ฟิลเลอร์ Biohyalux
ฟิลเลอร์ Biohyalux ฟิลเลอร์น้องใหม่จากจีนที่หลาย ๆ คนยังไม่รู้จัก เพราะเพิ่งนำเข้ามาใช้ในคลินิกชั้นนำในประเทศไทย ฟิลเลอร์ Biohyalux คืออะไร ดีอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง หมอรวบรวมข้อมูลไว้ในบทความนี้แล้วครับ
Biohyalux เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้นวัตกรรม BioBT Technology ในการผลิต ทำให้ Biohyalux Filler มีจุดเด่นเรื่องฉีดแล้วไม่บวม ไม่เป็นก้อน ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลเร่งด่วน ฟิลเลอร์มีหลายรุ่น โดยฉีด Biohyalux ได้หลายตำแหน่งแตกต่างกันไปตามรุ่นที่เลือกใช้ ถึงแม้จะเป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อใหม่ แต่ก็เริ่มมี Biohyalux รีวิวตามสื่อต่าง ๆ มากขึ้นเพราะเป็นฟิลเลอร์ที่ฉีดแล้วเรียบเนียน เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่หลังทำ และได้รับการรับรองจาก อย.ทั้งไทย สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศทั่วโลกครับ
หากอยากทราบข้อมูลของ Filler Biohyalux อย่างละเอียด ห้ามพลาดบทความนี้ครับ
สารบัญ ฟิลเลอร์ Biohyalux
Biohyalux ฟิลเลอร์สัญชาติจีน ที่มาพร้อมเทคโนโลยี BioBalance
ฟิลเลอร์ Biohyalux คือสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid ; HA) คุณภาพสูง ใช้ฉีดเข้าจุดต่าง ๆ ของใบหน้าเพื่อทดแทนคอลลาเจนและไฮยาลูรอนในผิวหนังที่สูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น มีหลากหลายรุ่นในเลือกใช้ ช่วยในการลดริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยชั้นตื้น ใช้ยกกระชับ รวมถึงมีรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการปรับรูปทรงริมฝีปากโดยเฉพาะ
Filler Biohyalux เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตและค้นคว้าวิจัยโดยบริษัท Bloomage Biotechnology ประเทศจีน ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตสาร Hyaluronic acid (HA) มานานกว่า 20 ปี จนได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลกให้บริษัท Bloomage เป็นแหล่งศึกษาวิจัยและแหล่งผลิตสาร HA เพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนเอง
Biohyalux เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตและจำหน่ายจากบริษัท Bloomage Biotechnology โดยตรง มีความพิเศษคือใช้เทคโนโลยี Bio Balance Technology ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์คงรูปได้ดี แต่ไม่เป็นก้อน และโอกาสบวมหลังฉีดน้อย ทำแล้วใช้หน้าได้ทันทีไม่ต้องพักฟื้นครับ
ฟิลเลอร์ Biohyalux มีจุดเด่นในเรื่องของการทนต่อการย่อยสลายของเอนไซม์ตามธรรมชาติ ทำให้มีคุณสมบัติอยู่ได้นาน คงตัวได้ดี แทรกซึมผสานกับผิวหนังได้ดี เรียบเนียนไม่เป็นก้อน และมีความปลอดภัย ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท SOE Medical จำกัด ผ่านการรับรองจาก US FDA, CE, EDQM และ และผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยครับ
BioBalance Technology
ฟิลเลอร์ Biohyalux ได้นำเทคโนโลยี ที่ชื่อว่า Bio Balance Technology ; BioBT™ มาใช้ในการผลิตฟิลเลอร์เพื่อให้ได้ลักษณะพิเศษ เกิดเป็น Biphasic filler กล่าวคือมีทั้งส่วนที่เป็น Non cross-linked HA เนื้ออ่อนและ Cross-linked HA เนื้อแข็งผสมกัน จุดเด่นคือแพทย์สามารถปั้นจัดรูปทรงง่าย แต่ยังคงความเรียบเนียนผสานไปกับผิวได้ดี ไม่เป็นก้อน
โดยในกระบวนการผลิตฟิลเลอร์ จะต้องใช้สารที่ชื่อว่า BDDE (1,4-Butanediol diglycidyl ether) มาเชื่อมพันธะ (Cross-linked) ระหว่างโมเลกุลของ HA แบบ 3 มิติ เกิดเป็นเนื้อเจลที่ใช้เติมเต็มจุดต่าง ๆ และคงรูปอยู่ได้ ฟิลเลอร์ Biohyalux ได้มีการใช้ปริมาณ BDDE อย่างเหมาะสม และใช้ HA ที่มีความบริสุทธิ์สูง เกิดเป็น High-quality cross-linked HA ที่มีเนื้อฟิลเลอร์ที่คงรูปร่างได้ดี แต่ให้ความเรียบเนียนแบบธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน และทนต่อเอนไซม์ ยืดเวลาสลายตัวของเนื้อฟิลเลอร์ จึงทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นครับ
นอกจากนี้จุดเด่นที่สำคัญของฟิลเลอร์ Biohyalux คือ การใช้เทคโนโลยี Isoosmosis Gel for Better Precision ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ในสถานะไอโซโทนิก (Isotonic) มีความเข้มข้นเท่ากับสารน้ำในร่างกาย ทำให้เซลล์ผิวหนังยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ได้ ลดโอกาสบวมน้ำ บวมหลังฉีด แพทย์ประเมินการรักษาได้แม่นยำมากขึ้นครับ
จุดเด่นของ ฟิลเลอร์ Biohyalux
- เนื้อฟิลเลอร์อยู่ในสถานะ Isotonic ทำให้เซลล์ร่างกายคงสภาพปกติไว้ได้ไม่บวมน้ำ หลังฉีด
- สาร Hyaluronic acid มีความบริสุทธิ์สูง ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง
- ผลิตออกมา 4 รุ่น เนื้อฟิลเลอร์แตกต่างกัน สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละตำแหน่งบนใบหน้าครบทุกจุด
- คงผลลัพธ์ได้ 9-12 เดือน
- ผ่านการรับรองจาก US FDA, CFDA (ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ผ่านยากที่สุดในโลก), CE, EDQM และ FDA กว่า 12 ประเทศทั่วโลก รวมทั้ง อย.ไทย
ข้อดี – ข้อเสีย ของ ฟิลเลอร์ Biohyalux
ข้อดีของฟิลเลอร์ Biohyalux
- โอกาสบวมหลังฉีดน้อย ทำเสร็จใช้หน้าได้ทันที
- เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น ผสานกับผิวได้ดี ไม่เป็นก้อน
- ฟิลเลอร์คงรูปได้ดี ปรับแต่งทรงง่าย
- คงผลลัพธ์ได้นาน 9-12 เดือน
- มีรุ่นฟิลเลอร์ให้เลือกหลากหลาย เลือกใช้ตามความเหมาะสมในแต่ละตำแหน่ง
- ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ปรับรูปหน้าได้อย่างตรงจุด ในราคาที่สมเหตุสมผล
ข้อเสียฟิลเลอร์ Biohyalux
- อยู่ได้ไม่ถาวร ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง สามารถเติมใหม่ได้โดยไม่อันตราย
- มีโอกาสอุดตันเส้นเลือด หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือหมอกระเป๋า
- หากไม่ได้ตรวจสอบฟิลเลอร์ Biohyalux ของแท้ก่อนฉีด อาจเจอฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่สามารถย่อยสลายเองได้ ทำให้เกิดเป็นก้อนแข็ง บวมแดง อักเสบติดเชื้อได้ในอนาคต
ปัญหาบนใบหน้าส่วนไหนควรเลือกฉีดด้วย Biohyalux Filler
Biohyalux มีกี่รุ่น
ฟิลเลอร์ Biohyalux ได้ผลิตฟิลเลอร์ที่มีลักษณะแตกต่างกันออกมาทั้งหมด 4 รุ่น เพื่อให้ครอบคลุมในการแก้ปัญหาแต่ละจุดและสภาพผิวของแต่ละคน ฟิลเลอร์ Biohyalux แต่ละรุ่น มีรายละเอียดดังนี้
- BIOHYALUX Derm Lines
ฟิลเลอร์ BIOHYALUX รุ่น Derm Lines (กล่องสีม่วง) ความเข้มข้น 20 mg/ml เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่น ใช้เติมริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลาง ร่องแก้ม ร่องมุมปาก หน้าผาก รอบดวงตา ให้ใบหน้าดูละมุน ริ้วรอยเล็ก ๆ เรียบเนียนยิ่งขึ้น คงผลลัพธ์ได้นาน 9-12 เดือน
- BIOHYALUX Deep dermis
ฟิลเลอร์ BIOHYALUX รุ่น Deep dermis (กล่องสีทอง) ความเข้มข้น 20 mg/ml ฟิลเลอร์โมเลกุลใหญ่ ใช้ฉีดเติมเต็มผิวชั้นลึก ฉีดยกกระชับ (Lifting) ใบหน้าที่หย่อนคล้อย เพิ่มความคมชัดของกรอบหน้า และเติมเต็มเพื่อปรับรูปหน้าได้อย่างสมดุล คงผลลัพธ์ได้นาน 9-12 เดือน
- BIOHYALUX Fine Line
ฟิลเลอร์ BIOHYALUX รุ่น Fine Lines (กล่องสีฟ้า) ความเข้มข้น 20 mg/ml โมเลกุลเล็กกว่ารุ่น Derm lines ใช้ฉีดเติมเต็มผิวชั้นตื้น โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา ร่องใต้ตา ลดปัญหาใต้ตาคล้ำ ลดร่องขมวดคิ้ว ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก คงผลลัพธ์ได้นาน 9-12 เดือน
- BIOHYALUX Lips
ฟิลเลอร์ BIOHYALUX รุ่น Lips (กล่องสีชมพู) ความเข้มข้น 20 mg/ml ออกแบบมาสำหรับริมฝีปากโดยเฉพาะ เพื่อฟื้นฟูริมฝีปากให้กลับมาเต่งตึงอิ่มฟู สร้างความคมชัดให้ริมฝีปาก เพิ่มความชุ่มชื้น ปรับรูปทรงปากให้ดูทรงสวย มีมิติ เป็นธรรมชาติ คงผลลัพธ์ได้ 6-9 เดือน
Biohyalux Filler ฉีดจุดไหนได้บ้าง
- BIOHYALUX Derm lines เหมาะกับการฉีดริ้วรอยลึกระดับปานกลาง ร่องแก้ม ร่องมุมปาก หน้าแก้ม หน้าผาก ระหว่างคิ้ว
- BIOHYALUX Deep dermis เหมาะกับการฉีดผิวชั้นลึก ปรับโครงหน้า กรอบหน้า คาง
- BIOHYALUX Fine Line เหมาะกับการฉีดผิวชั้นตื้น ใต้ตา แก้มส้ม หน้าผาก
- BIOHYALUX Lips เหมาะกับการฉีดริมฝีปาก
ฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux แต่ละตำแหน่ง ใช้กี่ CC
ฟิลเลอร์ Biohyalux 1 กล่อง บรรจุ 1 CC ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้แต่ละตำแหน่ง ไม่แตกต่างกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ครับ จุดหลัก ๆ ที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ ดังนี้
- ฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้ 3-5 CC
- ฟิลเลอร์ขมับ ใช้ 2-4 CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้ 2-4 CC
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม ใช้ 1-2 CC
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใช้ 2-4 CC
- ฟิลเลอร์ปาก ใช้ 1-2 CC
- ฟิลเลอร์คาง ใช้ 1-2 CC
ฟิลเลอร์ Biohyalux มีข้อควรรู้ที่ต่างจากการฉีดฟิลเลอร์อื่น ๆ ไหม
ฟิลเลอร์ Biohyalux เป็นสารเติมเต็มประเภท Hyarulonic acid เหมือนฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ เช่น Juvederm, Restyalne หรือฟิลเลอร์อีกหลายยี่ห้อที่มีจำหน่ายในประเทศไทยครับ แต่ฟิลเลอร์ Biohyalux มีจุดเด่นคือเป็น Biphasis filler เนื้อฟิลเลอร์คงรูปได้ดี แต่ฉีดแล้วเรียบเนียนไม่เป็นก้อน นอกจากนี้กระบวนการผลิตเนื้อเจลให้อยู่ในสถานะไอโซโทนิก ทำให้หลังฉีดมีอาการบวมน้อย เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที ครับ
ดังนั้นข้อปฏิบัติตัวก่อนและหลังทำ ไม่แตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ก่อนฉีดควรศึกษารายละเอียดของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ วิธีสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้นครับ
ฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม
หลังฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux จะเห็นผลชัดเจนทันที มีโอกาสบวมน้อยมาก หากมีอาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้นได้เองใน 1-2 สัปดาห์ครับ และจะคงผลลัพธ์ได้ยาวนาน 9-12 เดือน แตกต่างตามรุ่นที่เลือกใช้และการปฏิบัติตน ดูแลตนเองของคนไข้หลังทำครับ
- BIOHYALUX Derm lines อยู่ได้ 9-12 เดือน
- BIOHYALUX Deep dermis อยู่ได้ 9-12 เดือน
- BIOHYALUX Fine Line อยู่ได้ 9-12 เดือน
- BIOHYALUX Lips อยู่ได้ 6-9 เดือน
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux ไม่แตกต่างกับการฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ครับ โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้
- หลังฉีดฟิลเลอร์ในวันแรก ๆ อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำได้ เป็นอาการปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน แต่หากหลังจาก 3 วัน มีการบวมมากขึ้น ผิวหนังเปลี่ยนสีหรือมีตุ่มหนอง ให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อประเมินอาการและรับยากินเพิ่มครับ
- ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ควรหยุดยาเอง หากมีความผิดปกติหลังทานยา เช่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ให้รีบติดต่อกลับมาที่คลินิกครับ
- อยู่ในที่มีอากาศเย็น ไม่ร้อนจนเกินไป หรือตากแดดเป็นเวลานาน ๆ หากจำเป็น ควรสวมหมวก กางร่ม หรืออุปกรณ์ป้องกันไม่ให้ความร้อนสัมผัสบริเวณที่ฉีด
- ใน 2-3 คืนแรก ควรนอนโดยใช้หมอนหนุนศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ เพื่อให้ศีรษะอยู่สูงกว่าระดับหน้าอก งดการนอนตะแคง แนะนำให้ใช้หมอนมากันใบหน้าทั้งด้านซ้ายและขวาเพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีด
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู ได้รูป และช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ Biohyalux ผ่าน อย. ไทย กี่รุ่น
ฟิลเลอร์ Biohyalux ผ่าน อย. ไทย ไหม ได้รับการรับรองมาตรฐาน อะไรบ้าง
ฟิลเลอร์ Biohyalux ได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย 4 รุ่น โดยทุกรุ่นได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา ในประเทศไทย (ผ่าน อย. ไทย) , CFDA, US-FDA, มาตรฐาน CE, EDQM และองค์การอาหารและยากว่า 12 ประเทศทั่วโลก จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยครับ
ฟิลเลอร์ Biohyalux ผ่าน อย.ไทย ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
- BIOHYALUX Derm lines กล่องสีม่วง
- BIOHYALUX Deep dermis กล่องสีทอง
- BIOHYALUX Fine Line กล่องสีฟ้า
- BIOHYALUX Lips กล่องสีชมพู
ฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux ที่ไหนดี ? พิจารณาราคา เพียงพอไหม ?
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสนใจฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux แต่ไม่รู้ว่าจะฉีดที่ไหนดี หมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลทั้งในด้านของตัวผลิตภัณฑ์ว่าเป็นของแท้ นำเข้ามาในประเทศไทยผ่านบริษัทตัวแทนอย่างถูกต้อง แพทย์ที่ฉีดมีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ และเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยหมอจะแนะนำเช็กลิสต์การเลือกคลินิกดังต่อไปนี้ครับ
ฟิลเลอร์ Biohyalux ที่ไหนดี
วิธีการเลือกคลินิก
- มีการแสดงชื่อ ภาพถ่าย รวมทั้งเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักของผู้ประกอบการหรือคลินิกนั้น ๆ ให้เห็นได้อย่างชัดเจน
- ในบริเวณคลินิกสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีแสงสว่างเพียงพอ ห้องหัตถการกว้างขวาง
- อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อ ถูกต้องตามหลักอนามัย
- ควรเลือกทำกับคลินิกที่มีคุณหมอแบบ Full-time ประจำอยู่ เพราะแพทย์ที่อยู่ประจำจะมีการติดตามการรักษาได้ต่อเนื่องและย่อมจะรักษาชื่อเสียงของคลินิกได้มากกว่าแพทย์ Part-time
- สถานที่ตั้งของคลินิก ควรอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรืออยู่ในบริเวณที่มีผู้คนผ่านไปมาตลอดทั้งวัน มีความปลอดภัย และเดินทางไปได้สะดวก โดยเฉพาะกรณีที่เกิดปัญหาที่ต้องรีบเข้ามาติดต่อที่คลินิก
- คลินิกควรมีช่องทางติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Line@ หรือ Facebook สำหรับให้คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับคุณหมอที่ทำเคสของตนเองโดยตรงได้อย่างสะดวก
- ควรมีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง เปรียบเทียบผลการรักษา ก่อนทำ-หลังทำ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
วิธีการเลือกแพทย์
- มีป้ายประจำตัวแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม นำชื่อ – นามสกุลของหมอไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้
- มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 5 ปี
- มีรีวิวในแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น pantip, facebook ที่คลินิกไม่สามารถลบข้อความได้ ว่ามีที่ผ่านมาเคยมีผู้ที่เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์จากคุณหมอท่านนั้นมากน้อยเพียงใด และคุณหมอเคยมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์มาเยอะหรือไม่ และคำบอกเล่าประสบการณ์จากผู้ใช้บริการจริง
- หากมีคลิปรีวิว ที่ไม่ได้มีการแต่งภาพเพิ่ม จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ครับ
- สามารถเข้าไปปรึกษาและตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำได้
- ก่อนฉีด หมออธิบายผลิตภัณฑ์ ชี้ให้เห็นถึงเลข Lot. วันหมดอายุ แกะกล่อง แกะหลอดฟิลเลอร์ต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์ของแท้ และนำหลอดที่ฉีดแล้วกลับบ้านเพื่อตรวจสอบได้
ฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux ที่ V Square Clinic
V square clinic เป็นคลินิกเสริมความงามชั้นนำ มี 24 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้บริการการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยมาอย่างยาวนาน โดยแพทย์มากประสบการณ์ เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง
รวมถึงฟิลเลอร์ Biohyalux ของแท้ สามารถตรวจสอบได้ แกะกล่อง แกะหลอดต่อหน้าเพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าคนไข้จะได้รับผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีขั้นตอนการดูแลนัดติดตามผลหลังทำ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและคนไข้ได้รับความพึงพอใจที่สุดครับ
ฟิลเลอร์ Biohyalux ราคา โปรโมชั่น
ฟิลเลอร์ Biohyalux ราคาเริ่มต้นประมาณ 7,xxx บาทต่อ 1 CC ซึ่งใกล้เคียงกับฟิลเลอร์เกาหลีที่กำลังได้รับความนิยม และราคาถูกกว่าฟิลเลอร์จากยุโรปหรืออเมริกาครับ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าคุ้มราคา แต่ยังให้ผลลัพธ์ที่ดี ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยครับ
สรุป
ฟิลเลอร์ Biohyalux เป็นฟิลเลอร์จากประเทศจีน ที่ได้การรับรองมาตรฐานจากหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในไทย จีน และสหรัฐอเมริกา มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ฉีดแล้วให้ความเรียบเนียน ผสานกับผิวได้ดี ไม่เป็นก้อน หลังฉีดสามารถใช้หน้าได้ทันที โอกาสบวมน้อย ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับผลที่ได้รับครับ
