ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก
ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก เกิดจากอะไร ? อันตรายมากแค่ไหน ? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยและกังวลโดยเฉพาะผู้ที่กำลังตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์ ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบ พร้อมทั้งแนะนำวิธีการแก้ไขและป้องกันฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตกได้อย่างไร สามารถติดตามอ่านได้ครับ
สารบัญ ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก
ฉีดโบท็อกหนังตาตก
ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก เป็นอาการข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้ปกติในเคสที่ฉีดโบท็อกซ์หว่างคิ้ว ตีนกา หางตา หางคิ้ว ลดริ้วรอยหน้าผาก เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวมีกล้ามเนื้อที่ใช้ยกเปลือกตาบน Levator palpebrae superioris muscle หากฉีดโบท็อกซ์ไปโดนก็จะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อยกเปลือกตาทำงานได้น้อยลงและอ่อนแรงลง ส่งผลให้หนังตาตก หรือเปลือกตาไม่มีแรงยกขึ้น
ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ?
ฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
- อาการบวมเข็มหลังฉีดโบท็อก
เมื่อโบท็อกเริ่มออกฤทธิ์ คนไข้อาจมีความรู้สึกตึง ๆ ในช่วงแรก และคิดว่าหนังตาตก เป็นอาการปกติที่พบได้ทั่วไปหลังฉีดโบท็อก ไม่อันตรายครับ จะค่อย ๆ ดีขึ้นและสามารถกลับมาเป็นปกติได้เองตามธรรมชาติ ดังนั้นไม่ต้องกังวลครับ
- ฉีดโบท็อกผิดตำแหน่ง
การฉีดโบท็อกผิดตำแหน่ง มักเกิดจากการที่แพทย์ขาดประสบการณ์ ไม่ชำนาญในการฉีดโบท็อก ฉีดไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น หรือฉีดใกล้กล้ามเนื้อที่ใช้ยกเปลือกตามากเกินไป ทำให้ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก
- ฉีดโบท็อกปริมาณมากเกินไป
หากใช้ปริมาณโบท็อกซ์เยอะเกินไป (ผสมน้ำเกลือมากเกินไป) หลังฉีดอาจทำให้ตัวยากระจายตัวกว้าง ไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการ
- ใช้ยี่ห้อโบท็อกซ์ไม่เหมาะสม
โบท็อกซ์มีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและเหมาะกับการใช้แก้ปัญหาในจุดที่แตกต่างกัน หากเลือกใช้ยี่ห้อโบท็อกซ์ไม่เหมาะสมก็จะทำให้ผลลัพธ์ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรืออาจเกิดผลข้างเคียงทำให้หนังตาตกได้
- ใช้โบท็อกซ์ปลอม โบท็อกหิ้ว
ส่วนใหญ่มักเกิดกับเคสที่ไปฉีดโบท็อกกับหมอกระเป๋า ใช้โบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว ตัวยาไม่บริสุทธิ์ ไม่มีคุณภาพทั้งในด้านผลลัพธ์และการเก็บรักษา ทำให้ฉีดแล้วอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก เกิดการติดเชื้อ หรืออาจดื้อโบท็อกซ์ได้ครับ
- ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ผิดวิธี
หลังฉีดโบท็อก คนไข้ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรขยี้ตาหรือนวดคลึงใบหน้าในบริเวณที่ฉีดโบท็อกทันที เพราะจะทำให้โบท็อกที่ฉีดกระจายไปยังจุดอื่น หากโดนกล้ามเนื้อที่ใช้ยกเปลือกตาบนก็จะอ่อนแรงลงและทำให้หนังตาตก
ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก อันตรายมากไหม ?
อาการหลังฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก ไม่อันตรายหากคนไข้ฉีดด้วยโบท็อกแท้ เพราะการออกฤทธิ์ของโบท็อกจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป 4-6 เดือน โบท็อกจะสลายหมดไปเอง หนังตาตกก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นและกลับมาเป็นปกติครับ
ข้อควรรู้ : สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาฉีดโบท็อกหนังตาตกที่ผิดปกติ มั่นใจแล้วว่าไม่ใช่อาการบวมเข็มหลังฉีดโบท็อก หมอแนะนำให้รีบเข้าพบแพทย์ เพื่อแก้ไขให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานเป็นปกติให้เร็วที่สุด ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะโบท็อกอาจออกฤทธิ์มากขึ้นเรื่อย ๆ และแก้ไขได้ยากขึ้นครับ
ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก แก้ไขได้อย่างไรบ้าง ?
หากฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก สามารถใช้ความร้อนช่วยเร่งการสลายของตัวยาโบท็อกได้ครับ เช่น การทำ Hifu, Ulthera, Thermage การทำเลเซอร์ ซาวน่า ทรีทเมนต์ นวดหน้า สปา อบไอน้ำ ความร้อนจะเข้าไปยับยั้งโบท็อกที่ยังไม่ออกฤทธิ์และกระตุ้นให้โบท็อกที่ออกฤทธิ์แล้วสลายตัวได้เร็วขึ้น แนะนำให้ทำในช่วงหลังฉีดโบท็อก 2 สัปดาห์ เพราะตัวยายังไม่จับกับกล้ามเนื้อมากนัก
ทั้งนี้ในเคสที่ฉีดโบท็อกหนังตาตก แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยาหยอดตาที่ช่วยเพิ่มการทำงานของเปลือกตา ร่วมกับการใช้วิธีเร่งสลายโบท็อก จะช่วยให้อาการหนังตาตกกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น
มีวิธีป้องกันไม่ให้ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก ได้อย่างไร ?
วิธีป้องกันการฉีดโบท็อกหนังตาตก ต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกครับ คนไข้ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทำหัตถการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้ตำแหน่งและเทคนิคการฉีด ที่สำคัญคือต้องใช้ตัวยา Botox แท้ในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงหลังทำควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตกได้ครับ
ก่อน – หลังฉีดโบท็อกควรรู้อะไรบ้าง เพื่อป้องกันปัญหาหนังตาตก
ก่อนฉีดโบท็อกซ์ หมออยากให้คนไข้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เลือกฉีดในคลินิกที่น่าเชื่อถือ อย่าเห็นแก่โปรโมชันฉีดโบท็อกราคาถูก เพราะคนฉีดอาจไม่ใช่แพทย์ และเสี่ยงเจอโบท็อกซ์ปลอม โบท็อกซ์หิ้ว ฉีดแล้วนอกจากไม่ช่วยลดริ้วรอย ลดกรามได้ตามที่ต้องการแล้ว ยังอาจทำให้เกิดปัญหาหน้าพัง หนังตาตกได้
ส่วนหลังฉีดโบท็อกซ์ ให้คนไข้รีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง บริหารกล้ามเนื้อที่ฉีดเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดซึมเข้าไปให้มากที่สุด แต่ไม่ควรนวดคลึงบริเวณที่ฉีด รวมถึงนอนราบ นอนตะแคง 3 ชม. และงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้โบท็อกที่ฉีดไหลไปยังกล้ามเนื้ออื่น หากโดนกล้ามเนื้อที่ใช้เปิดตา ก็จะอ่อนแรงและทำให้หนังตาตกครับ
ฉีดโบท็อกปลอม – ดื้อโบท็อก อันตรายมากแค่ไหน ?
การใช้โบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่าน อย. อาจส่งผลเสียทำให้ตัวยากระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น เกิดอาการฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก ปากเบี้ยว เสี่ยงต่อการแพ้ เกิดการติดเชื้อ หรืออาจเกิดการดื้อโบท็อกซ์ ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อยลง เพื่อป้องกันอันตรายจากการฉีดโบท็อกปลอม ก่อนฉีดคนไข้ควรศึกษาวิธีดูโบท็อกแท้ และให้หมอแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ให้ดูต่อหน้า เพื่อมั่นใจว่าเป็นของแท้ครับ
โบท็อกแท้ – โบท็อกปลอม ดูอย่างไร ?
วิธีดูโบท็อกแท้ โบท็อกปลอม สามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ ดังนี้
- โบท็อกแท้ต้องมีฝาพลาสติกใสปิดทับอยู่ด้านบน
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
- มีวันผลิตและวันหมดอายุที่กล่องกับขวดตรงกัน
- เลข Lot. 2 จุด ตรงกัน คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
- มีข้อมูลระบุเกี่ยวกับบริษัทนำเข้า สามารถโทรไปเช็กเลข Lot. ได้
- เป็นยาเคลือบที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
แก้ปัญหาฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตกได้แล้ว ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?
เมื่อแก้อาการหนังตาตกจากการฉีดโบท็อกได้แล้ว คนไข้ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หลังฉีดโบท็อก มีข้อควรปฏิบัติ ข้อห้าม และวิธีการดูแลตัวอย่างไร ? หมอเคยเขียนอธิบายไว้อย่างละเอียด สามารถติดตามอ่านได้ครับ
แก้ปัญหาฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก ที่ไหนดี พิจารณาอะไรบ้าง ?
การแก้ปัญหาฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก ไม่ใช่ว่าจะทำกับใครที่ไหนก็ได้ครับ ควรเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความเข้าใจในปัญหา สามารถวิเคราะห์ ประเมินสาเหตุและอาการของคนไข้ วางแผนการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มีประสบการณ์สูงและมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก สามารถเข้ามาปรึกษาหมอที่หน้าสาขาหรือส่งรูปมาใน Inbox ก่อนได้ครับ หมอจะช่วยประเมินอาการ และแนะนำวิธีการรักษาอย่างตรงจุด ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สรุป
ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก ไม่เป็นอันตราย แม้จะใช้ของแท้ หมอเก่ง ก็อาจเกิดขึ้นได้ครับ หากคนไข้มีอาการหนังตาตกหลังจากฉีดโบท็อก ให้ประเมินอาการดูก่อนว่าเป็นอาการบวมเข็มหลังฉีดโบท็อกหรือไม่ หรือเป็นอาการข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ตัวยาไม่ได้คุณภาพ ฉีดกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ควรแก้ไขอย่างเหมาะสมและป้องกันในการฉีดโบท็อกครั้งต่อไป เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยครับ