Hifu กับ Ulthera
Hifu กับ Ulthera เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมครับ สามารถช่วยให้ผิวยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจน และปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ต้องฉีดหรือผ่าตัดให้เกิดแผล
สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะเลือกหัตถการตัวไหนดี ? ในบทความนี้ หมอจะพาทุกคนไปหาคำตอบว่า Hifu กับ Ulthera เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร ? มีการทำงานอย่างไร ? ช่วยอะไรบ้าง ? เปรียบเทียบข้อดี – ข้อเสีย ไฮฟูกับอัลเทอร่า ก่อนทำพิจารณาจากอะไร ? ราคาเท่าไร ? และเลือกทำที่ไหนดี ?
สารบัญ Hifu กับ Ulthera
Hifu กับ Ulthera คืออะไร ?
Hifu กับ Ulthera คือ เทคโนโลยียกกระชับผิว โดยไม่ใช้เข็มหรือมีดผ่าตัด (Non-Surgical Skin Lifting) สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้าและร่างกาย หมอจะยิงคลื่นอัลตราซาวนด์ความถี่สูง เข้าไปยังชั้นผิวหนังต่าง ๆ ซึ่งสามารถลงได้ลึกถึงผิวชั้น SMAS ทำให้เกิดความร้อน 65-70°C ในผิวชั้นนั้น ๆ ส่งผลให้ชั้นผิวหนังหดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ครับ
ข้อควรรู้: ผิวชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) คือ ชั้นเนื้อเยื่อสำคัญของกล้ามเนื้อใบหน้า ที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังและไขมันครับ หากผิวชั้นนี้เสื่อมสภาพลงจะส่งผลให้ใบหน้าเกิดความหย่อนคล้อย และมองเห็นริ้วรอยร่องลึกตามมาได้ ดังนั้นหากเราต้องการยกกระชับผิวให้เห็นผลและมีประสิทธิภาพมากที่สุด จำเป็นต้องทำที่ชั้นนี้ครับ
Hifu คืออะไร ?
Hifu (High Intensity Focused Ultrasound) หรือ ไฮฟู คือ นวัตกรรมการยกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง ที่มีต้นแบบมาจากเครื่อง Ulthera ครับ ตัวเครื่องไฮฟูมีด้วยกันหลายยี่ห้อ หลายเกรด จากประเทศผู้ผลิตที่แตกต่างกัน ทำให้ประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวแตกต่างกันออกไปด้วย
เครื่อง Hifu ที่หมอแนะนำ และ V Square Clinic เลือกใช้ คือ Hifu Ultraformer III จากประเทศเกาหลี มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจาก FDA ยุโรป ออสเตรเลีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี และไทย พลังงานมีความเสถียร มีหัวยิงที่หลากหลายให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาผิวครับ
Ulthera คืออะไร ?
Ulthera (อัลเทอร่า) คือ นวัตกรรมยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) จากสหรัฐอเมริกา ผ่านการรับรองจาก FDA ยุโรป อเมริกา และไทย มั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ตัวเครื่อง Ulthera มีจุดเด่นที่หน้าจอแสดงให้เห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถส่งพลังงานลงไปถึงผิวชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งช่วยให้แพทย์สามารถออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวให้ดียิ่งขึ้นครับ
เครื่องยกกระชับที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน มีอะไรบ้าง ? ช่วยอะไรบ้าง ?
เครื่องยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มี Hifu, Ulthera และ Thermage ซึ่งแต่ละเครื่องจะมีจุดเด่น และเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกัน
Hifu
Hifu ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง มีขนาดจุดโฟกัสที่ 0.5-1 mm เมื่อยิงพลังงานลงในชั้นผิว ความร้อนจะทำให้ผิวหดตัว โดยพลังงานสามารถลงลึกได้ถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า เหมาะกับผู้ที่ใบหน้าเริ่มมีริ้วรอย และผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อยครับ สามารถทำ Hifu เพื่อเพิ่มความกระชับให้ผิว เก็บกรอบหน้าให้ชัด และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
Ulthera
Ulthera ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ความถี่สูง มีขนาดจุดโฟกัสที่ 1 mm และมีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอแสดงผลแบบเรียลไทม์ ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวแต่ละชั้น และออกแบบการรักษาได้แม่นยำตรงจุด เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้า เช่น เก็บกรอบหน้าเรียว ยกคิ้ว ยกหางตา แก้หนังตาตก ลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ลดถุงใต้ตา ฟื้นฟูผิวให้แน่นกระชับ รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี
Thermage
Thermage คือ เทคโนโลยียกกระชับด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) ขนาดจุดโฟกัส 3-4 cm2 ในการยิง 1 Shot เครื่องสามารถส่งพลังงานได้ตั้งแต่ผิวชั้นหนังแท้ (Demis) ถึงชั้นไขมัน (Subcutaneous นิยมใช้สลายไขมันส่วนเกิน ปรับให้ผิวแน่นกระชับ และเพิ่มความยืดหยุ่น เหมาะกับผู้ที่มีชั้นไขมันหนา แก้มเยอะ หรือมีเหนียงที่เกิดจากไขมันครับ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
Ulthera ถือเป็นเครื่อง Hifu ไหม ? มีอะไรที่เหมือนกันบ้าง ?
Ulthera ถือเป็นเครื่องต้นแบบของ Hifu และเป็นรุ่นที่ดีที่สุดก็ว่าได้ครับ ในคลินิกความงามบางแห่งจะนิยมเรียก Ulthera ว่าเป็นเครื่องไฮฟูจากอเมริกา เพราะทั้ง Hifu กับ Ulthera ล้วนใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงในการยกกระชับผิว ปรับรูปหน้าให้ได้ทรงวีเชฟ หรือปรับให้ผิวดูอ่อนเยาว์เช่นเดียวกันครับ
ชนิดของเครื่อง Hifu
เครื่องไฮฟูในปัจจุบันจะมีด้วยกันหลายเกรด และหลายยี่ห้อครับ ประสิทธิภาพแตกต่างกันออกไป แบ่งได้เป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- Hifu Microfocused หรือเครื่อง Hifu แบบธรรมดา มีจุดพลังงานขนาดเล็กเพียง 0.3-0.5 mm และไม่สามารถลงลึกได้ทุกชั้นผิว รวมถึงพลังงานที่ปล่อยออกมามักไม่เสถียร ทำให้อาจไม่เห็นผลหลังทำ หรือเสี่ยงที่จะทำให้เกิดผิวไหม้ได้
- Hifu Macrofocused เป็นเครื่องที่พัฒนาให้ค่าพลังงานมีขนาดใหญ่ และการทำงานมีความเสถียรมากขึ้น โดยมีจุดพลังงานขนาด 0.5-1 mm ซึ่งมีระดับพลังงานสูงกว่า Hifu Microfocused ประมาณ 8 เท่า สามารถยิงลงในผิวชั้นลึกถึงกลุ่มไขมันใต้ผิวครับ
- Hifu MMFU หรือ Hifu Micro and Macro Focused Ultrasound เป็นรุ่นที่รวมเอาจุดเด่นของทั้ง 2 รูปแบบเข้าด้วยกัน ทำให้แพทย์สามารถปรับพลังงานเป็นแบบ Microfocused หรือ Macrofocused ได้เหมาะสมกับชั้นผิวที่ต้องการ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และสลายไขมัน
- Ultraformer III คือเครื่อง Hifu รุ่นที่ดีที่สุดรองจากเครื่อง Ulthera SPT เพราะใช้เทคโนโลยีที่มีต้นแบบมาจาก Ulthera ทำให้เป็นเครื่องที่ปล่อยพลังงานเสถียร และมีความแม่นยำ สามารถลงได้ทุกระดับชั้นผิว นิยมใช้เพื่อยกกระชับผิว สลายไขมันบางส่วน และกระตุ้นคอลลาเจน
เครื่อง Ulthera
เครื่อง Ulthera ที่ใช้ในปัจจุบันจะมีเพียงรุ่นเดียวที่ผ่านการอัปเกรดมาแล้ว คือ Ulthera SPT หรือ New Ulthera ครับ ซึ่งชื่อเรียกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคลินิกความงาม เป็นนวัตกรรมที่มีจุดเด่นอยู่ที่จอแสดงภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ช่วยให้แพทย์สามารถออกแบบการรักษาได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพิ่มความแม่นยำในการยิงพลังงาน และลดโอกาสพลาดไปโดนกล้ามเนื้อหรือกระดูก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับครับ
ความแตกต่างระหว่าง Hifu กับ Ulthera มีอะไรบ้าง ?
ทั้ง Hifu กับ Ulthera เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ครับ มีความแตกต่างกัน ดังนี้
- เทคโนโลยีที่ใช้ Hifu ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง ในขณะที่ Ulthera มีจุดเด่นอยู่ที่คลื่นอัลตราซาวนด์พลังงานสูง MFU-V (Microfocus Ultrasound with Visualization) ทำให้ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้แม่นยำ มีหน้าจอแสดงชั้นผิวแบบเรียลไทม์
- ขนาดจุดพลังงาน Ulthera มีขนาดจุดพลังงาน 1 mm ส่วน Hifu มีจุดพลังงานที่เล็กกว่าครับ อยู่ที่ประมาณ 0.5-1 mm และขนาดจุดพลังงานสามารถแตกต่างกันออกไปตามรุ่นของเครื่อง Hifu ที่เลือกใช้ครับ
- ระดับความเจ็บ รีวิวส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าการทำอัลเทอร่าเจ็บกว่าไฮฟูครับ เพราะมีจุดพลังงานที่ใหญ่กว่า
- ผลลัพธ์หลังทำ เนื่องจาก Ulthera มีจุดพลังงานที่ใหญ่กว่า จึงสามารถอยู่ได้นานกว่าครับ ประมาณ 1 ปี ส่วน Hifu ในการทำ 1 ครั้ง จะอยู่ได้ 4-6 เดือน แนะนำให้ทำปีละ 2-3 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
- รูปแบบการยิงพลังงาน ในการทำอัลเทอร่าสามารถออกแบบการยิงพลังงานให้มีความเฉพาะกับแต่ละบุคคลได้ครับ เพราะมีหน้าจอที่ใช้แสดงชั้นผิวแบบเรียลไทม์ แต่เครื่องไฮฟูจะยิงพลังงานเหมือนกันในทุกเคส โดยสามารถเปลี่ยนหัวยิงที่มีขนาดแตกต่างกัน ตามชั้นผิวที่โฟกัสได้
ไฮฟู กับ อัลเทอร่า มีข้อดี – ข้อเสีย อะไรบ้าง ?
หลังจากที่ทุกคนรู้ถึงความแตกต่างของเครื่องไฮฟูกับอัลเทอร่าแล้ว หมอจะอธิบายถึงข้อดี-ข้อเสียของแต่ละเครื่องให้ฟังครับ
ข้อดี – ข้อเสีย ของ Hifu
ข้อดีของ Hifu
- ช่วยยกกระชับ หรือแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยไม่เกิดรอยแผลบนผิวชั้นนอก
- มีความปลอดภัย เพราะใช้คลื่นเดียวกับคลื่นอัลตราซาวนด์ตรวจพัฒนาการของทารกในครรภ์
- ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ช่วยลดแก้ม และเหนียง รวมถึงเก็บกรอบหน้าให้ชัดได้
- ไฮฟูเป็นนวัตกรรมที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ ซึ่งคลื่นเสียงนี้จะไม่ทำอันตรายต่อสายตาเหมือนกับคลื่นแสงครับ ดังนั้นจึงสามารถทำไฮฟูได้ในบริเวณรอบดวงตา รวมถึงจุดต่าง ๆ บนใบหน้า และร่างกาย
- หลังการทำ Hifu สามารถเห็นผลได้ทันทีประมาณ 20% ผิวจะกระชับมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามคอลลาเจนใหม่ที่สร้างขึ้น เห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 เดือน
- ชะลอการเกิดริ้วรอย และป้องกันการหย่อนคล้อยของผิวในอนาคต
ข้อเสียของ Hifu
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร แนะนำให้ทำไฮฟูอย่างต่อเนื่อง เพื่อคงผลลัพธ์ และป้องกันความหย่อนคล้อยในอนาคตครับ
- ถ้าใช้เครื่องไม่ได้มาตรฐาน หรือผู้ที่ทำหัตถการไม่ผ่านการเทรนนิง จะก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น ทำแล้วไม่เห็นผล หรือผิวเบิร์น
ข้อดี – ข้อเสีย ของ Ulthera
ข้อดีของ Ulthera
- เป็นการปรับรูปหน้า และยกกระชับ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เข็มครับ
- มีความปลอดภัย เพราะเครื่อง Ulthera ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก U.S. FDA และอย.ไทย รวมถึงยังนิยมใช้งานไปทั่วโลก
- หลังการทำ Ulthera สามารถเห็นผลได้ทันทีประมาณ 30% และผิวจะกระชับขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา ซึ่งจะเห็นผลเต็มที่ใน 3 เดือน
- มีความแม่นยำ และประสิทธิภาพสูง เพราะมีหน้าจอแสดงชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถออกแบบการรักษาได้เฉพาะกับคนไข้แต่ละคน
- ในการทำ Ulthera เพียง 1 ครั้ง ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 1 ปี
ข้อเสียของ Ulthera
- รู้สึกเจ็บระหว่างทำ เพราะมีขนาดพลังงานใหญ่ และการยกกระชับให้ได้ประสิทธิภาพ จำเป็นต้องส่งพลังงานลงลึกถึงผิวชั้น SMAS สำหรับใครที่กลัวเจ็บ ก่อนทำที่คลินิกจะแปะยาชา ช่วยลดความเจ็บขณะทำ
- มีราคาค่อนข้างสูง แต่มีความคุ้มค่าครับ เพราะผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี ต่อการทำ 1 ครั้ง
ทำ Hifu กับ Ulthera มีผลข้างเคียงไหม ?
ทั้ง Hifu กับ Ulthera จะไม่ก่อให้เกิดบาดแผลบริเวณผิวชั้นนอกครับ ถ้าเลือกใช้เครื่องที่มีคุณภาพมาตรฐาน ผ่านการรับรองความปลอดภัย ส่วนผลข้างเคียง เช่น บวมแดง หรือช้ำเล็กน้อย ในคนไข้ที่มีผิวบาง อาจเกิดขึ้นได้เป็นปกติครับ หายได้เองใน 1-2 สัปดาห์
เปรียบเทียบ เลือกทำ Hifu กับ Ulthera พิจารณาอะไรบ้าง ?
Hifu กับ Ulthera จะมีหลักการทำงานของเครื่องที่ใกล้เคียงกันครับ และสามารถทำทั้ง 2 หัตถการร่วมกันได้ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย หรือบางคนอาจเลือกเพียงเครื่องใดเครื่องหนึ่ง และจับคู่กับหัตถการอื่น ๆ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์ หรือร้อยไหม เพื่อเสริมให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการมากขึ้น
สำหรับใครที่ลังเล ว่า Hifu กับ Ulthera เลือกทำอันไหนดี ? สามารถปรึกษาแพทย์ ร่วมกับการพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ได้ครับ
- อายุและปัญหาผิว โดยทั่วไปในเคสที่อายุ 25-30 ปี ที่เริ่มมีปัญหาหย่อนคล้อย แต่ริ้วรอยยังไม่มาก หากต้องการยกกระชับผิว และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต หมอแนะนำให้เริ่มจากการทำ Hifu ก่อนครับ ส่วน Ulthera จะตอบโจทย์กับกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มีชั้นไขมันบนใบหน้าไม่มาก แต่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก เช่น กรอบหน้าไม่ชัด หนังตาตก หรือหางคิ้วตก
- งบประมาณ Hifu จะมีราคาย่อมเยากว่า Ulthera ครับ โดยราคาเริ่มต้น Hifu จะอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท/100 Line ส่วน Ulthera อยู่ที่ 20,000 บาท/200 Line ครับ
- ระดับความเจ็บปวดที่ทนไหว จากการรีวิวส่วนใหญ่การทำอัลเทอร่าจะรู้สึกเจ็บมากกว่าการทำไฮฟูครับ เพราะมีขนาดพลังงานที่ใหญ่กว่า แต่ก่อนทำหัตถการทั้ง 2 เครื่อง จะมีการแปะยาชาให้ครับ
ทำ ไฮฟู กับ อัลเทอร่า อันไหนเจ็บกว่ากัน ?
การทำอัลเทอร่าจะรู้สึกเจ็บกว่าการทำไฮฟูครับ เรียกได้ว่า ยิ่งเจ็บก็ยิ่งสวย เพราะเครื่องอัลเทอร่ามีขนาดพลังงานที่ใหญ่ และลงลึกได้มากกว่า จึงมีประสิทธิภาพในการยกกระชับสูง สามารถใช้แก้ปัญหาหนังตาตก หางคิ้วตก หรือเก็บกรอบหน้าได้ รวมถึงผลลัพธ์คงอยู่ได้นานถึง 1 ปีหลังทำ
ในกรณีที่ทนเจ็บไม่ไหว สามารถแจ้งให้แพทย์หรือ Specialist ที่ทำ ปรับลดพลังงานได้ และเพิ่มความถี่ในการทำหัตถการแทนได้
หลังทำ Hifu กับ Ulthera หน้าบวมเหมือนกันไหม ?
เนื่องจากทั้ง Hifu กับ Ulthera เป็นการส่งคลื่นอัลตราซาวนด์ลงใต้ชั้นผิว และก่อให้เกิดความร้อนขึ้น จึงสามารถส่งผลให้เกิดหน้าบวมหลังทำได้เป็นปกติครับ อาการบวมแดงเหล่านี้จะสามารถหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์
Hifu กับ Ulthera อย่างไหนดีกว่ากัน ?
ไม่มีหัตถการไหนดีกว่ากัน มีแต่หัตถการที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนมากกว่าครับ สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่มาก มีงบประมาณค่อนข้างจำกัด และไม่อยากเจ็บตัวมาก สามารถเริ่มจากการทำ Hifu ก่อนได้ครับ แต่ถ้าใครทนเจ็บไหว งบประมาณไม่จำกัด และไม่ว่างเข้าคลินิกความงามบ่อย ๆ Ulthera ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะในการทำ 1 ครั้ง สามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี
รีวิว ผลลัพธ์ทำ Hifu กับ Ulthera
หลังทำ Hifu และ Ulthera เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที ผลลัพธ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามคอลลาเจนใหม่ที่สร้างขึ้นครับ
รีวิว Hifu
ในเคสนี้จะมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม และกรอบหน้าครับ หลังทำ Hifu ทันทีจะเห็นว่า ผิวบริเวณแก้มและกรอบหน้าดูกระชับมากขึ้น
รีวิว Ulthera
จากเคสตัวอย่าง คนไข้มีปัญหาร่องใต้ตา และร่องแก้ม จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น สามารถใช้ Ulthera ยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย และปรับให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ โดยทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม และการทำ Hifu เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
โดยในเคสนี้หมอจะเริ่มฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และฟิลเลอร์ร่องแก้มก่อน เพื่อปรับให้ร่องใต้ตาและร่องแก้มดูตื้นขึ้นทันทีหลังฉีด จากนั้นจะใช้ Hifu กับ Ulthera เพื่อยกกระชับผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาผิวอย่างตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคตได้อีกด้วย
ทำ Hifu กับ Ulthera ที่ไหนดี ?
สำหรับใครที่ต้องการทำ Hifu กับ Ulthera ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย ควรให้ความสำคัญกับการเลือกคลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุข และใช้เครื่องไฮฟูกับอัลเทอร่าของแท้ที่สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงควรทำหัตถการกับแพทย์ หรือ Specialist ที่ผ่านเทรนนิงการใช้งานเครื่อง เพราะมีความเข้าใจและสามารถใช้งานเครื่องได้อย่างถูกต้องครับ
ทำไฮฟูกับอัลเทอร่าที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
ที่ V Square Clinic ทุกสาขาเลือกใช้เครื่อง Ulthera SPT และ Hifu Ultraformer III ของแท้ สามารถตรวจสอบได้ครับ นอกจากนี้ทุกเคสก่อนทำจะมีการประเมินใบหน้ากับแพทย์ประสบการณ์สูง ผ่านเทรนนิงการใช้งานเครื่อง Ulthera SPT และ Hifu Ultraformer III อย่างถูกต้องครับ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อของแพทย์ ที่มีใบรับรอง (Certificate) การเข้าร่วมบรรยายและเทรนนิงได้ที่หน้าเว็บไซต์
ราคา โปรโมชั่น Hifu กับ Ulthera ที่ V Square Clinic
ราคาโปรโมชั่น Hifu Ultraformer III ที่ V Square Clinic
- ราคา Hifu 100 Line 3,999.-
- ราคา Hifu 300 Line 8,999.-
- ราคา Hifu 600 Line 15,900.-
- ราคา Hifu 900 Line 25,000.-
ราคาโปรโมชั่น Ulthera ที่ V Square Clinic
รับฟรี โปรแกรม Hifu Ultraformer III (หัวกระตุ้นคอลลาเจน)
สำหรับผู้ติดตาม Line@ และมีสติ๊กเกอร์ “น้อง ดักกี้ V Square”
- 200 Line Ulthera SPT ราคา 19,999.-
(รับฟรี Hifu Ultraformer III 60 Line) - 300 Line Ulthera SPT ราคา 29,999.-
(รับฟรี Hifu Ultraformer III 90 Line) - 400 Line Ulthera SPT ราคา 39,999.-
(รับฟรี Hifu Ultraformer III 120 Line) - 500 Line Ulthera SPT ราคา 49,999.-
(รับฟรี Hifu Ultraformer III 150 Line) - 700 Line Ulthera SPT ราคา 69,999.-
(รับฟรี Hifu Ultraformer III 210 Line) - 1,000 Line Ulthera SPT ราคา 99,999.-
(รับฟรี Hifu Ultraformer III 300 Line)
สรุป
สำหรับผู้ที่ลังเลว่าระหว่าง Hifu กับ Ulthera ควรเลือกอะไรดี ? ทั้ง 2 เครื่องมีประสิทธิภาพในการยกกระชับ และมีความคุ้มค่าเช่นเดียวกันครับ ใครที่ไม่ค่อยมีเวลาเข้าคลินิกบ่อย ๆ และมีงบไม่จำกัด Ulthera ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก เพราะหลังทำสามารถคงผลลัพธ์ได้นานถึง 1 ปี
แต่ถ้าใครกังวลเรื่องความเจ็บ และอยากจำกัดงบประมาณลง Hifu ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากครับ เพราะมีราคาต่อครั้งย่อมเยากว่า Ulthera หมอแนะนำให้ทำต่อเนื่อง 2-3 ครั้งต่อปี เพื่อคงผลลัพธ์และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต ซึ่งที่ V Square Clinic มีให้บริการทั้ง 2 เครื่อง ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความต้องการของทุกคน
หากใครยังไม่แน่ใจว่า ตัวเองเหมาะกับ Hifu หรือ Ulthera ? สามารถส่งรูปถ่ายมาในช่องทางออนไลน์ หรือจองคิว เพื่อมาปรึกษาที่ V Square Clinic ได้ทุกสาขา บริการนี้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายครับ มีแพทย์ตอบให้ทุกเคส