Filorga ใต้ตา
ใต้ตาดำคล้ำไม่สดใส แก้ไขได้ไหม ? ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?
จริง ๆ แล้ววิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ มีหลากหลายครับ การฉีด Filorga ใต้ตา คือหนึ่งในนั้น และค่อนข้างเป็นที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายไม่แพ้การฉีดฟิลเลอร์ แต่จริง ๆ แล้ว Filorga แตกต่างจากฟิลเลอร์ใต้ตา หรือ cytocare ใต้ตา อย่างไร ? มีข้อดี – ข้อเสียอย่างไร ? ควรใช้กี่ CC ? หลังฉีดกี่วันเห็นผล กี่ครั้งเห็นผล อยู่ได้นานไหม ราคาเท่าไร ?
ในบทความนี้มีข้อมูลฟิลอก้ามาแนะนำ พร้อมรีวิวการแก้ปัญหาใต้ตาแบบต่าง ๆ และวิธีเลือกคลินิกว่าที่ไหนดี ต้องพิจารณาอะไรบ้าง ?
สารบัญ Filorga ใต้ตา
ทำความรู้จัก Filorga ใต้ตา คืออะไร ?
Filorga ใต้ตา จริง ๆ เป็นหัตถการที่อยู่ในกลุ่มเมโส (Mesotherapy) เมื่อฉีดเข้าไปบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา จะทำให้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำดูดีขึ้น และยังช่วยเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มฟู แต่ก็จะช่วยบรรเทาได้เฉพาะปัญหาที่ไม่ได้ลึกมากครับ เพราะเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในผิวชั้นกลางเท่านั้น สำหรับรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับ Filorga ใต้ตา หมอจะอธิบายในข้อต่อ ๆ ไปครับ
Filorga ใต้ตา คือ การฉีดตัวยาที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid (HA) และวิตามินต่าง ๆ เช่น แร่ธาตุ โคเอมไซม์ และสารต้านอนุมูนอิสระ เข้าสู่ผิวชั้นกลางโดยตรง ถือเป็นการฉีดเมโสอย่างหนึ่งครับ เนื่องจากเมโสหน้าใสจริง ๆ แล้วมีหลายยี่ห้อและฟิลอก้าก็คือหนึ่งในนั้น
Filorga สามารถฉีดได้หลายจุดครับ เช่น ใบหน้า ใต้ตา ลำคอ หลังมือ แขน ขา แต่ที่ได้รับความนิยมคือบนใบหน้าและบริเวณใต้ตา เน้นฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว เนื่องจาก Filorga มีจุดเด่นหลัก ๆ คือ เป็นตัวยาเมโสหน้าใสที่ช่วยบำรุงผิว เสริมสร้างคอลลาเจน และช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระ
ฉีด Filorga เพื่อประโยชน์ในการรักษาใต้ตา เรื่องอะไรบ้าง ?
Filorga ได้รับการพิสูจน์โดยศูนย์การวิจัยของประเทศฝรั่งเศส (French Research Center) ว่ามีความปลอดภัย และมีประโยชน์ในการรักษาปัญหาใต้ตา ดังนี้
- ช่วยลดปัญหาใต้ตาดำ ขอบตาคล้ำ
- ทำให้ผิวอิ่มฟูและช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวใต้ตา แก้ปัญหาผิวแห้ง
- ช่วยบำรุงผิวใต้ตาให้แข็งแรงขึ้น
แล้ว Filorga ใต้ตา แตกต่างจากฟิลเลอร์ใต้ตา – Cytocare ฉีดใต้ตา อย่างไร ?
ก่อนอื่นหมอจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มครับ คือกลุ่มเมโสหน้าใส (Filorga, Cytocare) และ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และจะอธิบายความแตกต่างของแต่ละกลุ่มให้ครับ
กลุ่มแรกคือเมโสหน้าใส (Filorga, Cytocare) มีสารสำคัญก็คือ Hyaluronic Acid เหมือนกับฟิลเลอร์ แต่ใน filorga และ cytocare จะเป็น Hyaluronic Acid แบบโมเลกุลเดี่ยว (Non Cross-Linked) ที่ไม่เชื่อมหรือเกาะกัน เมื่อฉีดแล้วจะกระจายตัวใต้ผิวได้ง่าย เรียบเนียน เบลนไปกับผิว
Filorga กับ Cytocare จะเน้นไปที่การฉีดเพื่อการฟื้นฟูผิวโดยเฉพาะ ความแตกต่างของทั้งสองหัตถการนี้เป็นเรื่องของส่วนประกอบตัวยา พวกวิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ออกฤทธิ์ในผิว แต่ก็จะเห็นผลลัพธ์คล้าย ๆ กัน ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคนครับ
Filorga กับ ฟิลเลอร์ใต้ตา สองหัตถการนี้จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน ฟิลเลอร์ใต้ตาคือการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ซึ่งจะต่างตรงที่เป็น Cross-Linked ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความคงตัว ฉีดแล้วอยู่ทรง ใช้ทดแทนเนื้อเยื่อ ชั้นไขมัน หรือกระดูกที่มีการทรุดตัวลงเมื่ออายุมากขึ้นได้
ในขณะที่ฟิลอก้าจะช่วยแก้ปัญหาในผิวชั้นตื้น ๆ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้จากโครงสร้างผิวชั้นลึก ไม่ว่าจะเป็นร่องใต้ตา ริ้วรอย ร่องน้ำตา ถุงใต้ตาหย่อน ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ซึ่งถือว่าตรงจุดและครอบคลุมมากกว่า แต่ก็มีราคาสูงกว่าเช่นกันครับ
ทั้งนี้ปัญหาใต้ตาของคนไข้แต่ละคนแตกต่างกัน ควรมาให้หมอประเมินดูก่อนว่าเหมาะกับการทำหัตถการไหน รวมถึงงบประมาณเท่าไหร่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดครับ
จุดเด่น – จุดด้อยของ Filorga ใต้ตา กับหัตถการใต้ตาอื่น ๆ เหมาะสำหรับใคร
ปัญหาใต้ตามีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับผิวชั้นตื้นไปจนถึงผิวชั้นลึก Filorga ใต้ตา ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาใต้ตาดำ หรือริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ แต่ก็เป็นบริเวณผิวชั้นตื้นเท่านั้น ผลลัพธ์อยู่ได้ 3-4 สัปดาห์ (หากฉีดต่อเนื่อง) ส่วนในเคสที่มีปัญหาใต้ตาจากกระดูกชั้นลึก หรือการทรุดตัวของผิว ก็จะเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามากกว่าครับ
จุดเด่น – จุดด้อยของ Filorga ใต้ตา
จุดเด่น Filorga ใต้ตา
- ช่วยฟื้นฟูผิว แก้ปัญหาใต้ตาดำ ทำให้ผิวสดใสขึ้น
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว แก้ปัญหาผิวแห้ง ให้ดูอิ่มฟู
- ใช้เวลาทำหัตถการไม่นาน
- ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก สามารถปรึกษาหมอและทำได้เลย
- เห็นผลการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ฉีดครั้งแรก
- หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ราคาประหยัด
จุดด้อย Filorga ใต้ตา
- แก้ปัญหาในผิวชั้นตื้น แต่ไม่สามารถแก้ในผิวชั้นลึกได้
- ไม่สามารถรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้ถาวร
- หากฉีดครั้งเดียว ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน ควรฉีดต่อเนื่อง (คอร์ส 5 ครั้ง) จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นานขึ้น
ใครควรเลือกรักษาปัญหาใต้ตา ด้วยการฉีด Filorga
การฉีดฟิลอก้าใต้ตา เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ จากปัจจัยด้านพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การนอนดึก นอนน้อย หรือผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ต้องการบำรุงและฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก
เลือกรักษาปัญหาใต้ตา ด้วยยาเมโสยี่ห้ออื่น ๆ แทน Filorga ได้ไหม ?
อย่างที่หมอกล่าวไปในตอนต้นว่าการฉีดเมโสหน้าใส ตัวยามีหลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นในการแก้ปัญหาที่ต่างกัน จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาครับ
- Made Collagen จะเหมาะกับคนที่ต้องการลดสิว ลดผื่น เพราะมาเด้คอลลาเจนมีจุดเด่นเรื่องช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิว จึงช่วยลดผิวอักเสบ ผื่นแพ้ ลดสิว และช่วยให้หน้าขาวใสขึ้น เป็นอีกยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ได้รับความนิยมครับ
- Tensonez เหมาะกับคนที่ต้องการมีผิวขาว ใส และช่วยลดฝ้าได้ดี
- Rev NCFS เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวล้ำลึก ให้ผิวขาวใส ชุ่มชื้น
- Neo Glutanex glow เหมาะกับคนที่ต้องการลดความหมองคล้ำ ลดฝ้า จุดด่างดำ
- Alpha arbutin เหมาะกับคนที่ต้องการลดฝ้าโดยตรง เป็นสูตรที่เน้นลดฝ้าโดยเฉพาะ
Filorga ใต้ตา อันตรายไหม ?
Filorga ได้รับการพิสูจน์โดยศูนย์การวิจัยของประเทศฝรั่งเศส (French Research Center) มีความปลอดภัย หากฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ
อันตรายจากการฉีดเมโสหรือฟิลอก้า ส่วนใหญ่เคสที่พบจะเกิดจากการฉีดกับหมอกระเป๋า ใช้ยาที่ซื้อจากอินเทอเน็ต และทำหัตถการในห้องที่ไม่สะอาด เครื่องมีอุปกรณ์ไม่สะอาด เช่น รับฉีดตามบ้าน / คอนโด ทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ จากที่ควรจะหน้าใส แก้ปัญหาใต้ตา กลายเป็นหน้าพังกว่าเดิม ต้องเสียทั้งเงินทั้งเวลามาแก้ไขอีก ไม่คุ้มกันครับ
Filorga ใต้ตา ใช้กี่ CC ? กี่วันเห็นผล ? กี่ครั้งเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ?
Q : Filorga ใต้ตา ใช้กี่ CC ?
A : Filorga ใต้ตา จะใช้ 1-3 CC ครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของคนไข้
Q : Filorga ใต้ตา กี่วันเห็นผล ?
A : หลังฉีดฟิลอก้า 1 ครั้ง เห็นผลว่าดีขึ้นใน 3 วัน แต่ควรฉีดต่อเนื่องอาทิตย์ละครั้ง จึงจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ครับ
Q : Filorga ใต้ตา กี่ครั้งเห็นผล ?
A : หลังฉีดครั้งแรก ควรฉีดต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน (4 ครั้ง) จะช่วยให้เห็นผลชัดเจนขึ้น อยู่ได้นานขึ้นครับ
Q : Filorga ใต้ตา อยู่ได้นานไหม ?
A : หากฉีดตามที่หมอแนะนำ จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 สัปดาห์ ซึ่งถ้าผิวเริ่มดีคงที่แล้วไม่ได้ฉีดต่อเนื่องอีก จะอยู่ได้ 2-3 เดือน ขึ้นกับการดูแลผิวส่วนบุคคลด้วยครับ
ข้อควรรู้ และการปฏิบัติตัว ก่อน – หลังการรักษาใต้ตาด้วย Filorga
ก่อนฉีด Filorga ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษครับ เหมือนการทำทรีสเมนท์ทั่วไป แต่คนไข้ควรแจ้งประวัติการใช้ยา การแพ้ยา หรือโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนฉีด ส่วนการดูแลตัวเองหลังฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี หมอแนะนำให้ปฏิบัติ ดังนี้
- รอยเข็มจากการฉีด รอยแดง หรืออาการบวมจากตัวยา จะค่อย ๆ หายไปเองใน 3-4 ชั่วโมง ไม่ควรกด แกะ เกา หรือบีบ
- งดแต่งหน้าและทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
- ใน 48 ชั่วโมงแรก ควรอยู่ในที่อากาศเย็น และงดออกกำลังกายหนัก ๆ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
- ทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ต้องออกไปโดนแสงแดด
Filorga (ฟิลอก้า) ใต้ตา ราคาเท่าไร ?
Filorga (ฟิลอก้า) ใต้ตา ราคาจะขึ้นอยู่กับปริมาณและจำนวนครั้งที่ฉีด ที่ V Square Clinic Filorga ราคาครั้งละ 9,000.- และแบบคอร์ส 6 ครั้ง (5 แถม 1) ราคา 39,000.-
Filorga ใต้ตา ที่ไหนดี ?
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ติดอยู่ในที่มองเห็นได้ชัดเจน คลินิกสะอาด กว้างขวาง มีแสงสว่างเพียงพอ
- ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีเลขว. ตรวจสอบได้ว่าเป็นแพทย์จริง มีใบรับรองจากแพทยสภา
- ใช้ฟิลอก้าของแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ คลินิกยินดีให้กล่อง/ขวดกลับบ้าน
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบและแก้ไขได้
- มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก เช่น เบอร์โทร, Line@, Facebook หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถติดต่อแพทย์ได้
การฉีดฟิลอก้าหรือเมโสหน้าใสยี่ห้ออื่น ๆ ห้ามซื้อตัวยาจากอินเทอเน็ต แล้วฉีดโดยหมอกระเป๋า ในห้องหรือคอนโดที่ไม่สะอาด นอกจากตรวจสอบที่มาของตัวยาไม่ได้ ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ ซึ่งอันตรายมากครับ
สรุป
การฉีด Filorga ใต้ตา หลัก ๆ ก็จะช่วยเรื่องฟื้นบำรุงผิว ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาดำ หมองคล้ำ และริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการเห็นผลเร็ว และไม่ได้มีปัญหาใต้ตาลึก หรือหากยังไม่มั่นใจว่าปัญหาที่ตัวเองมี จะเหมาะกับการฉีดฟิลอก้าหรือฟิลเลอร์ใต้ตา แนะนำให้ปรึกษาหมอก่อนครับ สามารถส่งรูปมาให้หมอช่วยประเมินก่อนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย