ตาไม่เท่ากัน
ปัญหา ตาไม่เท่ากัน นอกจากจะทำให้ใบหน้าโดยรวมดูไม่สมดุลแล้ว อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น แต่งหน้ายากและใช้เวลานาน หรือส่งผลต่อการมองเห็นได้ครับ ถ้าตาไม่เท่ากันเกิดจากปัญหาผิวหย่อนคล้อยทำให้เปลือกตาหย่อนลงมามากกว่าปกติ
ใครที่กังวลกับปัญหาเหล่านี้ ในบทความนี้หมอจะมาบอกเล่าถึงสาเหตุของตาไม่เท่ากันว่าเกิดจากอะไรบ้าง ? มีลักษณะอย่างไร ? ตาไม่เท่ากัน ตาเอก ตาเข เหมือนกันไหม ? มีผลกับโหงวเฮ้งวาสนาไหม ? แก้ไขอย่างไรให้ตรงจุด ? และควรเลือกรักษาที่ไหนดี ถึงจะปลอดภัยและเห็นผล ?
สารบัญ ตาไม่เท่ากัน
- ตาไม่เท่ากัน ตาเข ตาเอก เหมือนกันไหม ?
- ลักษณะเด่นชัดที่สังเกตได้ของการมีตาที่ไม่เท่ากัน คืออะไรบ้าง ?
- รู้สาเหตุของตาไม่เท่ากัน เพื่อวิธีแก้ไขที่ตรงจุด
- ตาไม่เท่ากัน มีผลกับโหงวเฮ้งวาสนาไหม ?
- แล้วผลดีของการมีตาที่เท่ากัน มีอะไรบ้าง ? ช่วยเสริมโหงวเฮ้งด้วยไหม ?
- ทำตาที่ไม่เท่ากัน ให้เท่ากัน ได้จริงหรือ ?!
- ปัญหาตาไม่เท่ากัน ปรับโหงวเฮ้งรอบดวงตา แก้ไขได้อย่างไรบ้าง ?
- เมื่อรักษาแล้วจะกลับมาตาไม่เท่ากันได้อีกไหม ? แล้วควรทำอย่างไร ?
- เลือกแก้ปัญหาตาไม่เท่ากัน ที่ไหนดี ? พิจารณาอะไรบ้าง ?
ตาไม่เท่ากัน ตาเข ตาเอก เหมือนกันไหม ?
ตาไม่เท่ากัน (Asymmetrical eyes) คือ ดวงตาสองข้างที่มีลักษณะแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นขนาด รูปร่าง ระดับของชั้นตา หรือตำแหน่งที่อยู่บนใบหน้า ซึ่งไม่ได้ชี้ไปที่ความผิดปกติใด ๆ แต่แสดงถึงความไม่เท่ากันระหว่างดวงตาสองข้าง ซึ่งอาจจะส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูไม่สมมาตรกันครับ
ส่วนตาเข ตาเอก หรือตาเหล่ (Strabismus) คือ การที่ตาทั้งสองข้างไม่ได้มองแนวตรงตามที่ควรจะเป็น เช่น ตาข้างใดข้างหนึ่งอาจจะเขเข้าด้านในหัวตา เขออกด้านนอกหางตา เขขึ้นด้านบน หรือเขลงด้านล่าง ไม่ได้มองไปในทิศทางเดียวกัน อาจเกิดแค่ชั่วคราวหรือตลอดเวลา โดยอาการตาเข ตาเอกจะนับเป็นโรคอย่างหนึ่ง และใช้วิธีการรักษาที่ต่างกันกับปัญหาตาไม่เท่ากัน
ลักษณะเด่นชัดที่สังเกตได้ของการมีตาที่ไม่เท่ากัน คืออะไรบ้าง ?
ที่จริงแล้วไม่มีใครเกิดมาแล้วดวงตาทั้งสองข้างมีขนาดเท่ากันเป๊ะ 100% ถ้าไม่ได้สังเกตดี ๆ ก็ไม่ได้เห็นถึงความแตกต่างขนาดนั้นครับ แต่ในคนที่มีลักษณะตาดังต่อไปนี้ อาจจะทำให้ตาข้างใดข้างหนึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะส่งผลต่อขนาดของดวงตาและทำให้ดูไม่เท่ากันได้ครับ
ลักษณะตาไม่เท่ากัน
- หนังตาตก ทำให้ตาทั้งสองข้างดูไม่เท่ากัน และเหมือนคนดูเศร้าหมองอยู่ตลอดเวลา
- ชั้นตาไม่เท่ากัน มีชั้นตาหลบในแค่ตรงบริเวณหางตา ทำให้เปลือกตาดู หนา มองเห็นชั้นตาไม่เท่ากัน หรือตาข้างหนึ่งมีชั้นตา อีกข้างหนึ่งไม่มีชั้นตา ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างดูไม่เท่ากันได้อย่างชัดเจน
- ชั้นตาสูง ชั้นตามีขนาดใหญ่และหนาไม่เท่ากัน ทำให้ตาดูปรือ เหมือนคนง่วงนอน ดูไม่สดใส
- เบ้าตาบนลึกโดยเฉพาะหัวตาและหางตา เกิดจากไขมันบนเปลือกตาหายไปตามช่วงวัย ทำให้ตาโหล เบ้าตาลึกลง หากปล่อยไว้มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นตาสามชั้น
- ตาสามชั้น หรือชั้นตาซ้อน คือ มีชั้นตามีเส้นเล็ก ๆ หลายเส้นทับซ้อนกันมากกว่า 2 ชั้น และอาจมีได้มากถึง 4 ชั้น 5 ชั้น
รู้สาเหตุของตาไม่เท่ากัน เพื่อวิธีแก้ไขที่ตรงจุด
ตาไม่เท่ากันเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งสาเหตุที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดจากปัจจัยภายนอกอื่น ๆ
สาเหตุของตาไม่เท่ากัน
- อายุที่มากขึ้น ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาหย่อนคล้อยลง ไขมันเปลือกตาหายไปตามวัย ทำให้ผิวหนังเปลือกตาตาหย่อนลงมาไม่เท่ากัน
- โครงสร้างของกระดูกเบ้าตาไม่เท่ากัน ความสูงและความลึกของกระดูกเบ้าตาอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เท่ากัน
- ระดับคิ้วไม่เท่ากัน อาจทำให้ความสูงของชั้นตาดูไม่เท่ากัน ข้างที่คิ้วอยู่ต่ำกว่า ตาจะดูตกกว่าครับ
- กล้ามเนื้อเปลือกตาอ่อนแรง หนังตากล้ามเนื้อเปลือกตาทำงานผิดปกติ ทำให้หนังตาตกลงมาปิดบังตาดำมากกว่าที่ควร
- อาการบาดเจ็บ มีบาดแผลหรืออาการบาดเจ็บที่ดวงตาหรือรอบดวงตา อาทิ การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัดศัลยกรรม อาจทำให้เกิดลักษณะตาที่ไม่เท่ากัน
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ชอบเลิกคิ้ว เลิกหน้าผาก เมื่อทำเป็นประจำจะส่งผลให้หัวคิ้วชี้ขึ้น ชั้นตาตรงหัวตากว้างกว่าหางตา และทำให้ดูตาตก หรือการขยี้ตาอยู่เป็นประจำ การโดนแสงแดดแรง ๆ ทำให้ผิวเปลือกตาหย่อนคล้อยลงมาได้ก่อนวัย
ตาไม่เท่ากัน มีผลกับโหงวเฮ้งวาสนาไหม ?
ตามหลักความเชื่อของโหราศาสตร์จีนซึ่งเป็นศาสตร์ชั้นสูงและมีมาอย่างยาวนาน มองว่าทุกส่วนของใบหน้ามีความหมายและเชื่อมโยงกับดวงชะตาของบุคคล รวมถึงไปดวงตาจะสามารถสะท้อนถึงบุคลิกภาพ โชคชะตา และวาสนาของบุคคลนั้น ๆ
โดยโหงวเฮ้งใต้ตาจะดูรอบ ๆ ดวงตาทั้งหมด มีตำแหน่งหลัก ๆ คือ กระบอกตาซ้ายและขวา เพราะจะเห็นลักษณะของตาได้ชัดเจน ซึ่งปัญหาตาไม่เท่ากัน ชั้นตาไม่เท่ากัน หนังตาตก ทำให้ใบหน้าดูเศร้า ไม่สดใส ดูไม่เป็นมิตร เชื่อว่าอาจมีผลต่อโหงวเฮ้งใต้ตาซึ่งจะสัมพันธ์กับ 2 เรื่องหลัก ๆ คือ บริวารดี และ ความรักดีครับ
ลักษณะโหงวเฮ้งใต้ตาที่ดี
โหงวเฮ้งใต้ตาที่ดีมีลักษณะ ดังนี้
- ใต้ตาไม่เป็นร่องลึก ไม่เป็นแอ่งโบ๋
- ไม่มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อย
- ผิวรอบดวงตา เรียบเนียนไร้ริ้วรอย
- ใต้ตาสดใส ไม่หมองคล้ำ
- มีชั้นตาที่เท่ากัน หรือเห็นชั้นตาชัดเจน
แล้วผลดีของการมีตาที่เท่ากัน มีอะไรบ้าง ? ช่วยเสริมโหงวเฮ้งด้วยไหม ?
- ช่วยให้ดวงตาดูสดใส มีเสน่ห์ และเป็นมิตร
- ช่วยให้ใบหน้าดูมีความสมมาตรกันมากขึ้น
- ช่วยสร้างความมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพที่ดี
- ทำให้การแต่งหน้าปรับลุคเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่ต้องใช้เวลานาน โดยเฉพาะการแต่งตาซึ่งสามารถใช้เทคนิคเดียวกันกับทั้งสองข้างได้
- ช่วยเสริมโหงวเฮ้งใต้ตา เชื่อว่าจะเป็นการเสริมทั้งในด้านความรักที่ดีและการมีบริวารที่ดี
ทำตาที่ไม่เท่ากัน ให้เท่ากัน ได้จริงหรือ ?!
เราสามารถแก้ไขปัญหาตาไม่เท่ากันด้วยตนเองอย่างการใช้เทคนิคการแต่งหน้า การติดสติกเกอร์ที่ชั้นตา ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย แต่ให้ทำทุกวันอาจจะเป็นการเสียเวลา ต้องแต่งหน้านานปกติ เพราะให้ผลลัพธ์ในระยะสั้น ๆ เท่านั้น
ในปัจจุบันเราสามารถปรับสัดส่วนของดวงตาให้ใกล้เคียงกันมากขึ้นโดยเห็นผลลัพธ์ในระยะยาวได้ครับ อาจจะไม่ได้เท่ากันทุกมุมทุกองศา แต่จะช่วยให้ภาพรวมของใบหน้ามีความสมมาตรกันมากขึ้น ด้วยการใช้หัตถการทางการแพทย์เข้ามาช่วย ซึ่งมีทั้งแบบวิธีการผ่าตัด หรือวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด
ปัญหาตาไม่เท่ากัน ปรับโหงวเฮ้งรอบดวงตา แก้ไขได้อย่างไรบ้าง ?
ถ้าหากต้องการแก้ปัญหาตาไม่เท่ากันให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว หมอจะแนะนำให้ใช้วิธีทางการแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน สวยงาม และดูเป็นธรรมชาติ
โดยควรเลือกทำวิธีไหนดี ? แนะนำให้ปรึกษาหมอเพื่อประเมินถึงสาเหตุและแนะนำวิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล เพราะการรักษาบางอย่างอาจมีความเสี่ยงและต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจครับ
1. ผ่าตัดรักษาชั้นตา
การผ่าตัดรักษาชั้นตาหรือการศัลยกรรมตามีอยู่ด้วยกันหลายเทคนิค สามารถช่วยแก้ปัญหาตาไม่เท่ากันได้หลากหลาย เช่น การผ่าตัดแก้ปัญหาตาไม่เท่ากันจากหนังตาตก (Ptosis) หรือผิวเปลือกตาหย่อน (Dermatochalasis) ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเปลือกตาหย่อนคล้อยในระดับมาก
การศัลยกรรมทำตาสองชั้น เพื่อแก้ไขให้ชั้นตาทั้งสองข้างดูเท่ากัน แต่ทั้งนี้ก็มีโอกาสที่จะตาไม่เท่ากันจากการศัลยกรรมได้อีกครับ
การทำศัลยกรรมจึงควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และควรทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ตามมาทีหลัง แต่สำหรับใครที่มีไม่ได้มีปัญหามาก และไม่ต้องการผ่าตัด อาจจะพิจารณาหัตถการทางการแพทย์อื่น ๆ ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาตาไม่เท่ากันโดยไม่ต้องผ่าตัดได้ครับ
2. ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาตาไม่เท่ากัน เป็นการฉีดสาร Hyaluronic acid (HA) เข้าไปเติมเต็มบริเวณที่เกิดการทรุดตัวของกระดูกให้ร่องลึกใต้ตาดูเต็มขึ้น ช่วยแก้ปัญหาร่องใต้ตาลึก เบ้าตาโหล หรือฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาบน เพื่อทดแทนชั้นไขมันที่หายไป สามารถแต่งชั้นตาให้เป็นตาสองชั้นชัดขึ้นโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด
โดยการฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีแก้ไขที่ตรงจุด มีข้อดีคือ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีครับ และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ไม่มีรอยแผล ทั้งยังสามารถช่วยแก้ปัญหาใต้ตาอื่น ๆ เช่น ใต้ตาดำคล้ำ ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้นเป็นไปตามหลักโหงวเฮ้งใต้ตาที่ดี
3. ฉีดไขมันเปลือกตา
การฉีดไขมันใต้ตา เป็นการใช้ไขมันของตัวเองที่ผ่านกระบวนการการปั่นแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์มาใช้ แล้วนำมาฉีดทดแทนไขมันบริเวณเปลือกตาที่หายไป วิธีนี้คล้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่า รวมถึงต้องทำหลายครั้งมากกว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน ส่วนข้อดีคือ อยู่ได้นานและมีโอกาสแพ้น้อยมากเนื่องจากเป็นไขมันของตัวคนไข้เองครับ
4. ฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อกเป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่ตาไม่เท่ากันจากการแสดงออกทางใบหน้า เช่น การยกคิ้วหรือหน้าผากบ่อย ๆ ซึ่งส่งผลให้หัวคิ้วดูชี้ขึ้นและชั้นตาด้านหัวตากว้างกว่าด้านหางตา ทำให้ดูเหมือนว่าตาข้างนั้นหย่อนลง และทั้งสองข้างดูไม่เท่ากัน
โดยการใช้โบทูลินั่ม ท็อกซินหรือโบท็อก ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ลดการทำงานของระบบประสาท เมื่อฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อ บริเวณหน้าผากที่ทำหน้าที่ในการยกคิ้วและหน้าผาก โบท็อกจะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว ช่วยให้ตาและคิ้วมีความสมดุลและดูเท่ากันมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดการเกิดรอยพับและริ้วรอยให้ผิวบริเวณรอบดวงตามีความเรียบเนียน
5. ร้อยไหม Foxy Eyes
ร้อยไหมยกหางตา หรือการร้อยไหม Foxy eyes เป็นการแก้ปัญหาตาไม่เท่ากันด้วยเทคนิค foxy eyes threadlift หมอจะทำการร้อยไหมละลายเข้าไปยังใต้ชั้นผิวตามแนวไหมที่วางไว้ วิธีนี้ช่วยยกผิวหางตาให้ยกขึ้นได้ทันทีหลังทำ และไม่เพียงแต่จะช่วยปรับรูปตาให้ดูเท่ากันมากขึ้นได้แล้ว ยังเป็นการปรับรูปทรงตาให้มีลักษณะเฉี่ยวคมขึ้น ดูสดใสขึ้น
โดยการร้อยไหม Foxy eyes เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาหนังตา หางตาหย่อนคล้อยมาก ๆ ทำให้ใบหน้าดูมีอายุก่อนวัย ต้องการเปลี่ยนลุค ไม่ต้องการศัลยกรรมผ่าตัด เห็นผลได้ทันทีหลังทำ และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นครับ
6. Ulthera SPT รอบดวงตา
Ulthera SPT รอบดวงตา ยกกระชับหนังตาตก หางตาหย่อนคล้อยที่ทำให้ตาไม่เท่ากัน เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูงยิงลงใต้ชั้นผิวบริเวณรอบดวงตา เพื่อให้เกิดความร้อนที่ 60-70 °C โดยชั้นผิวจะเกิดการหดตัว เป็นผลให้หนังตา หางตาที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้นทันทีประมาณ 20%
นอกจากนี้ยังช่วยให้ริ้วรอยลดลง ผิวรอบดวงตาเรียบเนียนยิ่งขึ้น วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยน้อย-ปานกลาง ไม่ได้รีบเห็นผลแบบทันที เพราะการยกกระชับผิวด้วยเครื่องมือยกกระชับ จะต้องใช้เวลาในการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวประมาณ 2-3 เดือน ถึงจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่
โดย Ulthera SPT เป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง สามารถยิงลงชั้นผิวที่มีความบอบบางได้อย่างปลอดภัย มีหน้าจอแสดงชั้นผิว สามารถเลี่ยงจุดที่จะทำให้รู้สึกเจ็บ และเลี่ยงการยิงโดนกล้ามเนื้อ เส้นประสาท ลดความเสี่ยงการผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายครับ
7. Thermage FLX รอบดวงตา
การทำ Thermage FLX แก้ปัญหาตาไม่เท่ากัน เป็นการยกกระชับผิวด้วยความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) ในการยกกระชับผิว สลายไขมัน กระตุ้นคอลลาเจน
โดยความพิเศษของ Thermage FLX คือ มีหัวยิงรอบดวงตา Eye Tip 0.25 cm2 โดยเฉพาะช่วยแก้ไขหนังตาชั้นบนตกที่หย่อนคล้อยลงมาปิดดวงตาให้ยกกระชับขึ้นได้ทันทีหลังทำประมาณ 20% และจะค่อย ๆ เห็นผลได้ชัดเจนใน 2-3 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมกับปัญหาของคนไข้ครับ
เมื่อรักษาแล้วจะกลับมาตาไม่เท่ากันได้อีกไหม ? แล้วควรทำอย่างไร ?
หลังการรักษาแล้วตาจะกลับมาไม่เท่ากันได้อีกไหม ? ถ้าหากใช้การผ่าตัดจะให้ผลลัพธ์ที่ถาวร แต่อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหย่อนคล้อยลงตามวัย ก็อาจจะทำให้ตากลับมาดูไม่เท่ากันได้อยู่ดีครับ ส่วนการรักษาด้วยหัตถการทางการแพทย์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่การผ่าตัด เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อก ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ต้องอาศัยการทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อคงผลลัพธ์ไว้ครับ
นอกจากการทำหัตถการหมอแนะนำดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมด้วย เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เลี่ยงการตากแดดนาน ๆ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ซึ่งจะช่วยชะลอและลดการเกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย เพื่อลดการเกิดปัญหาตาไม่เท่ากันจากความหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้นตามวัย
แต่ละหัตถการรักษาปัญหาตาไม่เท่ากัน อยู่ได้นานไหม ? ทำซ้ำได้ไหม ?
จากวิธีแก้ปัญหาตาไม่เท่ากันที่หมอได้ยกมาในบทความนี้ แต่ละหัตถการผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณนี้ครับ
- แก้ไขปัญหาตาไม่เท่ากันด้วยฟิลเลอร์ อยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้
- แก้ไขปัญหาตาไม่เท่ากันด้วยโบท็อก อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่ใช้
- แก้ปัญหาตาไม่เท่ากันด้วยการร้อยไหม Foxy eyes อยู่ได้นานประมาณ 4-5 เดือน
- กลุ่มเครื่องมือยกกระชับ Ulthera อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี และ Thermage อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่สภาพผิวเดิม
ทั้งนี้ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำด้วยครับ โดยทุกหัตถการสามารถกลับมาทำซ้ำได้เพื่อคงผลลัพธ์ไว้ แต่ควรเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม รวมถึงปรึกษาแพทย์ก่อนทำครับ เช่น การฉีดโบท็อกซ์ควรเว้นระยะห่างจากการฉีดครั้งแรกอย่างน้อยประมาณ 3 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ในอนาคต
ข้อควรรู้ การดูแลตัวเองหลังรักษาปัญหาใต้ตาไม่เท่ากันแต่ละหัตถการ
การดูแลตัวเองหลังทำถือว่าเป็นอีกขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรละเลยครับ เพราะนอกจากจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้อย่างยาวนาน ยังช่วยให้แต่ละหัตถการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ และมีความปลอดภัย
วิธีดูแลตัวเองหลังร้อยไหม และ ฟิลเลอร์
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera และ Thermage
เลือกแก้ปัญหาตาไม่เท่ากัน ที่ไหนดี ? พิจารณาอะไรบ้าง ?
การแก้ปัญหาตาไม่เท่ากัน เป็นการทำหัตถการบริเวณใกล้ ๆ ดวงตา ซึ่งสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงเป็นอันดับต้น ๆ นอกเหนือจากผลลัพธ์ที่ดีคือความปลอดภัยครับ โดยจะทำที่ไหนดี ? หมอมีข้อควรพิจารณามาแนะนำดังนี้
- เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตเปิดสถานพยาบาล 11 หลัก ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ และมีชื่อเสียงในหัตถการด้านนั้น ๆ มีรีวิวหรือฟีดแบคจากผู้ใช้บริการไปในแง่บวก
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำหัตถการ และที่สำคัญต้องเป็นแพทย์จริง มีใบประกอบวิชาชีพที่ได้รับจากแพทยสภาครับ
- มีเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ นำเข้าอย่างถูกกฎหมาย สามารถตรวจสอบได้
- ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล ควรเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ คลินิกที่น่าเชื่อถือก่อนครับ ไม่ควรเห็นแก่ราคาถูกเกินไป เพราะสุดท้ายแล้วอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ จากการใช้ผลิตภัณฑ์ของปลอม เครื่องปลอม ไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงครับ
- คลินิกมีหลายสาขาพร้อมให้บริการ เดินทางสะดวก และมีนัดติดตามผลหลังทำ
สรุป
ตาไม่เท่ากัน เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูไม่เท่ากัน การแก้ไขสามารถทำได้หลายวิธีทั้งการผ่าตัดศัลยกรรม และวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น การฉีดฟิลเลอร์ การฉีดโบท็อกซ์ และการใช้เครื่องมือยกกระชับ
โดยควรเลือกแก้ปัญหาตาไม่เท่ากันวิธีไหนดี ? แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสาเหตุและหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และมีความปลอดภัยครับ
