ขอบตาดำ ขอบตาคล้ำ ใต้ตาลึก ตาโหล เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ ทุกช่วงวัย โดยเฉพาะช่วงวัยเรียน วัยทำงาน เนื่องมาจากการนอนดึก พักผ่อนน้อย การจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ และหลาย ๆ คนอาจมีปัญหาใต้ตาดำจากกรรมพันธุ์ ภูมิแพ้ และอายุที่เพิ่มมากขึ้นครับ
ในบทความนี้ จะอธิบายถึงสาเหตุการเกิดขอบตาดำ วิธีการป้องกัน รวมถึงแนะนำวิธีที่จะแก้ไขปัญหาขอบตาดำครับ
ขอบตาดำ ใต้ตาดำ
ตำแหน่งขอบตา (Lower eyelid) จนไปถึงร่องน้ำตา (Tear trough) เป็นบริเวณที่มีผิวบางกว่าผิวบริเวณอื่นบนใบหน้าถึงสี่เท่า เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเม็ดสีเมลานิน หลอดเลือดขยายตัว หรือกระดูกใต้ตายุบตัวจนเกิดเบ้าลึก ทำให้เห็นเป็นรอยคล้ำที่เด่นชัด ใต้ตาคล้ำ ทำให้ดูโทรม ไม่สดใส ซึ่ง เกิดได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย
หลายคนมักจะถามเข้ามาว่าวิธีแก้ขอบตาดำแบบเร่งด่วนมีวิธีใดบ้าง ซึ่งหมอต้องประเมินจากสาเหตุที่เกิดขอบตาดำ ใต้ตาดำก่อน เพื่อที่จะแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดครับ
ใต้ตา หมายถึงบริเวณตั้งแต่ขอบตาล่างจนถึงร่องใต้ตา ชั้นผิวบางกว่าผิวในจุดอื่น ๆ จึงสังเกตเห็นเป็นรอยคล้ำได้ง่าย
ขอบตาดำเกิดจากอะไร ?
- อายุ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้ลดลง ผิวจึงบางลงและขาดความยืดหยุ่น ทำให้เส้นเลือดที่อยู่บริเวณใต้ตาเด่นชัดขึ้น รวมถึงผิวหย่อนลง เกิดเป็นรอยคล้ำตามขอบตา ใต้ตาและถุงใต้ตาได้
- อีกกรณีหนึ่งคือเมื่ออายุมากขึ้น การยุบตัวของกระดูกโหนกแก้มส่วนบน ทำให้เห็นเป็นร่องใต้ตา ร่องน้ำตา ดูโทรม ไม่สดใสได้ครับ
- การนอน การพักผ่อน ในผู้ที่นอนดึกหรือนอนน้อย เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงาน การอดนอนเป็นเวลานาน ๆ หรือขอบตาดำจากการนอนดึก ทำให้ผิวใต้ตาซีดลงและมีสารน้ำคั่งบริเวณใต้ตาได้ จึงเห็นเส้นเลือดใต้ตาเป็นรอยคล้ำได้ชัดเจน และตาบวมสะสมเป็นถุงใต้ตา เกิดถุงใต้ตาดำได้ครับ
- ภูมิแพ้ ผู้ที่มีอาการของภูมิแพ้ ร่างกายจะสร้างสาร histamine ขึ้นมาจำนวนมากเพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดการระคายเคือง เส้นเลือดใต้ตาเกิดการขยายตัว จนเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ขอบตา นอกจากนี้การขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้เกิดการอักเสบ เส้นเลือดแตก ยิ่งเกิดเป็นรอยคล้ำใต้ตาที่ชัดเจนขึ้นได้ครับ
- การใช้มือถือเป็นเวลานาน ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่ทำให้เราจ้องมือถือหรือใช้คอมพิวเตอร์ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดตาล้า เส้นเลือดใต้ตาจึงขยายตัวจนสังเกตได้เป็นรอยคล้ำใต้ตา ขอบตาดำได้
- การดื่มน้ำ หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ผิวบริเวณใต้ตาจะเหี่ยว ขาดความชุ่มชื้นและตอบลง เกิดเป็นเงาใต้ตา จนดูเหมือนขอบตาดำคล้ำ
- การโดนแดดบ่อย ๆ ถ้าต้องอยู่กลางแจ้งหรือโดนแดดเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ผิวหนังเกิดการผลิตเม็ดสีผิว (Melanin) มาจำนวนมาก ผิวใต้ตาจึงมีสีคล้ำขึ้นได้
- พันธุกรรม ในบางกรณีพบว่าคนไข้มีใต้ตาคล้ำจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น เม็ดสีบริเวณใต้ตาผลิตออกมามากเกิน โครงสร้างกระดูกใต้ตายุบตัว รวมถึงโรคทางพันธุกรรม เช่น ไทรอยด์
วิธีแก้ขอบตาดํา
- วิธีแก้ขอบตาดําจากการนอนดึก
หมอเข้าใจว่าบางท่านไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนให้เร็วขึ้นหรือพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ในทุก ๆ วันได้ครับ หมอจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท เช่น เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ชา กาแฟ น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ โดยงดก่อนเข้านอน 4-6 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ควรหาวิธีผ่อนคลายที่ช่วยให้นอนหลับสบายและพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ เช่น การนั่งสมาธิ การไม่ดูมือถือก่อนเข้านอน ปรับห้องนอนให้เหมาะสม เมื่อเรานอนได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น จะช่วยลดภาวะขอบตาดำ คล้ำลงได้ครับ
- วิธีแก้ขอบตาดําจากกรรมพันธุ์
ขอบตาดำโดยกรรมพันธุ์เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ เพราะเป็นผลมาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อ แม่ แต่ปัจจุบันก็มีวิธีที่จะลดรอยคล้ำเหล่านี้ให้เสมอกับสีผิวจุดอื่น ๆ ได้ เช่น การใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา การใช้มาสก์จากธรรมชาติ เช่น การนำแตงกวา มะเขือเทศ หรือ ว่านหางจระเข้ ไปแช่เย็น แล้วนำมาหั่นบาง ๆ ประคบบริเวณรอบดวงตา หรือแต่งหน้าปกปิดรอยคล้ำนั้นครับ
และอีกวิธีหนึ่งที่เห็นผลเร็วและมีความปลอดภัยสูง วิธีแก้ขอบตาดำแบบเร่งด่วน คือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครับ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที รอยคล้ำดูจางลง และยังช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วยครับ
วิธีทําให้ขอบตาหายดําแบบทั่วไป
-
การนอนพักผ่อน ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การนอนให้เร็วขึ้น และพักผ่อนอย่างเพียงพอ การไม่จ้องจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ก็สามารถลดปัญหาขอบตาดำได้ครับ แต่ถ้ามีความจำเป็น แนะนำให้หาช่วงเวลาพักสายตา เช่น การหลับตานิ่ง ๆ เป็นเวลา 5 นาที หรือการใช้แว่นกรองแสงระหว่างการทำงาน จะช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาได้ครับ
- บํารุงขอบตาดําด้วยครีมบำรุง
การลดรอยคล้ำใต้ตาด้วยการทาอายครีม เป็นวิธีที่ง่ายและนิยมมากที่สุด ในปัจจุบันมีครีมบำรุงใต้ตาอยู่หลายยี่ห้อ หมอแนะนำให้เลือกครีมบำรุงที่มีส่วนผสมที่ปลอดภัย เช่น Vitamin C, Hyaluronic acid, Neuropeptides และ Retinol วิธีนี้เป็นวิธีที่มีปลอดภัย แต่จะต้องทำการบำรุงอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลาหลายเดือนครับ
- วิธีแก้ขอบตาดําด้วยแตงกวา มะเขือเทศ ว่านหางจระเข้
วิธีแก้ขอบตาดำโดยใช้ผัก ผลไม้ต่าง ๆ เป็นวิธีที่ใช้กันมาแต่โบราณ มีสูตรมาสก์รอบดวงตาหลายสูตร โดยผลิตผลจำพวกแตงกวา มะเขือเทศ และว่านหางจระเข้ จะมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว จะรู้สึกเย็นสดชื่น และช่วยลดความบวมของผิว ทำให้เพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณดวงตา ขอบตาดำน้อยลง ลดใต้ตาบวมได้ครับ
- ทรีตเมนต์หน้า
การทำทรีตเมนต์หน้า ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดขอบตาดำได้ครับ ซึ่งสามารถทำได้เองที่บ้านหรือเข้าร้านทรีตเมนต์นวดหน้าเลยก็ได้ครับ การทำทรีตเมนต์จะใช้ครีมบำรุงหลายตัวเพื่อให้สารสกัดที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ ซึมเข้าผิว และบำรุงให้ผิวบริเวณนั้นดีขึ้น รอยคล้ำใต้ตาก็จะลดลงได้ครับ
การทำทรีตเมนต์หน้าและมาสก์ใต้ตาด้วยแตงกวา เป็นวิธีลดใต้ตาดำที่ปลอดภัย แต่ต้องทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จึงจะเห็นผล
วิธีทําให้ขอบตาหายดําแบบเห็นผลทันที
สำหรับคนที่มีเวลาไม่มาก แต่ต้องการใช้หน้าสำหรับออกงานสำคัญแบบเร่งด่วน หรือแก้ไขขอบตาดำมาหลายวิธีแล้วก็ยังไม่หาย หมอจะแนะนำวิธีทำให้ขอบตาหายดำแบบเห็นผลทันที นั่นก็คือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครับ
- ฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสารประเภท Hyaluronic acid เข้าไปในบริเวณใต้ตา เพื่อช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำ ถุงใต้ตา เติมเต็มร่องใต้ตา และยังช่วยให้ใบหน้าดูยกกระชับ ไม่โทรมได้ครับ
ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำและขอบตาดำมากที่ตรงจุดและเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนหลังทำ โดยฟิลเลอร์จะช่วยปกปิดความคล้ำของเม็ดสีและเส้นเลือดบริเวณใต้ผิวหน้า ทำให้รอยคล้ำดูจางลง เหมาะกับผู้ที่อยากแก้ไขปัญหาขอบตาคล้ำแบบเร่งด่วน และมีความปลอดภัยสูงครับ
สรุป ขอบตาดำ
วิธีการแก้ไขปัญหาขอบตาดำคล้ำ ใต้ตาดำ มีหลายวิธี แต่วิธีที่เห็นผลเร็วและเป็นการแก้ไขที่ตรงจุด คือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะทำให้รอยคล้ำดูจางลง ดูสดใสขึ้น เห็นการเปลี่ยนหลังทำทันที และเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยครับ แต่สิ่งสำคัญคือควรตรวจสอบทุกครั้งว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้นครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ