใช้ HIFU ช่วยให้ผิวแน่นกระชับ สร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติได้ครับ
ทำ Hifu ดีไหม ?
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าสรุปแล้วทำ HIFU ดีไหม ? คำตอบของหมอคือ HIFU ดีครับ เพราะราคาไม่สูงมาก มีความปลอดภัย ทำได้ทุกช่วงอายุ เหมาะกับผู้ที่ต้องการการยกกระชับ เก็บแก้มเหนียง เก็บกรอบหน้าให้คมชัด ผู้ที่มีริ้วรอยไม่มาก จะช่วยลดริ้วรอยได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผิวแน่น เฟิร์มกระชับ ดูสุขภาพดีขึ้นได้ ให้ผลใกล้เคียงกับการผ่าตัดดึงหน้า โดยไม่ต้องพักฟื้น สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลเรื่องการรักษารอยแผลครับ
ทำ Hifu ที่ไหนดี ต้องพิจารณาอะไรบ้าง อัปเดตปี 2024
สรุปสิ่งที่ควรให้พิจารณาในการเลือกคลินิกทำ HIFU มีดังนี้
- ยี่ห้อเครื่อง HIFU ที่ใช้
ยี่ห้อเครื่อง HIFU มีผลอย่างมากต่อการคาดหวังผลลัพธ์ที่ได้ครับ จึงเป็นสิ่งที่ควรนำมาพิจารณาเป็นอันดับแรก ควรเลือกคลินิกที่ใช้เครื่องเกรดดี ยี่ห้อมาตรฐาน โดยเครื่อง HIFU ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในปัจจุบัน คือ เครื่องยี่ห้อ Ulthera จากสหรัฐอเมริกา และรองลงมาคือ Ultraformer III จากประเทศเกาหลีใต้ครับ
ข้อเสียของเครื่อง HIFU เกรดต่ำ ดังนี้
- พลังงานในการยิงแต่ละไลน์ไม่คงที่ ไม่เสถียร บางไลน์แรงมาก บางไลน์เบามาก หมอจึงไม่กล้าใช้พลังงานสูง เพราะไลน์ที่มีพลังงานมากเกินไปอาจจะทำให้ผิวไหม้หน้าบวมและอาจโดนเส้นประสาทและทำให้หน้าเบี้ยวได้ แต่การที่หมอใช้พลังงานต่ำลงทำให้ยิงแล้วไม่เจ็บ อาจเห็นผลบ้างแต่ก็จะอยู่ได้ไม่นาน
- จุดของพลังงานให้ความร้อนไม่สม่ำเสมอ ไม่ focus บางจุดร้อนตรงกลาง บางจุดไม่ร้อน ทำให้เห็นผลน้อยลง
- รอบประมวลผลในการปล่อยพลังงานต่ำใช้เวลาในการยิงนานขึ้น จะเจ็บมากขึ้นโดยที่ได้ผลเท่าเดิม
- ใน 1 หัวยิง สมมุติว่ามี 20,000 line ไลน์ที่ยิงออกมาแรก ๆ จะพลังงานสูง ส่วนไลน์ท้าย ๆ พลังงานจะต่ำลงทำให้ได้ผลน้อยลง
- hifu ราคาในการทำ จำนวนไลน์ที่ได้
ราคาโปรโมชั่น HIFU ของคลินิกต่าง ๆ ที่เราสามารถเสิร์ชตามอินเทอร์เน็ตหรือตามสื่อโฆษณาช่องทางต่าง ๆ จะพบว่ามีราคาหลากหลาย สิ่งที่ต้องระวังคือ คลินิกที่ตั้งราคาแบบไม่จำกัดไลน์ คนไข้ควรสอบถามเงื่อนไขอย่างละเอียดครับ เพราะคลินิกที่ตั้งราคาการทำแบบ hifu บุฟเฟต์ อาจโดนจำกัดด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้
- เมื่อเข้าพบแพทย์ หมอจะเป็นผู้พิจารณาเท่านั้นว่าควรใช้กี่ line คนไข้ไม่มีสิทธิ์เลือก อาจจะเกี่ยงว่าถ้ายิงเยอะกว่านี้หน้าจะบวม ผิวจะไหม้ แก้มจะตอบ หรืออาจจะบอกว่ายิงให้แค่เห็นการเปลี่ยนแปลง
- การนับ line โดยปกติแล้ว hifu จะยิงออกมา line ละประมาณ 15-25 จุด ซึ่งบางคลินิก บางเครื่อง จะนับ 1 จุด = 1 line อันนี้ก็ควรระวังครับ
- แพทย์ผู้ทำ
ข้อนี้มีผลอยู่บ้างครับ การทำ HIFU จะมีรูปแบบการยิงที่ชัดเจน ถึงแม้จะมีเทคนิคพิเศษบ้างในบางจุด เช่น ถุงใต้ตา แก้หนังตาตก ยกมุมปาก แต่ก็เป็นเทคนิคที่ไม่ซับซ้อนเท่าหัตถการที่ฉีดเข้าผิวหนัง ส่วนที่อาจเกิดข้อผิดพลาดคือการที่หมอเลือกใช้พลังงานไม่เหมาะสม ใช้เครื่องที่ไม่มีความเสถียร ยิงผิดแนว อาจทำให้โดนเส้นประสาท ปากเบี้ยว ปากตกได้ครับ
- การดูแลหลังการรักษา
เคสส่วนมากที่ผิดหวังกับการทำ HIFU เกิดจากการคาดหวังผลที่เกินจริง อาจจะเป็นเพราะคำโฆษณาจากเซลล์ หรือรูปภาพที่ผ่านการตัดต่อ
การปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อนทำจึงมีความสำคัญครับ ควรจะถามให้ชัดเจนว่าทำแล้วจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน อาการหลังทำ hifu มีอะไรบ้างและแนะนำข้อควรปฏิบัติหลังทำ hifu อย่างละเอียด
แต่บางคลินิกให้เซลส์เป็นผู้นำเสนอ ไม่มีการเปิดโอกาสให้คนไข้ปรึกษาหมอ หมอก็ไม่มีโอกาสอธิบายคนไข้ จึงเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และเกิดความผิดหวังในผลการรักษาตามมา
ซึ่งในกรณีนี้ หากเป็นคลินิกที่มีความรับผิดชอบ ย่อมสามารถแก้ไขให้คนไข้พึงพอใจได้ โดยสามารถดูได้จากรีวิวตามสื่อต่าง ๆ ที่เป็นกลางครับ
ทำ Hifu ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
ทำไมต้องเลือกทำ HIFU ที่ V Square Clinic ?
เพราะที่ V Square Clinic เป็นคลินิกด้านความงามที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือของแท้ที่ได้มาตรฐาน รวมถึงราคาที่สมเหตุสมผล มั่นใจได้ว่าทุกท่านที่เข้ามาทำ HIFU และบริการอื่น ๆ ของทางคลินิก จะได้รับความพึงพอใจที่สุดครับ
- ใช้เครื่อง HIFU ยี่ห้อ Ulthera และ Ultraformer III ที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล ใช้เครื่องของแท้ สามารถตรวจสอบได้
- แพทย์มีประสบการณ์ในการดูแลเรื่องการปรับรูปหน้ามาอย่างยาวนาน
- มีการตรวจติดตามผลหลังทำ สามารถปรึกษาแพทย์ทางช่องทางออนไลน์ได้ทั้งก่อนและหลังทำ เพื่อตอบข้อกังวลใจได้อย่างทันท่วงที
- ราคาสมเหตุสมผล
HIFU ราคาเท่าไหร่ ?
จากที่ได้อธิบายไว้ว่าเครื่อง HIFU มีหลายเกรดหลายยี่ห้อ ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามต้นทุนครับ และ Hifu ราคาถูกหรือราคาแพง ไม่ได้การันตีคุณภาพ ต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน ควรระวัง HIFU บุฟเฟต์ที่ราคาถูกมาก ๆ เพราะอาจจะเป็นเครื่องปลอม เครื่องเกรดต่ำ ทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่หวังไว้ หรือ เกิดผลข้างเคียงผิวไหม้ หรือโดนเส้นประสาทได้ครับ
ที่ V Square Clinic ใช้เครื่อง HIFU ยี่ห้อ Ultraformer III เป็นเทคโนโลยี MMFU ใหม่จากประเทศเกาหลี ได้รับรองคุณภาพจากองค์การอาหารและยาทั่วโลก ได้แก่ ยุโรป, เกาหลี, ญี่ปุ่น, อเมริกา รวมถึงประเทศไทย
Promotion Hifu Ultraformer III ที่ V Square Clinic
- Hifu 100 line ราคา 3,999.-
- Hifu 300 line ราคา 8,999.-
- Hifu 600 line ราคา 15,900.-
- Hifu 1000 line ราคา 25,000.-
Promotion Ulthera ที่ V Square Clinic
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า Line@ ID : @VsquareClinic
และดาวน์โหลดสติกเกอร์ไลน์ น้องดั๊กกี้วีสแควร์ https://line.me/S/sticker/21354861
- Ulthera 300 line ราคา 29,999.- แถมฟรี Ultraformer III 90 Line
- Ulthera 400 line ราคา 39,999.- แถมฟรี Ultraformer III 120 Line
- Ulthera 500 line ราคา 49,999.- แถมฟรี Ultraformer III 150 Line
- Ulthera 700 line ราคา 69,999.- แถมฟรี Ultraformer III 210 Line
- Ulthera 1,000 line ราคา 99,999.- แถมฟรี Ultraformer III 300 Line
(แถมฟรี โปรแกรม Hifu Ultraformer lll หัวกระตุ้นคอลลาเจน)
สรุป Hifu
HIFU เป็นนวัตกรรมการยกกระชับที่ได้รับการยอมรับถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ทำได้ทุกส่วนของร่างกายที่ต้องการยกกระชับ รวมถึงปลอดภัยต่อดวงตา ช่วยในเรื่องของการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ผิวเฟิร์มกระชับ ปรับรูปหน้าเรียว ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ แต่สิ่งที่ควรระมัดระวังคือการใช้เครื่อง HIFU ปลอม เครื่อง HIFU ไม่ได้มาตรฐาน เพราะนอกจากจะไม่เห็นผลลัพธ์ ยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ครับ การทำ HIFU ที่จะให้ผลดีและอยู่ได้นาน ควรใช้เครื่องของแท้เท่านั้น และต้องเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ทำกับแพทย์มีประสบการณ์ จึงจะได้ผลคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ